กรุงเทพฯ--19 ส.ค.--แอสเซท พลัส
นางสาวจารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แอสเซท พลัส จำกัด กล่าวว่า ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น แล้ว 42.29% ทั้งนี้ การเคลื่อนไหวของ SET Index จากนี้ จะขึ้นอยู?กับป?จจัยภายนอกเป?นสําคัญ โดยเฉพาะ Fund Flow และราคาน้ำมันดิบโลก คาดว?าหากตลาดหุ?นโลกปรับฐานเสร็จสิ้น ดัชนีหุ?นไทยมีโอกาสฟ??นตัวจากเม็ดเงินไหลกลับเข้าสู่ตลาดหุ้นจากสภาพคล่องที่ดีขึ้น เนื่องจากปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยเงินฝากค่อนข้างต่ำ ทำให้นักลงทุนส่วนหนึ่งโยกเงินมาลงทุนในหุ้นที่มีอัตราจ่ายเงินปันผลสูง ในช่วงนี้ หลังจากสิ้นสุดการประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน จึงทำให้ตลาดมีการปรับฐานบ้างในระยะสั้น จากการขายทำกำไรหลังจากที่ตลาดปรับตัวขึ้นมาอย่างต่อเนื่องในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ แต่สำหรับระยะยาว ด้วยปัจจัยพื้นฐานราคาหุ้นที่ไม่แพง เมื่อเปรียบเทียบกับตลาดในภูมิภาค ซึ่งในช่วงจังหวะที่ตลาดปรับฐานนี้ ถือเป็นโอกาสที่ดีในการเข้าลงทุน
“ในส่วนของลูกค้าบริษัทฯ ขณะนี้ เริ่มมีความสนใจทยอยเข้าลงทุนในกองทุนหุ้น โดยเฉพาะในกองทุน LTF และ RMF ซึ่งบริษัทฯ ได้รุกทำการตลาด โดยเน้นการให้ความรู้ความเข้าใจกลุ่มผู้ลงทุนในด้านสิทธิประโยชน์ของการลงทุนกับกลุ่มพนักงานบริษัท ข้าราชการ และการออกบูธร่วมกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พร้อม ๆ กับการจัดรายการส่งเสริมการขายให้กับลูกค้า โดยในปีนี้ เพื่อกระตุ้นการลงทุนในกองทุน LTF และ RMF เฉพาะกองทุนหุ้น และกองทุนผสม โดยยอดเงินลงทุนตั้งแต่ 50,000 บาท รับ Gift Voucher มูลค่า 200 บาท ลงทุน 70,000 บาท รับ Gift Voucher มูลค่า 400 บาท ลงทุน 100,000 บาท รับหม้อหุงข้าว Panasonic มูลค่า 530 บาท ลงทุน 200,000 บาท รับ โทรศัพท์ไร้สาย ดิจิตอล Panasonic มูลค่า 999 บาท ลงทุน 300,000 บาท รับ หม้อตุ๋นไฟฟ้า Panasonic มูลค่า 1,690 บาท ลงทุน 400,000 บาท รับ หม้อหุงข้าวดิจิตอล Panasonic มูลค่า 1,990 บาท ลงทุน 500,000 บาท รับ กล้องดิจิตอล Sony มูลค่า 3,990 บาท และรางวัลใหญ่สำหรับผู้ลงทุน 800,000 บาท รับ LCD TV Sharp มูลค่า 7,990 บาท ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ Asset Plus Call Center 02-672-1111
โดยในวันที่ 20-23 สิงหาคม นี้ ตั้งแต่ 10.00-20.00 น. บริษัทฯ จะร่วมออกบูธในงาน ตลาดนัดกองทุนรวม : Mutual Fund Fair ณ Hall of Fame ชั้น M ศูนย์การค้าสยามพารากอน โดยบริษัทได้จัดโปรโมชั่นพิเศษสำหรับผู้ร่วมลงทุนในกองทุน LTF-RMF ในงาน ทุกยอดเงินลงทุน 100,000 บาท รับ Gift Voucher เพิ่ม 200 บาท” นางสาวจารุลักษณ์ กล่าว
นางสาวจารุลักษณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับผลการดำเนินงานของกองทุน LTF และ RMF ภายใต้การจัดการของบริษัท ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2552 นับตั้งแต่ต้นปี (YTD) ปรับตัวดีกว่าเกณฑ์มาตรฐานทั้งกองทุนหุ้น และกองทุนตราสารหนี้ โดยกองทุนที่มีผลการดำเนินงานดีที่สุด ได้แก่ กองทุนเปิดแอสเซทพลัสหุ้นระยะยาว (ASP-LTF) มีผลการดำเนินงาน YTD อยู่ที่ 44.59% ส่วนกองทุนเปิดแอสเซทพลัสหุ้นระยะยาวทวีกำไร (ASP-GLTF) มีผลการดำเนินงาน YTD อยู่ที่ 40.48% สำหรับกองทุน RMF ที่เป็นกองทุนหุ้น ได้แก่ กองทุนเปิดแอสเซทพลัสตราสารทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ (ASP-ERF) มีผลการดำเนินงาน YTD อยู่ที่ 44.53% ต่อปี ซึ่งจะเห็นว่าทุกกองทุนมีผลการดำเนินงานชนะผลตอบแทนจากการลงทุนใน SET Index ซึ่งอยู่ที่ 38.68%
ในส่วนกองทุน RMF ที่เป็นกองทุนผสม ได้แก่ กองทุนเปิดแอสเซทพลัสหุ้นผสมตราสารหนี้เพื่อการเลี้ยงชีพ (ASP-MRF) มีผลการดำเนินงาน YTD เท่ากับ 40.50% ขณะที่เกณฑ์มาตรฐาน ซึ่งคือ ค่าเฉลี่ยระหว่าง SET Index และค่าเฉลี่ยระหว่าง THAIBMA Government Bond Index และอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 1 ปี สำหรับวงเงิน 1 ล้านบาท เฉลี่ยของธนาคารพาณิชย์ 3 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารไทยพาณิชย์ อยู่ที่ 20.07% ต่อปี
และกองทุนสุดท้ายเป็นกองทุน RMF ที่เป็นกองทุนตราสารหนี้ ได้แก่ กองทุนเปิดแอสเซทพลัสตราสารหนี้เพื่อการเลี้ยงชีพ (ASP-FRF) มีผลการดำเนินงาน YTD อยู่ที่ 3.45% ขณะที่เกณฑ์มาตรฐาน ซึ่งคือ ค่าเฉลี่ยระหว่าง THAIBMA Government Bond Index และอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 1 ปี สำหรับวงเงิน 1 ล้านบาท เฉลี่ยของธนาคารพาณิชย์ 3 แห่ง อยู่ที่ -2.58% ต่อปี