กรุงเทพฯ--14 ก.ค.--ธนาคารกสิกรไทย
กสิกรไทย ร่วมกับสพว.และทีทีเอ เปิดตัวโครงการเสริมศักยภาพธุรกิจท่องเที่ยวเอสเอ็มอี ที่เกี่ยวกับธุรกิจท่องเที่ยวครบวงจร หวังช่วยแก้ปัญหาทั้งบริการด้านการเงิน ความรู้ และการจัดการธุรกิจให้แก่ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวอย่างถูกวิธี ให้รอดพ้นจากภาวะนักท่องเที่ยวหดตัว พร้อมเตรียมจัดสัมมนาใหญ่ช่วยลูกค้าขับเคลื่อนธุรกิจอย่างราบรื่น
นายปกรณ์ พรรธนะแพทย์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า จากภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอยทั่วโลก และปัญหาการระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศเดินทางเข้ามายังประเทศไทยลดลง ซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวของไทยอย่างมาก ดังนั้น ธนาคารกสิกรไทย จึงได้ร่วมกับสถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (ISMED) และสมาคมส่งเสริมเทคโนโลยีเพื่อการท่องเที่ยว (TTA) ร่วมกันจัดทำโครงการเสริมศักยภาพธุรกิจท่องเที่ยวเอสเอ็มอี เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีด้านธุรกิจท่องเที่ยวอย่างครบวงจร ทั้งบริการด้านการเงิน ความรู้ และการจัดการธุรกิจ
โดยในส่วนของความช่วยเหลือด้านการเงิน ธนาคารกสิกรไทยนำเสนอแพ็คเกจบริการทางการเงินสำหรับธุรกิจท่องเที่ยว เพื่อช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการรับ-จ่ายเงินของธุรกิจ ด้วยบริการครบวงจรเพื่อธุรกิจท่องเที่ยวกสิกรไทย ดังนี้
บริการรับชำระค่าสินค้าและบริการ ได้แก่ บริการร้านค้ารับบัตรเครดิตและบัตรเดบิต บริการรับชำระค่าสินค้าและบริการทางอินเทอร์เน็ตกสิกรไทย บริการซื้อขายเงินตราต่างประเทศ บริการโอนเงินต่าง ๆ บริการเช็คเรียกเก็บเงินต่างจังหวัด และบริการอื่น ๆ แบบครบวงจรของธุรกิจ
บริการจ่ายสบาย ๆ ได้แก่ บริการระบบจัดการทางการเงินอิเล็กทรอนิกส์กสิกรไทย บริการโอนเงินระหว่างบัญชีบริษัท บริการโอนเงินให้บุคคลที่สาม บริการโอนเงินอัตโนมัติให้บุคคลอื่นที่มีบัญชีกสิกรไทย บริการโอนเงินเพื่อบุคคลอื่นที่ไม่มีบัญชีกสิกรไทย โอนเงินเข้าบัญชีเพื่อจ่ายเงินเดือนพนักงาน และบริการรับชำระค่าสินค้าและบริการ และอื่น ๆ อีกมากมาย
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการที่สมัครใช้บริการจะได้รับสิทธิเศษ เช่น อัตราค่าธรรมเนียมพิเศษ รับเงินคืน 1% สำหรับทุกรายการรูดบัตรเครดิตสกุลเงินต่างประเทศ ฟรีค่าเงินโอนข้ามเขตสูงสุด 1,000 บาท สำหรับการรับเงินโอนจากต่างประเทศ ฟรีบริการแจ้งรายละเอียดเงินโอนเข้าจากต่างประเทศ เป็นต้น
ในส่วนของความช่วยเหลือด้านองค์ความรู้ ศ.ดร.ธเนตร นรภูมิพิภัชน์ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม กล่าวว่า ปัจจุบันธุรกิจท่องเที่ยวและโรงแรม นอกจากจะเผชิญปัญหาการชะลอตัวของนักท่องเที่ยวแล้ว ยังต้องเผชิญกับปัญหาด้านต้นทุนการดำเนินการที่สูงขึ้น ส่งผลให้มีรายได้ลดลง ซึ่งผู้ประกอบการมักแก้ปัญหาด้วยการลดต้นทุนที่ไม่ถูกวิธี เช่น การลดคุณภาพของวัตถุดิบที่นำมาประกอบอาหาร ลดคุณภาพการให้บริการ หรือปลดพนักงาน ดังนั้นสถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม จึงมีโครงการพัฒนาประสิทธิภาพของเอสเอ็มอี ภาคบริการ สำหรับธุรกิจโรงแรม เพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการให้สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ โดยอาศัยการวิเคราะห์ วางแผน การอบรมเชิงปฏิบัติการ เพื่อให้เกิดความเข้าใจ จนสามารถปรับปรุงแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น
ขณะที่ นายอภิชัย สกุลสุรียเดช นายกสมาคมส่งเสริมเทคโนโลยีเพื่อการท่องเที่ยว กล่าวว่า ทางสมาคมฯ จะส่งทีมที่ปรึกษาและวิทยากรที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญในระบบงานไอซีที เข้ามาให้ความรู้เกี่ยวกับการนำซอฟต์แวร์มาประยุกต์ใช้ เพื่อช่วยบริหารธุรกิจ พัฒนาระบบบัญชี รวมถึงการพัฒนาเว็บไซต์ของผู้ประกอบการ ให้สามารถรองรับแอพลิเคชั่นที่ทันสมัย เพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถค้นหาข้อมูล สำรองที่พัก หรือชำระค่าบริการต่าง ๆ ผ่านทางเว็บไซต์ ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสทางธุรกิจให้กับผู้ประกอบการสำหรับกลุ่มลูกค้าใหม่ได้ นอกจากนั้นธนาคาร ฯ จะจัดงานสัมมนาในหัวข้อ “จัดทัพฝ่าวิกฤต กำหนดทิศธุรกิจท่องเที่ยว” ในวันที่ 6 สิงหาคม 2552 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เพื่อให้ผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยว ได้ทราบถึงแนวโน้มและทิศทางของธุรกิจท่องเที่ยว ในการเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และการขอคำปรึกษาจาก สพว.และทีทีเอ ที่เตรียมยกทีมที่ปรึกษาที่มีประสบการณ์มาให้คำปรึกษาตลอดงาน
คุณปกรณ์กล่าวทิ้งท้ายว่า สำหรับโครงการเสริมศักยภาพธุรกิจท่องเที่ยวเอสเอ็มอี เป็นโครงการที่จะสามารถช่วยเสริมศักยภาพให้กับธุรกิจทองเที่ยวเอสเอ็มอีได้ โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์เช่นนี้ และคาดหมายว่าจะมีผู้ประกอบการเข้าร่วมโครงการ ประมาณ 1,000 ราย ซึ่งผู้ประกอบการที่สนใจเข้าร่วมโครงการสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ K-Biz Contact Center โทร 0-2888-8822 ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit