กรุงเทพฯ--6 ม.ค.--มูลนิธิสดศรี-สฤษดิ์วงศ์
ดอกไม้ที่จัดเข้าช่ออย่างสวยงามวางเรียงนำสายตาจากทางเดินเข้ามาในหอผู้ป่วย คงไม่ใช่ภาพที่หาดูได้ง่ายนักในโรงพยาบาลที่คละคลุ้งไปด้วยกลิ่นยา และบรรดาผู้ป่วยที่อัดแน่นเพื่อรอคิวรักษา แต่สำหรับที่ตึกอายุรกรรม หรือตึกผู้ป่วยเอดส์ ชั้น 3 สถาบันบำราศนราดูร นั้นดอกไม้กับผู้ป่วยกลายเป็นเรื่องที่คุ้นชิน ถึงแม้โรคจะรุมเร้าร่างกายให้อ่อนล้าโรยแรง แต่ด้านจิตใจแล้วผู้ป่วยที่นี่กลับชุ่มชื่น มีชีวิตชีวา ด้วยดอกไม้ช่องาม ฝีมือการจัดแต่งของหัวหน้าตึกอายุรกรรม พี่อ้อง พุทธิพร ลิมปนดุษฎี
พี่อ้องทำงานคลุกคลีดูแลผู้ป่วยเอดส์มานานถึง 20 ปี ตั้งแต่เมืองไทยยังไม่มีความรู้ความเข้าใจเรื่องโรคเอดส์ดีพอ ไม่เว้นแม้แต่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขด้วยกันเอง ทำให้พี่อ้องพบเจอแรงเสียดทานต่างๆ รอบด้าน ต้องปาดน้ำตามาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน แต่ด้วยพลังแรงใจที่ผู้ป่วยเอดส์มีให้เธอ อย่างกรณีที่เธอเคยถูกคนไข้ทำร้ายจนเกือบเอาชีวิตไม่รอดไม่ต่ำกว่า 3 ครั้ง ก็ได้ผู้ป่วยเอดส์นี่แหละที่ยอมเอาชีวิตเข้าแลกเพื่อช่วยชีวิตเธอ
“จำได้ว่ามีคนไข้ติดยาเสพติดโมโหอาละวาด พี่ก็เข้าไปคุยกับเขาดีๆ ปรากฏว่าเขาวิ่งไปคว้ากรรไกรตัดสายน้ำเกลือมาไล่แทงพี่ๆ ก็วิ่งไปสะดุดล้มมาถึงเตียงคนไข้ที่ติดเชื้อปอดอักเสบจากเชื้อราต้องให้ออกซิเจน คนไข้บอกว่าผมจะช่วยพี่อ้องเอง เขาดึงสายออกซิเจนออกและใช้ตัวเขากระทุ้งไปที่ตัวคนไข้ที่จะทำร้ายพี่ ชนจนเสียหลัก หลักจากนั้นพนักงานรักษาความปลอดภัยและตำรวจก็เข้ามารวบตัวคนไข้ที่จะทำร้ายพี่ไว้ได้”
จากนั้นพี่หันกลับไปดูคนไข้ที่เสี่ยงชีวิตช่วยพี่เห็นตัวเขาเขียวหมดแล้ว จึงรีบยกตัวคนไข้ขึ้นและใส่ออกซิเจน ภาวนาให้คนไข้ปลอดภัย และก็โชคดีจริงๆ ที่คนไข้ปลอดภัย พี่เข้าไปจับมือและไหว้เขาขอบคุณที่ช่วยชีวิตเรา ตอนนั้นน้ำตาไหลพราก สงสารคนไข้อย่างจับใจ เขาตอบกลับมาว่าไม่ต้องขอบคุณเขาหรอก เพราะพี่เคยช่วยชีวิตเขาไว้เช่นกัน ชีวิตเขาไม่มีค่าอะไร แต่ชีวิตพี่อ้องมีค่าต่อคนไข้เอดส์อีกหลายต่อหลายชีวิต ฟังแล้วพี่ยิ่งน้ำตาคลอเบ้าโผเข้าไปกอดเขา คิดเสมอว่าการเป็นหนี้บุญคุณคนไข้เอดส์ครั้งนี้ เป็นแรงผลักดันที่ทำให้เราต้องอุทิศตนเพื่อดูแลคนไข้เอดส์ให้ดีที่สุดต่อไป โดยได้พยายามจัดสภาพแวดล้อมในหอผู้ป่วยให้เสมือนบ้าน มีดอกไม้ประดับประดา มองแล้วเกิดความรู้สึกสบายใจ
พี่อ้องเล่าด้วยความปิติต่อว่า ความยากลำบากในการดูแลผู้ป่วยเอชไอวี นอกจากในเรื่องความเสี่ยงของการติดเชื้อแล้ว ยังต้องพบเจอโรคอื่นๆ ร่วมด้วย แต่สำหรับพี่อ้องแล้ว หิด เหา หนอน เราเป็นเพื่อนกัน เพราะคนไข้ที่มารับการรักษาแต่ละคนบางครั้งไม่ได้อาบน้ำมาเป็นแรมเดือน จำได้ว่ามีคุณลุงคนหนึ่งมีทั้งหิดและหนอนอยู่ในตัว นิ้วของลุงเป็นรังของหนอน สิ่งนี้ทำให้พี่อ้องได้ยกระดับจิตใจตัวเองว่าจะปฎิบัติตัวและพูดจากับผู้ป่วยอย่างไรเพื่อไม่ให้เป็นการทำลายน้ำใจ เมื่อทำความสะอาดลุงสะอาดสะอ้านแล้ว ลุงได้กล่าวขอบคุณพี่อ้อง ซึ่งเมื่อย้อนกลับไปนึกถึงเรื่องนี้ครั้งใด ทำให้รู้สึกอิ่มเอมใจทุกครั้ง และระลึกเสมอว่าการให้ความรักต่อคนไข้นับเป็นการเยียวยาขั้นพื้นฐานที่จะช่วยให้คนไข้เกิดพลัง เกิดกำลังใจที่จะต่อสู้กับโรคร้ายที่กำลังเผชิญ หรือถ้าเขาต้องจากไป เขาก็จะจากไปอย่างสงบและสุขใจ
ตลอดชีวิตการทำงานของพี่อ้องได้ทุ่มเทให้กับการดูแลผู้ป่วยเอดส์ ต้องพบเจอประสบการณ์ทั้งร้ายและดี เธอคนนี้ได้ฟันฝ่ามรสุมอันเลวร้าย โดยไม่คิดกล่าวโทษใคร แต่กลับเลือกที่จะเก็บเกี่ยวสิ่งดี ๆ เพื่อเป็นพลังยืนหยัดในการดูแลผู้ป่วย เพราะผู้ป่วยเอดส์เป็นเสมือนครูที่สอนให้เธอเรียนรู้ที่จะพัฒนายกระดับจิต ด้วยการมีความสุขทุกวันในการทำงาน แม้งานนั้นจะเหนื่อยยากก็ตาม
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit