ภิญญ์ขี้นแท่นเป็นเบอร์หนึ่งของตลาดการฝีมือ ตั้งเป้ารุกตลาดเฟรนด์ไชน์ในอนาคต

30 Jun 2009

กรุงเทพฯ--30 มิ.ย.--กนกรัตน์ แอนด์ เฟรนด์

พ.ญ บุษยา เตชะเสน กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาร์ตแอนด์เทคโนโลยี จำกัด เปิดเผยถึงตัวเลขการเติบโตของภิญญ์ว่า ปีนี้สัดส่วนการเติบโตของยอดขายเพิ่มขึ้น 30 % จากปีที่ผ่านมา สาเหตุเพราะเทรนด์ของผู้บริโภคทั่วโลกในเรื่อง Personalized, Pleasure & Pride กำลังเป็นกระแสที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ด้วยเศรษฐกิจที่เอื้ออำนวยให้คนหันมาสนใจการทำชิ้นงานใช้สอยเอง งานเย็บปักถักร้อย หรือ Hobby Craft ได้กลายเป็นสิ่งที่เก๋ เท่ห์ ทันสมัย ประกอบช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย และทำให้ผู้ทำรู้สึกภาคภูมิใจ สนุกเพลิดเพลิน คลายเครียด สร้างมูลค่าให้กับชิ้นงานได้เป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังสามารถเป็นช่องทางการสร้างรายได้ หรืออาชีพเสริม ด้วยต้นทุนด้านราคาที่ต่ำและได้ของที่มีมูลค่ามากขึ้น เพราะความเป็นเอกลักษณ์ ไม่เหมือนใครทำให้เป็นอีกหนึ่งอาชีพที่มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นและน่าจับตามองในยุคนี้เป็นอย่างมาก

สำหรับ Segment สินค้า Hobby Craft ของภิญญ์จะแบ่ง Share Segment เป็น 4 หมวด คือ หมวดถักไหมพรม 50 %, งานเย็บด้วยมือ เช่น การเย็บกระเป๋า 30% , ปัก 15% และร้อย ได้แก่การร้อยสร้อย ลูกปัด 5 % ขณะนี้หมวดเย็บมาแรงเนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคบวกกับกระแสตลาดที่ได้กล่าวไปแล้วในตอนต้น นอกจากนี้ปัจจัยในการเติบโตมาจากการขยายร้านเพิ่มขึ้นมากในปีนี้ เช่นเดือนเมษายนที่ผ่านมาเปิด B2S ถึง 22 สาขา นอกจากนั้นยังเปิดร้าน Pinn Shop ใหม่ ใน central 5 สาขา คือ เซ็นทรัลเวิลด์, เซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ, เซ็นทรัลพระราม 3, รัตนาธิเบศร์, ลาดพร้าว และยังเปิดสาขาในต่างจังหวัดอีก 2 แห่งที่ เซ็นทรัลพัทยาและเซ็นทรัลชลบุรี แต่ละสาขาใช้เงินลงทุนประมาณ 5 – 10 ล้านบาทแล้วแต่ขนาดของร้าน นับได้ว่าภิญญ์เป็นผู้นำเบอร์หนึ่งของตลาด Premium Hobby Craft ในประเทศไทย นับจากจำนวนหน้าร้านที่มีมากที่สุดในกลุ่มสินค้าประเภทเดียวกันโดยมี 57 สาขาทั่วประเทศ การที่เราเป็น Premium Hobby Craft เพราะเป็นตัวแทนจำหน่ายอุปกรณ์งานฝีมือที่เป็นแบรนด์ระดับโลก ไม่ว่าจะเป็นไหมพรมหรืออุปกรณ์ในการเย็บปักทุกชนิด นอกจากนี้ยังนับได้ว่าเป็นร้านที่มี concept ใหม่ Style “Trendy Hobby Craft” เจ้าแรกในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้อีกด้วย แม้แต่ฮ่องกงและสิงคโปร์ก็ได้มาขอติดต่อดูร้าน Pinn Shop และสนใจขอซื้อเฟรนด์ไชน์ พ.ญ บุษยา เตชะเสน กล่าว

การที่ภิญญ์ประสบความสำเร็จ เนื่องจากเรามีการสำรวจและมองเทรนด์ของกระแสตลาดล่วงหน้าตลอด จะมีการส่งทีมงานไปดูงานและฝึกอบรมอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีทีมงานที่มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะทีม Design ที่ถือว่าแข็งแกร่ง

นับได้ว่าเป็นจุดแข็งที่แบรนด์คู่แข่งไม่มี ขณะนี้ตลาด Hobby Craft จะอิงกระแสจากญี่ปุ่นและยุโรป ซึ่งภิญญ์ มีพันธมิตรและเครือข่ายในการนำความรู้และทักษะจากประเทศกลุ่มนี้ เพื่อนำมาเสนอให้กับลูกค้าในไทยได้อย่างทันที อีกทั้ง Pinn Shop ทุกสาขา ยังมีบริการสอนการฝีมือให้ฟรีสำหรับผู้เริ่มต้น โดยไม่จำกัดว่าจะต้องซื้ออุปกรณ์อะไร หรือมูลค่าเท่าไร และที่สำคัญภิญญ์ได้มีการเลือกทำเลที่ตั้งของร้านให้อยู่ในจุดยุทธศาสตร์การค้าที่ดี โดยจะเน้นเรื่อง Prime Location เท่านั้น เพราะพฤติกรรมของผู้บริโภคชอบความสะดวก โดยเฉพาะในห้างสรรพสินค้าเนื่องจากมีสินค้าหลากหลายให้เลือก ส่วนใหญ่ภิญญ์จะเป็นพันธมิตรกับ CPN ในการเปิดร้านใน Central เพราะCentral มีวิสัยทัศน์ที่ดีในการเลือก Location และมีความเชี่ยวชาญในการบริหารศูนย์การค้า โดยในเดือนธันวาคมปีนี้จะมีการเปิดร้าน Pinn Shop ใหม่ที่ central ขอนแก่น ด้วย ปัจจุบันสมาชิกมีทั้งสิ้น 65, 000 คนอย่างไรก็ตามคิดว่าตลาดน่าจะมีการเติบโตได้อีกเพราะกลุ่มเป้าหมายหลักคือผู้หญิง อายุ 25 – 45 ปี ซึ่งมีจำนวนประชากรของประเทศถึง 20 ล้านคน สมาชิกส่วนใหญ่จะเป็นคนในเมืองใหญ่เช่นกรุงเทพ เชียงใหม่ เพราะเป็นผู้ที่ชอบติดตาม trend ใหม่ ๆ ประกอบกับวิถีชีวิตที่ทันสมัย และในอนาคต Pinn Shop ได้มีการวางแผนเปิดเฟรนด์ไซน์ในอนาคตอีกด้วย โดยขณะนี้ได้กำลังวางโครงสร้างของธุรกิจนี้อยู่เพราะมองว่าน่าจะเป็นเทรนด์ที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการเป็น SME อีกทั้งยังเป็นขยายสาขาให้กับ Pinn Shop อีกด้วย

ปีนี้ใช้งบประมาณ 12 – 15 ล้าน สำหรับกิจกรรมด้านการตลาด โดยเป็นกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการขาย, Co Promotion กับ industry เดียวกันและ Cross industry อาทิ การจัด workshop ร่วมกับ Premium Brand ต่างๆ ส่วนกิจกรรมด้าน CSR ที่สำคัญของปีนี้คือเรื่องการถักหมวกให้ผู้ป่วยโรคมะเร็งซึ่งเป็นโครงการที่รณรงค์ผ่านเครือข่ายสมาชิกภิญญ์ และจัดอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี โดยจุดเด่นคือผู้ป่วยโรคมะเร็งที่ผมร่วงจากการทำเคมีบำบัด สามารถใช้หมวกที่ถักจากไหมพรมเยื่อไผ่ซึ่งเป็นเส้นใยธรรมชาติ ไม่ทำให้เกิดอาการแพ้ อับร้อน หรือคัน ซึ่งทางภิญญ์ได้สั่งผลิตพิเศษมาจากประเทศจีนในราคาต้นทุน (เนื่องจากจีนเป็นที่เดียวในโลกที่ผลิตวัตถุดิบนี้ได้) กิจกรรมนี้ถือเป็น Pure CSR เพราะไม่ได้กำไรจากการขายเลย สำหรับผู้ป่วยที่ได้รับก็รู้สึกขอบคุณและปลื้มใจมากที่มีผู้ใจบุญถักหมวกและเป็นกำลังใจให้กับพวกเขา โดยโครงการนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากผู้ที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งและมาทำการปรึกษากับทางภิญญ์ ผู้บริหารภิญญ์ กล่าวทิ้งท้าย

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่:

บริษัท กนกรัตน์ แอนด์ เฟรนด์ จำกัด Tel: 0-2284-2662 ต่อ 203 Fax: 0-2284-2291-2

ฝากข่าวประชาสัมพันธ์?

ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit