กรุงเทพฯ--4 ม.ค.--ศปถ.
ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2553 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สรุปสถิติอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2553 ประจำวันที่ 30 ธ.ค. 52 เกิดอุบัติเหตุทางถนนรวม 667ครั้ง ผู้เสียชีวิต 51 ราย บาดเจ็บ 729 ราย รวมสะสม 2 วัน เกิดอุบัติเหตุ 1,115 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 91 คน ผู้บาดเจ็บ 1,225 คน สาเหตุหลักยังเกิดจากเมาแล้วขับ เน้นย้ำจุดตรวจเข้มงวดผู้ขับขี่โดยเฉพาะเด็กและเยาวชนที่มีอาการเมาบนเส้นทางสายรองในช่วงหลังเวลา 24.00 น.พร้อมกำชับกวดขันการดำเนินการตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างเคร่งครัด
นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ประธานแถลงข่าวสถิติอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2553 ประจำวันที่ 31ธ.ค. 52 เปิดเผยว่า ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2553 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้รวบรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 30 ธ.ค. 52 ซึ่งเป็นวันที่สองของการรณรงค์ “7 วันขับขี่ปลอดภัย เทิดไท้องค์ราชัน” พบว่า เกิดอุบัติเหตุ รวม 667 ครั้ง ลดลงจากปี 2552 (882 ครั้ง) จำนวน 215 ครั้ง ร้อยละ 24.38 ผู้เสียชีวิต 51 คน ลดลงจากปี 2552 (87 คน) จำนวน 36 คน ร้อยละ 41.38 ผู้บาดเจ็บ 729 คน ลดลงจากปี 2552 (960 คน) จำนวน 231 คน ร้อยละ 24.06 สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เมาสุรา ร้อยละ 37.48 รองลงมา ขับรถเร็วเกินกำหนด ร้อยละ 20.39 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 84.06 ส่วนใหญ่เกิดในเส้นทางตรง ร้อยละ 61.17 บนทางหลวงแผ่นดิน ร้อยละ 36.28 ถนน อบต./ หมู่บ้าน ร้อยละ 31.63 ช่วงที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ กลางคืน ร้อยละ 67.77 โดยเฉพาะช่วงเวลา 16.01 – 20.00 น. ร้อยละ 34.03 ผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มวัยแรงงาน ร้อยละ 53.85 จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เชียงราย 39 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ เชียงราย 4 คน รองลงมา ได้แก่ ขอนแก่น ชลบุรี 3 คน จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ เชียงราย 46 คน รองลงมา ได้แก่ นครสวรรค์ 28 คน จังหวัดที่ไม่เกิดอุบัติเหตุ มี 6 จังหวัด ได้แก่ ชัยภูมิ ยโสธร ยะลา สกลนคร สมุทรสงคราม และสระบุรี ทั้งนี้ ได้จัดตั้งจุดตรวจหลัก 2,672 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 67,483 คน เรียกตรวจยานพาหนะ 646,781 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดี รวม 61,836 ราย ส่วนใหญ่ ไม่มีใบขับขี่ 21,689 ราย ร้อยละ 36.38 รองลงมา ไม่สวมหมวกนิรภัย 18,476 ราย ร้อยละ 33.86
สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสม 2 วัน (วันที่ 29 – 30 ธ.ค. 52) เกิดอุบัติเหตุรวม 1,115 ครั้ง ลดลงจากปี 2552 (1,478 ครั้ง) จำนวน 363 ครั้ง ร้อยละ 24.56 ผู้เสียชีวิตรวม 91 คน ลดลงจากปี 2552 (143 คน) จำนวน 52 คน ร้อยละ 36.36 ผู้บาดเจ็บรวม 1,225 คน ลดลงจากปี 2552 (1,595 คน) จำนวน 370 คน ร้อยละ 23.20 จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสูด ได้แก่ เชียงราย 52 ครั้ง รองลงมา ได้แก่ เพชรบูรณ์ 35 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ จันทบุรี ชลบุรี (5 คน) รองลงมา ได้แก่ เชียงราย (4 คน) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงราย
(61 คน) รองลงมา นครศรีธรรมราช เพชบูรณ์ (42 คน) จังหวัดที่ไม่เกิดอุบัติเหตุในช่วง 2 วัน ได้แก่ ชัยภูมิ ยโสธร จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิตในช่วง 2 วัน มี 28 จังหวัด จังหวัดที่ไม่มีผู้บาดเจ็บในช่วง 2 วัน มี 4 จังหวัด ได้แก่ ฉะเชิงเทรา ชัยภูมิ ยโสธร และสมุทรสงคราม
นพ.ไพจิตร์ กล่าวต่อว่า วันนี้เป็นวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่คาดว่าประชาชนจำนวนมากจะไปร่วมงานรื่นเริงตามสถานบริการและสถานท่องเที่ยวต่างๆ ประกอบกับจากสถิติอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ พบว่า วันที่ 31 ธันวาคม และวันที่ 1 มกราคม ของทุกปี เป็นวันที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด โดยมีสาเหตุหลักจากการเมาสุราสูงถึงร้อยละ 47 และเป็นอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์มากกว่าร้อยละ 80 บนถนนสายรอง ร้อยละ 50 ในช่วงเวลากลางคืนเกิดอุบัติเหตุมากที่สุด ถึงร้อยละ 70 ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน จึงได้สั่งการให้จังหวัดเร่งแก้ปัญหาอุบัติเหตุจากการดื่มสุราแล้วขับ โดยเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจทั้งสายหลักและสายรองผลัดเปลี่ยนกำลังปฏิบัติหน้าที่อย่างต่อเนื่อง กวดขันเรียกตรวจ
ผู้ขับขี่ที่มีอาการเมา โดยเฉพาะเด็กและเยาวชน ในช่วงหลังเวลา 24.00 น. ซึ่งเป็นช่วงที่ประชาชนเลิกจากการเฉลิมฉลอง เพื่อตรวจวัดระดับแอลกฮอล์ และตักเตือนมิให้ขับขี่รถออกนอกพื้นที่ จัดหาที่พักผ่อนรอจนทุเลาเป็นปกติ หรือให้ผู้ปกครองมารับตัวกลับไปพักผ่อน รวมถึงกำชับให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องดำเนินการตาม พ.ร.บ.เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 กวดขันการงดจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดแก่ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี และบุคคลที่มีอาการเมา ควบคุมการห้ามจำหน่ายในช่วงเวลาที่กำหนด(11.00 – 14.00 น. และ17.00 – 24.00 น.) และห้ามมิให้จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในการจัดงานออกร้านในสถานที่ราชการ วัด โรงเรียน สวนสาธารณะ ตลอดจนเร่งประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการทราบถึงความผิดตามกฎหมายของการจำหน่ายกระเช้าของขวัญสำเร็จรูปที่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน นอกจากนี้ พบว่า ในช่วงนี้ภาคกลาง ภาคตะวันออกมีฝนตกกระจาย ทำให้ถนนเปียกลื่น ส่วนภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีหมอกลงจัด ส่งผลให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นลดลง ประกอบกับความไม่ชำนาญเส้นทางของผู้ขับขี่ จึงเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนนมากขึ้น จึงขอให้ผู้ขับขี่ขับรถด้วยความระมัดระวัง หมั่นสังเกตป้ายสัญญาณจราจร ป้ายเตือนตามเส้นทางเสี่ยงต่างๆ พร้อมให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดเจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจให้คำแนะนำแก่ประชาชน สำหรับประชาชนที่จะไปเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ตามสถานบันเทิงต่างๆ ให้เที่ยวสถานบันเทิงที่มีมาตรฐานความปลอดภัยตามที่กฎหมายกำหนด พร้อมตรวจสอบประตูเข้าออก ทางหนีไฟต้องมีหลายทางและมีขนาดกว้างเพียงพอต่อการอพยพหนีภัย ทั้งนี้ เพื่อเป็นการป้องกันอุบัติภัยในช่วงดังกล่าว ขอให้จังหวัด และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดชุดเฝ้าระวัง ช่วยเหลือประชาชนในทันทีที่เกิดเหตุ