กรุงเทพฯ--29 ก.ค.--พม.
รมว.อิสสระ สมชัย เผยผลงานรอบ ๖ เดือน นายกฯ ภูมิใจงานด้านสังคม เตรียมต่อยอดประกาศเรื่องการจัดสวัสดิการชุมชนเป็นวาระแห่งชาติ ย้ำกองทุนของ พม. ต้องบูรณาการ คัดเลือกนวัตกรรม สร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน ประชาสังคม
วันนี้ (๒๙ ก.ค.๕๒) เวลา ๑๓.๐๐ น. ที่โรงแรมมุกดาหาร แกรนด์ จังหวัดมุกดาหาร นายอิสสระ สมชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการติดตามประเมินผลโครงการที่ได้รับเงินอุดหนุนจากกองทุนในสังกัด พม. เขตพื้นที่ภาคตะวันออก เฉียงเหนือ โดยนายอิสสระ สมชัย กล่าวว่า จากการแถลงผลงานของรัฐบาลในรอบ ๖ เดือนที่ผ่านมา ผลงานที่นายกรัฐมนตรีมีความภาคภูมิใจ ๓ ลำดับแรก ล้วนเป็นงานด้านสังคม ทั้งเรื่องของการจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ การศึกษาขั้นพื้นฐานเรียนฟรี ๑๕ ปี การจ่ายค่าตอบแทนให้แก่อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน และยังมีงานด้านสังคมอีกหลายเรื่องที่รัฐบาลกำลังจะดำเนินการ เช่น การประกาศให้เรื่องการจัดสวัสดิการชุมชนเป็นวาระแห่งชาติ การสร้างระบบการออม เป็นต้น นั่นแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับงานด้านสังคม และความเป็นอยู่ของประชาชนอย่างแท้จริง
นายอิสสระ กล่าวต่อว่า ในส่วนของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ซึ่งมีภารกิจในการดูแลด้านสวัสดิการสังคม โดยสนับสนุนเงินกองทุนให้กับองค์การต่างๆ ที่ดำเนินโครงการในทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ขณะนี้มีอยู่ในความรับผิดชอบตามกฎหมาย ๕ กองทุน ประกอบด้วย กองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ กองทุนผู้สูงอายุ กองทุนคุ้มครองเด็ก กองทุนส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคม และกองทุนป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ แม้ว่ากองทุนทั้ง ๕ กองทุน จะมีขนาดไม่ใหญ่มากนัก แต่ก็สามารถนำไปใช้เป็นน้ำมันหล่อลื่นในการขับเคลื่อนสังคมและช่วยให้เครือข่ายของกระทรวง ไม่ว่าจะเป็นองค์กรสาธารณประโยชน์ องค์กรสวัสดิการชุมชน องค์กรที่ทำงานด้านเด็ก คนพิการ ผู้สูงอายุ ส่วนราชการ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นำเงินจากกองทุนไปดำเนินงานตามโครงการต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมได้เป็นอย่างดี
“แม้ว่า ในปี ๒๕๕๓ กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ จะไม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณ เนื่องจากภาวะวิกฤติเศรษฐกิจ แต่กระทรวงก็ถือโอกาสนี้กลับมาทบทวนการดำเนินงานที่ผ่านมา ซึ่งจะเป็นการติดตามประเมินผลขั้นตอนการดำเนินงานบริหารกองทุนด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเงินกองทุนที่เป็นเงินนอกงบประมาณ และบางกองทุน ก็ได้มีการกระจายอำนาจการดำเนินงานให้จังหวัด จึงต้องมั่นใจว่ามีการใช้จ่ายเงินกองทุนอย่างคุ้มค่า สามารถตอบสนองต่อวัตถุประสงค์ของกองทุนต่างๆ ที่กำหนดไว้ในกฎหมาย และจะนำข้อมูลที่ได้รับไปใช้ประโยชน์ในการวางแผนการดำเนินงานในปีถัดไป ที่สำคัญกองทุนต่าง ๆ ในปัจจุบันนี้จะต้องมีการบูรณาการกัน การคัดเลือกโครงการก็จะต้องคำนึงถึงโครงการที่มีความคิดริเริ่มใหม่ๆ และเป็นนวัตกรรมที่สร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน ท้องถิ่น และประชาสังคมด้วย” นายอิสสระ กล่าว
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit