กรุงเทพฯ--1 มิ.ย.--ททท.
ขอเชิญร่วมการแข่งเดิน – วิ่ง… ชิงถ้วยพระราชทานของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เขื่อนขุนด่านปราการชล มินิ – ฮาล์ฟมาราธอน ครั้งที่ 4 วันอาทิตย์ที่ 7 มิถุนายน 2552 ณ เขื่อนขุนด่านปราการชล จังหวัดนครนายก
ด้วยพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงห่วงใยราษฎร ทรงพระราชทานโครงการในพระราชดำริเพื่อสร้างเขื่อนขุนด่านปราการชล แก้ไขปัญหาการจัดสรรทรัพยากรน้ำ “ลดน้ำยามท่วม เติมน้ำยามแล้ง แปลงดินยามเปรี้ยว” เพื่อช่วยเหลือราษฎรให้มีน้ำใช้ตลอดปี บรรเทาปัญหาภัยแล้ง น้ำท่วมที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี
เขื่อนขุนด่านปราการชลเริ่มก่อสร้างเมื่อ พ.ศ.2542 แล้วเสร็จปี 2548 และเริ่มกักเก็บน้ำเรื่อยมา ด้วยความจุ 224 ล้านลูกบาศก์เมตร ความสูง 93 เมตร ความยาวสันเขื่อน 2,549 เมตรเป็นเขื่อนคอนกรีตบดอัดยาวที่สุดในโลก อำนวยประโยชน์ด้านชลประทานและการเกษตรเรื่อยมา รวมทั้งอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจนถึงปัจจุบัน
นอกจากประโยชน์โดยตรงในเรื่องการจัดการทรัพยากรน้ำแล้ว เขื่อนขุนด่านปราการชลยังก่อประโยชน์ทางอ้อมหลายประการ เช่น ด้านการท่องเที่ยว ด้วยภูมิประเทศของตัวเขื่อนที่รายล้อมด้วยป่าในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ยังมีแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ ที่อยู่ใกล้เคียงกับตัวเขื่อน ส่งผลให้เขื่อนเป็นแหล่งท่องเที่ยวหลักของจังหวัดนครนายก และน้ำที่ระบายออกจากเขื่อนยังส่งผลดีต่อกิจกรรมล่องแก่งที่สามารถล่องได้ตลอดทั้งปี สร้างอาชีพและรายได้ให้กับชุมชนมากยิ่งขึ้น
นายปรีชา กมลบุตร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก เปิดเผยว่า เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รวมพลังชาวไทยแสดงความจงรักภักดีและสำนึกในมหากรุณาธิคุณ โดยเฉพาะด้านการชลประทานและการจัดสรรทรัพยากรทางธรรมชาติให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทรงพระราชทานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริหลายโครงการ โดยเฉพาะเขื่อนขุนด่านปราการชล ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจของชาวจังหวัดนครนายกที่ก่อเกิดประโยชน์นานัปการ และเฉลิมพระเกียรติเข้าสู่ปีที่ 60 แห่งการพระบรมราชาภิเษก รวมทั้งส่งเสริมการจัดกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและประชาสัมพันธ์เขื่อน ฯ ให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง
จังหวัดนครนายก ร่วมกับภาครัฐและเอกชน ชาวจังหวัดนครนายก จัดการแข่งขันวิ่ง “เขื่อนขุนด่านปราการชลมินิ – ฮาล์ฟมาราธอน ครั้งที่ 4” ในวันอาทิตย์ที่ 7 มิถุนายน 2552 ณ เขื่อนขุนด่านปราการชล ตำบลหินตั้ง อำเภอเมืองนครนายก จังหวัดนครนายก ชิงถ้วยพระราชทานของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ, สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และถ้วยเกียรติยศ
ประเภทการแข่งขัน ได้แก่
1. ฮาล์ฟมาราธอน ระยะทาง 21.1 กิโลเมตร ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และถ้วยรางวัลเกียรติยศ (เริ่ม 05.30 – 08.30 น.) ค่าสมัคร 350 บาท
2. มินิมาราธอน ระยะทาง 13 กิโลเมตร ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และถ้วยรางวัลเกียรติยศ (เริ่ม 06.00 – 08.30 น.) ค่าสมัคร 250 บาท
3. เดิน – วิ่ง เพื่อสุขภาพ (Fun Run) ระยะทาง 4 กิโลเมตร ชิงถ้วยรางวัลเกียรติยศ (เริ่ม 06.30 – 07.00 น.) ค่าสมัคร 200 บาท
นางอธิชา โรจนสุวรรณ ผู้อำนวยการสำนักงาน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานนครนายก กล่าวเพิ่มเติมว่า นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาในช่วงของการแข่งขันวิ่งเขื่อนฯ สามารถจะแวะชมและสัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิด ซึ่งมีแหล่งท่องเที่ยวและกิจกรรมท่องเที่ยวมากมายให้นักท่องเที่ยวและผู้ที่เข้าร่วมแข่งขัน “เขื่อนขุนด่านปราการชลมินิ – ฮาล์ฟมาราธอน ครั้งที่ 4” เลือกสรรจัดไว้ในโปรแกรมของการเดินทาง
จากกรุงเทพมหานคร มุ่งหน้าเข้าตัวเมืองนครนายกใช้เส้นทางได้ 2 เส้นทาง คือ เส้นทางแรกแยกรังสิตตามทางหลวงหมายเลข 305 เลียบคลองรังสิต ผ่านอำเภอองครักษ์ระยะทาง 105 กิโลเมตร อีกเส้นทางหนึ่งตามทางหลวงหมายเลข 1 เลี้ยวขวาที่หินกองไปตามถนนสุวรรณศร ทางหลวงหมายเลข 33 จนถึงนครนายก ระยะทาง 137 กิโลเมตร กิจกรรมล่องแก่งลำน้ำนครนายก น้ำตกสาริกา
จุดท่องเที่ยวจุดแรกแวะชมพิพิธภัณฑ์ “อาคาร 100 ปี รร.จปร.” ที่ “โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า” กราบขอพรพระศักดิ์สิทธิ์และชมอุโบสถอายุกว่า 200 ปีที่ “วัดใหญ่ทักขิณาราม” และกราบขอพรหลวงพ่อปากแดง “วัดพราหมณี” จากนั้นมุ่งหน้าสู่ถนนน้ำตก ทางหลวงหมายเลข 3049 ชมน้ำตกงาม 3 แห่ง – น้ำตกสาริกา น้ำตกนางรอง อุทยานวังตะไคร้ หรือจะสัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิดด้วยกิจกรรม “ล่องแก่งลำน้ำนครนายก” ปั่นจักรยานชมทิวทัศน์และวิถีชีวิตชาวสวน โรยตัวจากหน้าผาจริง/จำลอง “ศูนย์ผจญภัยเขาหล่น” ยามเย็นพักผ่อนในโรงแรม/รีสอร์ท หลากหลายบรรยากาศมีให้เลือกมากกว่า 50 แห่ง
เช้าตรู่ของวันอาทิตย์ที่ 7 มิถุนายน 2552 เดินทางมาชมการแข่งขันวิ่งฯ หรือจะร่วมการแข่งขันเดินวิ่งด้วยก็ได้ ณ เขื่อนขุนด่านปราการชล ตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ส่วนหนึ่งของตะเกียงนับหมื่นที่พิพิธภัณฑ์อยู่สุขสุวรรณ์
ยามสายใช้เวลาประมาณ 30 นาที เดินทางไปยังจังหวัดปราจีนบุรี ไหว้หลวงพ่ออภัยทานและชมสถาปัตยกรรม 4 ชาติ ที่ “วัดแก้วพิจิตร” ชม “พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติปราจีนบุรี” ศูนย์รวมประวัติศาสตร์ในภูมิภาคตะวันออก ก่อนจะแวะชม–แวะซื้อ–แวะนวดที่ “โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร” ฟังเรื่องเล่าเรื่องเก่าของเมืองปราจีนและชมของสะสมของคนช่างเก็บ “พิพิธภัณฑ์อยู่สุขสุวรรณ์” และก่อนเดินทางกลับโดยสวัสดิภาพ เลือกซื้อผลไม้ขึ้นชื่อของจังหวัดปราจีนบุรีเป็นของฝาก เช่น ทุเรียน มังคุด กระท้อน รับรองได้ของเขาดีรสชาติอร่อยจริง ๆ หรือจะแวะเที่ยวชมสวนผลไม้ภายในกลุ่มไม้เค็ดโฮมสเตย์ หรือเลือกซื้อพรรณไม้นานาชนิดโดยเฉพาะไม้ดอกไม้ประดับ ไม้ดัดภายในหมู่บ้านไม้ดอกไม้ประดับเฉลิมพระเกียรติ ฯ ก่อนเดินทางกลับโดยสวัสดิภาพ
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่และสมัครเข้าร่วมการแข่งขัน ฯ ได้ที่ สำนักงานจังหวัดนครนายก โทร.0-3731-3546 สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครนายก โทร.0-3731-3283, 08-6788-2251 บริษัท สปอร์ตวิชั่น อินเตอร์กรุ๊ป จำกัด โทร.0-2570-9599, 0-2907-9718, www.sportsvision.in.th
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและขอรับตัวอย่างเส้นทางท่องเที่ยวได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)สำนักงานนครนายก โทร. 0-3731-2282, 0-3731-2284 เปิดบริการทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ ตั้งแต่เวลา 08.30 – 16.30 น. 1672 เบอร์เดียวเที่ยวทั่วไทย และ www.tat8.com
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit