ส่งเสริมคุณค่าความดีด้วยธรรมะ ใน “โครงการเทคโนโลยีสยามอาชีววิถีพุทธ”

12 Jan 2010

กรุงเทพฯ--12 ม.ค.--โรงเรียนเทคโนโลยีสยาม

แม้โลกวันนี้เยาวชนคนรุ่นใหม่ไม่เพียงเป็นคนเก่ง ฉลาด หรือก้าวทันเทคโนโลยีที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาก็ตาม แต่ ‘การเป็นคนดีมีศีลธรรมจริยธรรม’ ที่ต้องควบคู่กันไปด้วย เป็นสิ่งที่สังคมโลกยุคใหม่ต้องการ เพื่อความสมานฉันท์ ความสงบสุข ความเจริญก้าวหน้าทั้งในชีวิตของตนเองและสังคมโลก

โรงเรียนเทคโนโลยีสยาม โดย ผู้ช่วยศาตราจารย์ ดร.จอมพงศ์ มงคลวนิช ผู้อำนวยการ ได้ตระหนักและให้ความสำคัญในการที่จะส่งเสริมเยาวชนคนรุ่นใหม่ให้มีคุณค่าและคุณภาพในสังคม จึงได้ร่วมกับสำนักส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และความมั่นคงแห่งสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร จัดตั้ง “โครงการเทคโนโลยีสยามอาชีววิถีพุทธ” โดยมี เจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เป็นผู้อุปถัมภ์โครงการดังกล่าว เพื่อส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรม ระหว่างโรงเรียน วัด และชุมชน ในกิจกรรมการเรียนการสอนธรรมศึกษาให้แก่ผู้เรียนสามารถนำไปปฏิบัติใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างแท้จริง

“การจัดการเรียนการสอนธรรมศึกษาของโรงเรียนเกิดขึ้นตามแผนพัฒนาสถาบันที่ต้องการให้ผู้เรียนมีคุณธรรมจริยธรรม ควบคู่กับความรู้ทางวิทยาการและเทคโนโลยีสมัยใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนไปของประชาคมโลก และมาตรฐานการอาชีวศึกษา เรื่องคุณธรรมจริยธรรม จึงได้สนับสนุนให้มีการจัดการเรียนการสอนธรรมศึกษาครั้งแรกปี 2544 โดยใช้ชื่อว่า โครงการธรรมศึกษา ในปี 2546 โรงเรียนได้รับอนุญาตจาก แม่กองธรรมสนามหลวง ให้เป็นสถานที่จัดสอบธรรมศึกษาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งมีนักเรียนนักศึกษาผ่านกระบวนการธรรมศึกษามากกว่า 20,000 คน และประสบความสำเร็จเป็นที่น่าพอใจเป็นอย่างมาก เพราะนักเรียนนักศึกษาที่ได้ผ่านหลักสูตรนี้เข้าใจหลักธรรมและแนวทางพระพุทธศาสนา ทั้งสนใจและตั้งใจในการศึกษาเล่าเรียน และดำรงตนอย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น สร้างความภูมิใจให้แก่ทางโรงเรียน ครูอาจารย์ และผู้ปกครองเป็นอย่างมาก

...และจนถึงปีนี้ เพื่อให้การศึกษาธรรมะลงสู่การปฏิบัติและนำมาใช้ในการดำเนินชีวิตได้จริง จึงริเริ่ม ‘โครงการเทคโนโลยีสยามอาชีววิถีพุทธ’ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสำนักส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมฯ วัดสระเกศ โดยเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์เป็นผู้อุปถัมภ์ และในโครงการนี้จะเน้น 3 หลักคือ โรงเรียน บุคลากร-ครูอาจารย์ และนักเรียน ให้สอดคล้องเป็นไปในแนวทางเดียวกัน เพื่อผู้เรียนจะได้สามารถนำหลักธรรมไปประพฤติปฏิบัติและประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้จริงๆ ทั้งยังสามารถที่จะแก้ปัญหาต่างๆ ได้อย่างมีหลักการในการดำเนินชีวิตได้อย่างแท้จริง” ผู้ช่วยศาตราจารย์ ดร.จอมพงศ์ มงคลวนิช ประธานกรรมการบริหารโครงการฯ กล่าว

สำหรับในปีการศึกษา 2553 จะนำ ‘ โครงการเทคโนโลยีสยามอาชีววิถีพุทธ’ มาสู่ระบบการเรียนการสอนอย่างเต็มรูปแบบ และในวันนี้จึงเป็นโครงการนำร่องนำนักศึกษาระดับปวส. จำนวนกว่า 50 คนมาทัศนศึกษากิจกรรมการเรียนรู้หลักธรรมะในการดำเนินชีวิต พร้อมทั้งได้ศึกษาประวัติความเป็นมาของพระพุทธศาสนาและศิลปวัฒนธรรมที่คู่ควรแก่การอนุรักษ์สืบต่อไป ณ วัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร

ภายในพระอุโบสถอันงดงามด้วยองค์พระประธานองค์ใหญ่ นิ่งสงบ รายล้อมด้วยภาพจิตรกรรมฝาผนังที่บอกเล่าเรื่องราวของพระพุทธศาสนาที่สะท้อนคุณงามความดีในการดำเนินชีวิต ที่ให้คุณค่าทางศิลปวัฒนธรรมและหลักคำสอนที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้จริง โดยเจ้าคุณปัญญาวชิราภรณ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดสระเกศฯ ให้นักศึกษา

ทั้งชายหญิงตั้งมั่นอยู่ในความสงบ ไหว้พระ สวดมนต์ พร้อมอบรมธรรมศึกษาโดยสอดแทรกเรื่องราวความเป็นมาของวัดสระเกศฯ และพุทธศาสนา ทั้งศิลปวัฒนธรรมต่างๆ ที่เข้าใจอย่างง่ายๆ แต่นำไปใช้ได้จริง

หลังจากนั้นแบ่งกลุ่มนักศึกษาเป็น 2 กลุ่ม เพื่อเรียนรู้เรื่องราวของพระพุทธศาสนาและศิลปวัฒนธรรมคู่บ้านเมืองตามจุดต่างๆ เช่น ลานโพธิ์ลังกา เป็นสายพันธุ์พระศรีมหาโพธิ์สถานที่ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า นำมาจากประเทศศรีลังกา ในสมัยร.2 หอพระไตรปิฎก ซึ่งเป็นที่เก็บคัมภีร์ของพระพุทธศาสนา สร้างในสมัยร.1 แล้ว ร.3 ทรงโปรดให้ทำการบูรณะใหม่เป็นศิลปะแบบจีนที่งดงาม มนัสการและชม พระอัฏฐารส พระพุทธรูปที่มีความสำคัญองค์หนึ่งในกรุงเทพมหานคร และปิดท้ายด้วย พระบรมบรรพตภูเขาทอง ยอดมงกุฎของกรุงเทพฯ ที่มีชื่อเสียงกล่าวขานไปทั่วโลก เพราะบรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้สักการบูชา ที่มีเพียงไม่กี่ประเทศเท่านั้น ทั้งยังมีสะดือเมืองให้น่าค้นหา และอื่นๆ อีกมากมาย ที่ชักชวนแรงศรัทธาให้ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติแวะเวียนเข้าชื่นชมและศึกษาไม่ขาดสาย...วันนี้เยาวชนโครงการเทคโนโลยีสยามอาชีววิถีพุทธจึงดื่มด่ำและซึมซับทั้งหลักธรรมคำสอน และเรื่องราวพุทธศาสนาต่างๆ ที่จะน้อมนำความประทับไว้ในความทรงจำ แล้วนำมาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ในชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี

รุจิณี มีประเสริฐเลิศสุข อายุ 20 ปี ชั้นปวส.2 ช่างอิเล็กทรอนิกส์ สาขาสารสนเทศ ศึกษาธรรมะมาตั้งแต่ปวช.1 จนได้ธรรมศึกษา ชั้นเอก

“การมาวันนี้ได้อะไรเยอะ เพราะเป็นการศึกษาธรรมะจากของจริงๆ ได้รู้ได้เห็น หากเรียนในห้องเรียนก็ได้แต่ทฤษฎีเท่านั้นค่ะ ...หลังจากที่ได้ศึกษาธรรมะมา สิ่งหนึ่งที่นำใช้ได้จริงคือการพึ่งพาตนเอง แล้วก่อนสอบจะนั่งสมาธิ จะทำให้สมองโล่ง สติปัญญาดีขึ้น พออ่านหนังสือแล้วรู้เรื่องหมดเลย ผลสอบได้ 3.4 ซึ่งเมื่อก่อนไม่เคยได้ถึง 3 เลยค่ะ

...จากเมื่อก่อนเป็นคนที่ขี้เกียจ และใจร้อน พอมาศึกษาธรรมะจริงๆ อารมณ์ก็อ่อนลง ทำให้มีสติ ปัญญาดีขึ้นค่ะ”

รุ้งกานดา ช.เจริญยิ่ง อายุ 19 ปี ชั้นปวส.2 สาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ เยาวชนคนรุ่นใหม่ที่ใฝ่ใจในธรรมะ จนสอบธรรมศึกษาได้ชั้นเอก

“เป็นคนชอบไปวัดฟังธรรมค่ะ สิ่งที่ได้จากตรงนี้ นำเรื่องไตรสิกขามาใช้ค่ะ คือ ศีล สมาธิ ปัญญา ในเรื่องของศีลยึดหลักศีล 5 มาใช้ในชีวิตประจำวัน และใช้ชีวิตที่เรียบง่ายพอเพียง แล้วสำหรับเพื่อนๆ ใช้หลักขันติ อดทน ไม่ทะเลาะกับเพื่อน สิ่งไหนช่วยได้ก็ช่วยค่ะ เรื่องสมาธิ ใช้ในเรื่องของการเรียน จากมีสมาธิ ปัญญาก็จะตามมา ทุกวันนี้สอบได้ 3.7 มาตลอด

...กิจกรรมทัศนศึกษาวันนี้มีประโยชน์ แล้วเป็นคนที่ชอบมาวัดอยู่แล้วด้วยยิ่งชอบใหญ่เลยค่ะ มีอยู่ครั้งนึงอาจารย์ให้ทำรายงานภาษาอังกฤษ ก็จะชวนเพื่อนๆ ไปวัดพระแก้ว เพราะจะมีต่างชาติเยอะ แต่เราไม่เลือกที่จะไปถนนข้าวสารก็มีต่างชาติมากเหมือนกัน แต่ชอบวัดพระแก้วมากกว่า ดูสงบร่มรื่น ทำให้เรามีสติมากขึ้นด้วย

...วันนี้ได้มากราบไหว้พระ องค์พระเจดีย์ แล้วยังได้เห็นสะดือเมืองด้วย เป็นเรื่องที่ดีมากเลยค่ะ”

สิรธีร์ อภิญญาวสีสุข อายุ 19 ปี ชั้นปวส.1 สาขาคอมพิวเตอร์ สอบธรรมศึกษาได้ชั้นตรี บอกเล่าถึงธรรมะที่ทำให้วิถีชีวิตเปลี่ยนไปว่า- -

“เมื่อก่อนผมเป็นคนใช้อารมณ์เป็นใหญ่ ไม่มีเหตุผล แต่พอไปบวชมาชีวิตเปลี่ยนไปเลย เคยบวชมาแล้ว 2 ครั้ง ครั้งนึงบวชให้คุณตา แล้วพออีกครั้ง ผมทะเลาะกับเพื่อน ทางโรงเรียนและคณาจารย์แนะนำให้ผมไปบวช ครั้งนี้ผมได้ศึกษาธรรมะ นั่งสมาธิ เดินจงกลม ทำให้ได้แนวคิดในการดำเนินชีวิต อารมณ์ใจร้อนลดลง และมีเหตุผลมากขึ้น

..หากทะเลาะกับเพื่อน ก็จะไปหาที่สงบเงียบๆ ทบทวน หรือยอมให้เขาร้าย ผมก็จะไม่จองเวรเขา เราไม่คิดชีวิตก็เปลี่ยนไป ไปทำบุญเข้าวัดมากขึ้น ผลจากธรรมะทำให้รู้จักความพอ รู้จักระงับอารมณ์ รู้จักการให้อภัย แล้วใช้หลักเศรษฐกิจพอเพียง ชีวิตก็จะดีขึ้น ธรรมะให้ประโยชน์มาก และสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้จริง

...มาวันนี้ได้ความรู้มากมาย ในบางสิ่งบางอย่างที่เราไม่เคยรู้มาก่อน แต่สิ่งหนึ่งที่ผมประทับใจมากก็คือ ได้เห็นความมีน้ำใจ การเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ และการช่วยเหลือสิ่งกันและกัน- -ตอนที่ขึ้นไปบนภูเขาทอง แดดร้อนมาก ก็กระหายน้ำกันมาก ใครมีก็เอามาแบ่งกัน ใครไม่ไหวเราก็ช่วยกัน เป็นความรู้สึกที่ดีที่เข้าไปอยู่ในใจผม”

เสกสรร สุนันต๊ะ อายุ 20 ปี ชั้นปวส.2 สาขาอิเล็กทรอนิกส์ จากเด็กที่เคยเฮี้ยว แต่สยบและจบลงได้ด้วยธรรมะที่เข้ามากล่อมเกลาจิตใจให้ใจเย็น อดทน และมีสติ

“ผมเฮี้ยวมาตั้งแต่ป.5 หากใครมาทำร้ายผมจะสู้ ตอนนี้ผมอายุ 20 แล้ว โตแล้ว ประสบการณ์ที่ผ่านมาแบบวัยรุ่นก็ไม่ควรทำแล้ว แล้วยิ่งมาศึกษาธรรมะ ทำให้มีสติ ใจเย็น และอดทนมากขึ้น นำธรรมะมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน หากจะทำอะไรให้ใช้สมองคิดสักนิด แล้วเราหยุด ปัญหาก็จบลงได้ หรืออะไรที่จะเกิดปัญหาก็หลีกเลี่ยงเสีย

...วัดสระเกศเป็นวัดที่มีเรื่องราวประวัติน่าสนใจมาก จะเกี่ยวข้องกับพระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ เป็นสิ่งที่น่าศึกษาและเรียนรู้ที่จะให้แง่คิดต่างๆ ทั้งการใช้ชีวิตให้มีหลักธรรมะอยู่ในใจ ทั้งมีการวางแผน มีความอดทน มีความมุ่งมั่น ชีวิตก็จะประสบความสำเร็จได้” เจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ให้โอวาทปิดท้ายสำหรับเยาวชนคนรุ่นใหม่วันนี้ต้องเป็น ‘คนดี’ ควรปฏิบัติตนดังนี้

“การจะเติบโตเป็นคนดีของสังคม ที่สำคัญจะต้องประกอบด้วยความดีมีจิตใจที่ดีเป็นหลัก และจะต้องหมั่นศึกษาเล่าเรียน พร้อมทั้งมีจิตใจที่เข้มแข็ง อดทน งดงามในการแสดงออกต่างๆ ในสิ่งที่ถูกต้อง

...นับว่าโครงการนี้เป็นการส่งเสริมในสิ่งที่น่าส่งเสริม รู้สึกชื่นชม ยินดีเป็นอย่างยิ่ง ทั้งโรงเรียนและวัดมีความสอดคล้องกันในการที่จะส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมให้เกิดขึ้นให้มากทันเหตุการณ์ในการที่จะสร้างคนดีให้มากขึ้นควบคู่ไปกับวิชาการด้านอื่นๆ ซึ่งจะต้องมีการพัฒนาต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง”

สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net