“ดั่งไม้ผลิใบ ดั่งใจผลิบาน” สารคดีผลิตผลความดี โดย อรสม สุทธิสาคร

14 Sep 2009

กรุงเทพฯ--14 ก.ย.--thainhf

งานสานจิตรเสวนา มหกรรมความรู้การพัฒนาจิต จัดโดยมูลนิธิสดศรี-สฤษดิ์วงศ์ (มสส.) ร่วมกับเครือข่าย ภายใต้การสนับสนุนของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา เปิดตัวพ็อคเก็ตบุ๊ค “ดั่งไม้ผลิใบ ดั่งใจผลิบาน” เรื่องราวการเรียนรู้ความดีงามจากโลกด้านใน ของนักเขียนรางวัลศิลปาธร สาขาวรรณศิลป์ ประจำปี 2552 อรสม สุทธิสาคร

พร้อมกันนี้มีการเสวนาเปิดใจนักเขียน คุณอรสม คนเล่าเรื่อง พร้อมด้วย คุณรัตนา รัตนเหม ในฐานะคนในเรื่อง อีกทั้งเชิญคนเขียนสารคดี คุณวีระศักดิ์ จันทร์ส่งแสง นักเขียนมือรางวัลจากนิตยสารสารคดี มาร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์การทำงาน โดยมีคุณประสาน อิงคนันท์ เป็นผู้ดำเนินรายการ ได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม

คุณอรสม เล่าถึงที่มาของงานเขียนชุดนี้ซึ่งประกอบไปด้วย หนังสือ 2 เล่มคือ ดั่งไม้ผลิใบ และดั่งใจผลิบานว่า ได้รับการติดต่อจากแผนงานพัฒนาจิตเพื่อสุขภาพ มสส. ว่ามีวงแลกเปลี่ยนเรียนรู้ความดีงามของบุคลากรทางการแพทย์ใน 4 ภูมิภาค ก่อนลงพื้นที่ไปเก็บข้อมูลรับฟังเรื่องดีๆที่ไม่ติดดี คือ ทำความดีแล้วไม่ตัวพองโต แค่ทำแล้วรู้สึกว่าตัวเองมีความสุขก็พอ ในบางสถานการณ์เราพบว่าการทำความดีนั้นถูกท้าทาย ต้องผจญกับอุปสรรคต่างๆนานา แต่คนในเรื่องกลับเรียนรู้ที่จะขัดเกลาตนเองจากภายใน กระทั่งเป็นตัวอย่างในการทำความดีให้กับคนอื่นได้ นำมาถ่ายทอดไว้ในหนังสือ 2 เล่มนี้

“การได้รับฟังและเห็นมุมความดีของคนอื่น ทำให้เราเรียนรู้สิ่งดีงามจากผู้อื่นนำไปปรับใช้กับชีวิตเรา ทั้งยังตระหนักว่าความดีของมนุษย์ไม่ใช่การดีพร้อมปราศจากที่ติ คนในเรื่องก็เคยทำทั้งสิ่งดีและมีสิ่งที่ไม่ดีบ้าง พยาบาลบางคนก็อาจเคยแสดงอาการโมโหไม่พอใจคนไข้บ้าง แต่การเรียนรู้ที่จะขัดเกลาตนเองต่างหากคือการเติบโต” คุณอรสม กล่าว

คุณอรสม กล่าวถึงที่มาของชื่อหนังสือในชุดนี้ว่า ส่วนตัวเป็นคนรักต้นไม้ ชื่อปิ๊งขึ้นมาแล้วใช้ได้เลย เพราะต้นไม้ ดอกไม้เป็นสัญลักษณ์ความหวัง ความสุข และการเจริญเติบโต รู้สึกได้ว่าความดี ความงดงามในชีวิตจิตใจของบุคคลทั้งหลายในเรื่องเปรียบเหมือนพื้นดินอันอุดมที่จะทำให้ความดีก่อร่าง สร้างใบผลิบานได้ต่อไป สอดคล้องกับงานที่ มสส.ทำ

คุณรัตนา รัตนเหม พยาบาลหัวหน้าห้องฉุกเฉินและอุบัติเหตุ โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชยะหา จ.ยะลา ทำหน้าที่หน่วยเคลื่อนที่เร็วรับและดูแลผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ บอกเล่าประสบการณ์แห่งความทรงจำว่า ครั้งเกิดเหตุยิงรถตู้โดยสารเส้นหาดใหญ่-เบตง มีผู้เสียชีวิต 8 ศพเมื่อปี 50 รับแจ้งทางวิทยุให้ช่วยไปรับคนเจ็บในพื้นที่ก็ตัดสินใจโดดขึ้นรถพยาบาลไปด้วยความห่วงคนเจ็บ ทั้งที่ในพื้นที่ยังไม่การเคลียร์วัตถุทำลาย เมื่อลงจากรถพร้อมหมอเข้าไปดูพบผู้โดยสารตายเกือบหมดคันรถ รอดอยู่เพียง 2คนนำตัวส่งโรงพยาบาลแล้ว เมื่อกลับมาถึงพบว่าเตรียมส่งต่อผู้บาดเจ็บซึ่งเป็นครูผู้หญิงถูกยิงที่กล่องเสียงนำส่งโรงพยาบาลศูนย์ยะลา ก็ขึ้นรถไปส่งและให้กำลังใจตลอดทาง เมื่อถึงที่หมายก็ย้อนกลับมายังโรงพยาบาลเจอกับ 8 ศพที่ลำเลียงมาทำความสะอาดและจัดแต่งศพ

“คุณรัตนาเป็นตัวอย่างหนึ่งของการทำความดีโดยไม่ติดดี คิดถึงคนเจ็บก่อนนึกถึงความปลอดภัยของตนเอง ถ้าคิดว่าเป็นวีรสตรีก็อันตราย เชื่อว่าความดีมีอยู่ในใจมนุษย์ทุกคน เราทุกคนสามารถทำความดีได้ไม่จำเป็นต้องเป็นบุคคลที่ทำงานในสาขาอาชีพแพทย์และพยาบาลเท่านั้น เราทำความดีได้ในแบบเรา และโดยอาชีพที่เราทำอยู่ ทำแล้วก่อเกิดความสุขก็พอ” คุณอรสมกล่าวทิ้งท้าย.

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ

เนาวรัตน์(เล็ก) ชุมยวง

www.thainhf.org

02 511-5855 ต่อ 116

สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net