ซีเกท สมาคมวิชาการหุ่นยนต์ไทยและเอไอที ประกาศรายชื่อ 8 ทีมสุดยอดรถอัจฉริยะไร้คนขับเพื่อเข้ารอบชิงชนะเลิศ

03 Jun 2009

กรุงเทพฯ--3 มิ.ย.--ซีเกท เทคโนโลยี

บริษัทซีเกท เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมกับสมาคมวิชาการ หุ่นยนต์ไทย และสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (เอไอที) ประกาศรายชื่อ 8 ทีมสุดยอดรถอัจฉริยะไร้คนขับ ที่ผ่านการแข่งขันรอบคัดเลือก โดยทั้ง 8 ทีมสุดยอดรถอัจฉริยะไร้คนขับ ได้รับเงินรางวัล ทีมละ 50,000 บาท เพื่อนำไปพัฒนาประสิทธิภาพของรถอัจฉริยะเพื่อเข้าชิงรางวัลในรอบชิงชนะเลิศ ของการแข่งขันสร้างรถอัจฉริยะชิงแชมป์ประเทศไทย 2552 ในวันที่ 29 กรกฏาคม ศกนี้

8 ทีมรถอัจฉริยะไร้คนขับที่ผ่านการคัดเลือกเข้าแข่งขันในรอบสุดท้ายได้แก่

1. ทีมขึ้นช่าย สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเซีย (เอไอที) รถวิ่งได้ระยะทาง 1,849 เมตรและหลบหลีกสิ่งกีดขวางได้ 9 จุด

2. ทีมผักชี สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเซีย (เอไอที) รถวิ่งได้ระยะทาง 1,849 เมตรและหลบหลีกสิ่งกีดขวางได้ 8 จุด

3. ทีมแอร์ ฟอร์ซ ทู (Air Force II) โรงเรียนนายเรืออากาศ รถวิ่งได้ระยะทาง 1,849 เมตรและหลบหลีกสิ่งกีดขวางได้ 7 จุด

4. ทีมดั๊ค ไรเดอร์ส (Duck Riders) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ รถวิ่งได้ระยะทาง 1,849 เมตรและหลบหลีกสิ่งกีดขวางได้ 6 จุด

5. ทีมดาร์ค ฮอร์ส (Dark Horse) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี รถวิ่งได้ระยะทาง 598.78 เมตร และหลบหลีกสิ่งกีดขวางได้ 2 จุด

6. ทีมซิกแซ็ก (Zigzag) มหาวิทยาลัยขอนแก่น รถวิ่งได้ระยะทาง 287.2 เมตร

7. ทีมแบล็คลิสต์ (BlackList) มหาวิทยาลัยนเรศวร รถวิ่งได้ระยะทาง 284.24 เมตร

8. ทีมอะไรฟว์-ทู มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง รถวิ่งได้ระยะทาง 280 เมตร

รองศาสตราจารย์ ดร. มนูกิจ พานิชกุล ประธานคณะกรรมการจัดการแข่งขันสร้างรถอัจฉริยะชิงแชมป์ประเทศไทย 2552 และ อาจารย์ประจำภาควิชาเมคาโทรนิคส์ คณะวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเซีย (เอไอที) กล่าวว่า “ในปีนี้ มีทีมรถอัจฉริยะไร้คนขับจำนวน 21 ทีมจาก 19 สถาบันการศึกษา เข้าร่วมการแข่งขันสร้างรถอัจฉริยะชิงแชมป์ประเทศไทย 2552 รอบคัดเลือกซึ่งเป็นจำนวนที่มากที่สุดในประวัติศาสตร์ของการจัดการแข่งขัน หลาย ๆ ทีมสามารถวิ่งได้ระยะทางที่ไกลมากขึ้นเมื่อเทียบกับผลการแข่งขันใน 2 ปีที่ผ่านมาพร้อมทั้งยังสามารถหลบหลีก สิ่งกีดขวางได้อย่างดี สำหรับ 8 ทีมที่เข้ารอบเป็น 8 ทีมที่วิ่งได้ระยะทางรวมไกลที่สุด ซึ่งทีมต่าง ๆ นี้จะต้องมาพิสูจน์ ความฉลาดและความเร็วในรอบชิงชนะเลิศซึ่งเป็นการแข่งความเร็วแบบมีการน็อครอบกันของรถไร้คนขับ”

“การแข่งขันสร้างรถอัจฉริยะชิงแชมป์ประเทศไทย จัดขึ้นเป็นครั้งที่สาม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ และความชำนาญ ในสาขาเทคโนโลยีหุ่นยนต์ ระบบอัตโนมัติและยานยนต์ ตลอดจนเพื่อกระตุ้นให้เกิดการตื่นตัวและสนับสนุนการทำกิจกรรมนอกหลักสูตร เตรียมความพร้อมให้กับมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ในประเทศไทย ในการทำโครงการรถอัจฉริยะ

นายเจฟฟรี่ย์ ดี ไนการ์ด รองประธานและผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัทซีเกท เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “กิจกรรมครั้งนี้ เราได้เห็นการแสดงศักยภาพจากการประมวลความรู้เป็นผลงานของนักศึกษา พัฒนาการและความร่วมมือกันทำงานเป็นทีม ซึ่งถือว่าเป็นการบรรลุวัตถุประสงค์ในการจัดการแข่งขัน และตรงตามนโยบายหลักของซีเกทมีความมุ่งหวังที่จะสนับสนุนให้เยาวชนไทยได้มีโอกาสแสดงศักยภาพและกระตุ้นให้พวกเขาเป็นนักคิดและนักพัฒนาตลอดจนแสดงออกซึ่งความสามารถและได้ลงมือปฏิบัติจริง เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนความรู้และทักษะอันจะเป็นประโยชน์ต่อแวดวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยียานยนต์และหุ่นยนต์ ตลอดจนการพัฒนาสังคมและประเทศชาติต่อไป”

สำหรับการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ ซึ่งจะจัดขึ้นในเดือนกรกฏาคม ศกนี้ บริษัทซีเกทสนับสนุนการจัดการแข่งขันและรางวัล สำหรับทีมรถอัจฉริยะไร้คนขับที่ได้รับรางวัลดังนี้คือ รางวัลชนะเลิศ 300,000 บาท รางวัลรองชนะเลิศ เงินรางวัล 200,000 บาท รางวัลเทคนิคยอดเยี่ยม

เงินรางวัล 50,000 บาท รางวัลความคิดสร้างสรรค์ เงินรางวัล 50,000 บาทและ รางวัลออกแบบประหยัดพลังงานยอดเยี่ยม เงินรางวัล 50,000 บาท

บทสัมภาษณ์ทีมรถอัจฉริยะไร้คนขับ “ทีมขึ้นช่าย – สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเซีย (เอไอที)”

รายชื่อสมาชิกในทีม

1. นายเมธี ศรีสุพรรณดิฐ ภาควิชาเมคาโทรนิกส์ คณะวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี

2. นายนัศรีย์ เบ็ญอาหลี ภาควิชาเมคาโทรนิกส์ คณะวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี

3. นายสมพงศ์ ทานอก ภาควิชาเมคาโทรนิกส์ คณะวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี

1. มีขั้นตอนในการพัฒนารถอย่างไร ก่อนที่จะส่งผลงานเข้าแข่งขันในรอบคัดเลือก

รถคันนี้ได้รับการพัฒนาตั้งแต่จากการแข่งขันในปีที่แล้ว จนมาถึงปีนี้ ได้พัฒนาต่อโดยได้เขียนซอฟท์แวร์ควบคุมความเร็วของรถและควบคุมการแล่นของรถตามเส้นทางได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น

การพัฒนาฮาร์ดแวร์ที่ทำเพิ่มเติมคือส่วนที่ควบคุมระบบเบรคและระบบควบคุมส่วนที่เร่งความเร็วของเครื่องยนต์ นอกจากนี้ทางทีมยังทำวงจรไฟฟ้าขึ้นใหม่ แก้ปัญหาสัญญาณรบกวนและติดตั้งกล้องเว็บแคมเพิ่ม และที่สำคัญคือทีมของเราใช้ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ ซีเกท อีอี 25 โดยลงโปรแกรมคอมพิวเตอร์และเก็บข้อมูล เส้นทางวิ่งของรถยนต์ ฮาร์ดดิสก์รุ่นนี้มีศักยภาพเหนือว่ารุ่นอื่นและเหมาะสมสำหรับการใช้งานในรถยนต์มากครับ ทำให้การประมวลผลเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว และสามารถทำงานในสภาวะที่กระแทกหรือสะเทือนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

2. จุดเด่นของทีมที่ทำให้เป็นหนึ่งใน 3 ทีมที่มีคะแนนสูงสุด

จุดเด่นของทีมผักชีคือความเสถียรของตัวรถ ระบบและความสามารถในการตรวจจับสิ่งกีดขวางตามกติกาที่กำหนดมาให้ นอกจากนี้ ทีมผักชียังให้เลเซอร์ สแกนเนอร์ ซึ่งตรวจจับสิ่งกีดขวางได้ดี ทำให้เราได้แต้มโบนัสที่เป็นส่วนของสิ่งกีดขวาง

3. ระหว่างที่น้อง ๆ พัฒนารถอัจฉริยะไร้คนขับเพื่อเข้าแข่งขัน คิดว่าอะไรเป็นความท้าทายระหว่างการพัฒนารถคันนี้บ้าง

ความท้าทายประการแรกก็คือ การแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับสัญญาณรบกวนและเสถียรภาพของโปรแกรม นอกจากนี้ เรายังต้องป้องกันระบบหากเกิดฝนตกโดยการห่อพลาสติกตรงกล้องสำหรับกันฝน นอกจากนี้ เรายังพัฒนารถให้เคลื่อนที่ได้เร็วขึ้น แต่ยังไม่นำมาใช้ในการแข่งขันรอบคัดเลือก และมีแผนการณ์ที่จะนำไปใช้ในการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ

ข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ รศ. ดร. มนูกิจ พานิชกุล โทรศัพท์ 0-2524-5229 Email: [email protected]

หรือนางสาวขวัญจิต สุดสวัสดิ์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท ซีเกท เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด

โทรศัพท์ 0-2715-2919 Email: [email protected]

สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net