กรุงเทพฯ--19 ม.ค.--โอเรียนทัล อายส์
ดึงนักแสดงดังฮ่องกง “ชอน หยู” ร่วมในภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ “มาย เบสท์ บอดี้การ์ด”
“โอเรียนทัล อายส์” ค่ายหนังไทยฟอร์มสดโชว์แผนธุรกิจภาพยนตร์ ปี 2553 ประกาศจับมือพันธมิตรใหญ่ระดับอินเตอร์ “มีเดีย เอเชีย กรุ๊ป” จากฮ่องกง ให้เป็นผู้จัดจำหน่ายภาพยนตร์ไทยในตลาดต่างประเทศ 2 เรื่อง ได้แก่ 9 วัด และ มาย เบสท์ บอดี้การ์ด พร้อมรุกธุรกิจภาพยนตร์ไทยทั้งตลาดในประเทศและตลาดต่างประเทศควบคู่กันไป เสริมกลยุทธ์การตลาดด้วยการดึงนักแสดงดังฮ่องกง “ชอน หยู” ร่วมแสดงในภาพยนตร์ไทยแอ็คชั่นฟอร์มยักษ์ “มาย เบสท์ บอดี้การ์ด”
เอราวัณ แยกราชประสงค์ 18 ม.ค. 2553 – นายวัชรินทร์ สุทธิประภา กรรมการผู้จัดการและผู้บริหารงานสร้าง บริษัท โอเรียนทัล อายส์ จำกัด ในนามผู้ผลิตภาพยนตร์ไทยเรื่อง “9 วัด” และ “มาย เบสท์ บอดี้การ์ด” เปิดแถลงข่าวมอบสิทธิ์การจัดจำหน่ายภาพยนตร์ไทย 2 เรื่อง ในตลาดต่างประเทศทั่วโลก ให้กับตัวแทนจัดจำหน่ายภาพยนตร์ชื่อดังของเอเชีย มีเดีย เอเชีย ดิสทริบิวชั่น จากฮ่องกง พร้อมทั้งเปิดตัวนักแสดงชื่อดังชาวฮ่องกง “ชอน หยู” มาร่วมงานแสดงภาพยนตร์แอ็คชั่นฟอร์มยักษ์ “มาย เบสท์ บอดี้การ์ด” ด้วย
“สำหรับนโยบายการตลาด “Out Side In” ของ โอเรียนทัล อายส์ ให้ความสำคัญกับการมองปลายทางธุรกิจภาพยนตร์ทั้งในประเทศและต่างประเทศควบคู่กันไป เนื่องด้วยภาพยนตร์ไทยมีเอกลักษณ์ รากวัฒนธรรมความเป็นตะวันออกที่ชัดเจน ทีมงานผลิตที่มีคุณภาพ มาตรฐานเป็นที่ยอมรับในระดับสากล โอเรียนทัล อายส์ ต้องการนำจุดแข็งความเป็นตะวันออกมาผสมผสานเป็นภาพยนตร์ไทยออกสู่สายตาคนทั่วโลก พร้อมจับมือกับพันธมิตรที่มีศักยภาพ สามารถเชื่อมโยงหนังไทยออกไปสู่ตลาดสากล ทั้งในแง่ของบท นักแสดง สตูดิโอ แต่ยังคงไม่ลืมวิถีหนังไทย ความต้องการของตลาดในประเทศ ควบคู่กับการมองภายนอกกลับเข้ามา เพื่อเรียนรู้แนวทางตลาดต่างประเทศ ทิศทางของเอเชีย ภูมิภาคยุโรป เอเชีย อเมริกา ในขณะที่ โอเรียนทัล อายส์ เข้ามาอยู่ในกลุ่มธุรกิจเดียวกันนี้ จึงต้องมองหาตลาดอื่นเข้ามาเสริมธุรกิจให้แข็งแรงและดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง เราเป็นค่ายหนังใหม่แล้วก็เป็นนิวเวฟของทางซีนีมา ที่กล้านำไปขายต่างประเทศ เราต้องหาไอเดียใหม่ที่ไม่เหมือนค่ายภาพยนตร์อื่น”
ขณะที่ นาย โรเบิร์ต ลี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและจัดจำหน่าย บริษัท โอเรียนทัล อายส์ จำกัด ได้กล่าวเสริมว่า “สำหรับตลาดหนังไทยในปี 2553 ตลาดในประเทศเริ่มมีพื้นที่ว่างแล้ว คิดว่ารายได้ของภาพยนตร์ไทยในปีนี้จะกลับมาดีขึ้นอีกครั้ง เป็น evolution ในทางกลับกัน ผู้สร้างซึ่งมีอยู่กว่า 10 ราย แต่อนาคตอาจจะเพิ่มขึ้น ทำให้ตลาดหนังไทยมีการขยายตัวเพิ่มมากขึ้น
และในฐานะบริษัทผู้สร้างภาพยนตร์ไทยแอ็คชั่นฟอร์มยักษ์ เรื่อง มาย เบสท์ บอดี้การ์ด ที่เน้นฉากแอ็คชั่นให้ดูสมจริงและมีมาตรฐานการผลิตเทียบเท่าระดับสากล โอเรียนทัล อายส์ จึงได้ใช้ทีมงานชาวฮ่องกงที่มีประสบการณ์การดีไซน์และกำกับฉากแอ็คชั่นให้กับภาพยนตร์ระดับฮอลลีวู้ดมากมาย เข้ามาร่วมงานสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ เพื่อออกแบบฉากการต่อสู้-ไล่ล่าให้ดูสมจริงและมีความปลอดภัยทั้งต่อตัวนักแสดงและทีมงานทุกคน รวมทั้งยังดึงนักแสดงจากฮ่องกง ชอน ยู ที่มีผลงานและชื่อเสียงในระดับสากล อาทิ Infernal Affair ภาค 1-2-3 และ Initial D เข้ามาเสริมจุดแข็งให้กับภาพยนตร์ เพิ่มช่องทางการตลาดและการจัดจำหน่ายในตลาดต่างประเทศให้น่าสนใจและแข็งแรงยิ่งขึ้นอีกด้วย
ทั้งนี้ ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาภาพยนตร์ไทยหลายเรื่องได้รับความความสำเร็จทำรายได้สูงในต่างประเทศ โดยเฉพาะในทวีปเอเชีย ยุโรป และสหรัฐอเมริกามาแล้ว โดยเฉพาะภาพยนตร์ไทยที่มีเอกลักษณ์ แนวคิดที่แตกต่างออกไป ในฐานะผู้สร้างและผู้จัดจำหน่ายจึงต้องหาไอเดียใหม่ๆ มานำเสนอให้กับผู้ชมผู้บริโภค อย่างเช่นเรื่อง 9 วัด ต้องการนำเสนอเรื่องราวความเชื่อและศรัทธาในพระพุทธศาสนาเกี่ยวกับกระแสการทำบุญไหว้พระ 9 วัด เพื่อเสริมดวงและสะเดาะเคราะห์แก้กรรมผ่านตัวละครวัยรุ่นคนรุ่นใหม่ ซึ่งฟังดูห่างไกลกับเรื่องวัด แต่ภาพยนตร์ก็จะมีจุดดึงดูดเรื่องของเทรนด์กระแสแฟชั่น ความเป็นคนรุ่นใหม่ มีคอนเซ็ปท์การเล่าเรื่องที่น่าสนใจบนมาตรฐานงานสร้างที่มีคุณภาพ นอกเหนือจากความตื่นเต้นน่ากลัวของหนังผีเพียงอย่างเดียว ”
นาย ริคกี้ เจ้ ( Mr. Ricky Tse ) Head of Distribution Media Asia กล่าวถึง จุดสนใจที่ มีเดียเอเชีย รับจัดจำหน่ายภาพยนตร์ไทยเป็นครั้งแรก ว่า “ในฐานะของบริษัทรับจัดจำหน่าย มีเดีย เอเชีย เปิดกว้างสำหรับหนังทุกประเภทจากประเทศอื่นๆ สำหรับภาพยนตร์ไทยจะเห็นว่า หลายปีที่ผ่านมามีความโดดเด่นมากในตลาดภายในประเทศ และมีคุณภาพหนังที่ดี ภาพยนตร์ไทยสมควรจะได้รับโอกาสที่ดีในการผลักดันไปสู่ตลาดต่างประเทศมากขึ้น เราเชื่อมั่นอย่างจริงจังว่า โอเรียนทัล อายส์ มีศักยภาพในการผลิตภาพยนตร์ นั่นเป็นเหตุผลที่เราเลือกที่จะเริ่มจัดจำหน่ายภาพยนตร์ไทยเป็นครั้งแรกกับค่ายโอเรียนทัล อายส์
9 วัด เป็นหนังผีเขย่าขวัญที่มีเนื้อหาที่ดี และหนังเขย่าขวัญจากประเทศไทยก็เป็นที่รู้จักนิยมกันมากสำหรับผู้ขมในต่างประเทศ ส่วน มาย เบสท์ บอดี้การ์ด ก็เป็นหนังแอ็คชั่นเต็มรูปแบบ ซึ่งจะได้รับการตอบรับอย่างดีจากตลาดผู้ชมทั่วโลก
ส่วนตัวผมยังไม่ได้ดูหนังที่เสร็จสมบูรณ์ แต่เชื่อมั่นในผลของการจัดจำหน่ายหนังทั้ง 2 เรื่องนี้ เพราะนอกจากตลาดเอเชียแล้ว ยุโรปและอเมริกา ก็มีความสนใจในหนังไทย และหนังเขย่าขวัญจะไปได้ดีในตลาดยุโรป อย่างเช่น อังกฤษ เยอรมัน ส่วนหนังแอ็คชั่น เป็นที่สนใจของประเทศกลุ่มตะวันออกกลาง ยุโรปตะวันออกรวมทั้ง ละตินอเมริกาด้วย
ความเห็นส่วนตัวผม ก่อนหน้านี้ หนังไทยเน้นจับกลุ่มคนดูในประเทศ แต่ในช่วงไม่กี่ปีนี้ หนังไทยได้ก้าวเข้าไปมีบทบาทในตลาดต่างประเทศ ผู้สร้างหนังไทยเริ่มทำหนังที่จับรสนิยมคนดูต่างประเทศด้วย ซึ่ง “9 วัด” และ “มาย เบสท์ บอดี้การ์ด” เป็นหนังที่มีกลุ่มเป้าหมายในตลาดต่างประเทศ แต่ในขณะเดียวกัน ทั้งสองเรื่องก็เป็นหนังไทยที่มีสไตล์ความเป็นไทย และรสชาติความสนุกแบบหนังไทย
สำหรับความเป็นไปได้ของหนังไทยในตลาดโลก ช่วงหลายปีมานี้ มีผู้คนและบริษัทจัดจำหน่ายหนังมากขึ้น รู้จักภาพยนตร์ไทย ทำให้เรามั่นใจว่าจะมีโอกาสที่ดีในตลาดโลกอย่างแน่นอนงานสร้างของภาพยนตร์ไทย มีคุณภาพที่โดดเด่นเป็นที่จดจำในตลาดนานาชาติ พร้อมๆ กับคุณภาพบทและผู้กำกับฯ จึงไม่ยากที่จะก้าวไปสู่มาตรฐานระดับนานาชาติ”
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit