กรุงเทพฯ--16 ก.พ.--บมจ. ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป
บลจ.ทิสโก้ มั่นใจหุ้น “เอเชียแปซิฟิก”เริ่มฟื้น เตรียมส่ง “กองทริกเกอร์ 4” กองทาร์เก็ตฟันด์ซีรีย์ที่ 4 ลุยหุ้นเอเชียแปซิฟิก พร้อมปิดกองคืนเงินเมื่อได้ผลตอบแทนตามเป้าที่ 15% เชื่อมั่นปีนี้หุ้นเอเชียแปซิฟิกจะปรับตัวสูงขึ้น ชี้ตัวอย่าง “กองทริกเกอร์ 3” ล่าสุด NAV ปรับขึ้นจาก 10 บาท เป็น 10.31 บาทแล้วหลังเปิดขายไม่ถึงเดือน คาดเปิดจอง “กองทริกเกอร์ 4” ในวันที่ 19-27 ก.พ. นี้ ลงทุนขั้นต่ำ 2 หมื่นบาท
นายพิชา รัตนธรรม หัวหน้าธุรกิจกองทุนรวมและกองทุนส่วนบุคคล บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเสนอขายกองทุนใหม่ “กองทุนเปิด ทิสโก้ เอเชีย แปซิฟิก เอ็กซ์ เจแปน ทริกเกอร์ 15% # 4” ซึ่งเป็นกอง FIF ซีรีย์ที่ 4 ที่มีนโยบายการลงทุนคล้ายกับ 3 กองแรก คือกองทริกเกอร์ 1-3 นั่นคือ เป็นกองทุนรวมต่างประเทศ ประเภทกองทุนหน่วยลงทุนที่เน้นการทำกำไรตามเป้าหมาย (ทาร์เกตฟันด์) โดยจะเน้นลงทุนในหุ้นกลุ่มประเทศเอเชียแปซิฟิก ยกเว้นประเทศญี่ปุ่น โดยมีกองทุนหลัก คือ “กองทุน Lyxor ETF MSCI AC Asia-Pacific Ex Japan” ซึ่งเป็นกองอีทีเอฟที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหุ้นฮ่องกง มีนโยบายลงทุนในหุ้นเพื่อให้ได้รับผลตอบแทนใกล้เคียงกับผลตอบแทนของดัชนี MSCI AC Asia-Pacific Ex Japan
“จุดเด่นของกองทุนนี้คือ ถ้าเราได้กำไรถึงระดับที่เราตั้งเป้าหมายเอาไว้ที่ 15% ภายใน 1 ปี เราก็ปิดกองและคืนเงินได้ทันที ซึ่งจะช่วยผู้ถือหน่วยได้เพิ่มผลประโยชน์มากขึ้น โดยไม่ต้องคอยติดตามการลงทุนด้วยตนเอง”
ทั้งนี้ นายพิชากล่าวว่า สำหรับเหตุผลที่ บลจ. ทิสโก้ เสนอขายกองทุนลักษณะนี้อย่างต่อเนื่อง เพราะบริษัทประเมินว่าราคาหุ้นในปัจจุบันของกลุ่มเอเชียแปซิฟิกเป็นระดับที่ต่ำเมื่อเทียบกับปัจจัยพื้นฐานที่ยังคงดีอยู่เมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่นๆ จึงน่าจะสามารถลงทุนได้แล้ว โดยเฉพาะตลาดหุ้นจีนและอินเดีย อีกทั้งยังถือว่าปรับตัวลดลงมามากจนทำสถิติต่ำสุดในรอบหลายปี ดังนั้นด้วยราคาหุ้นที่ถูกลงมามาก การคาดหวังว่าราคาหุ้นของเอเชียจะดีดกลับก่อนภูมิภาคอื่นจึงมีโอกาสสูงมาก
“จะเห็นตัวอย่างเห็นได้ชัดเจนจากกองทริกเกอร์ 3 ที่เอ็นเอวี (NAV) ณ วันที่ 13 ก.พ. ปรับตัวขึ้นจาก 10 บาท เป็น 10.31 บาท หลังจากเปิดขายไปได้ไม่ถึง 1 เดือน ซึ่งกองทริกเกอร์ 4 เราก็มองทำนองเดียวกัน หากดัชนี MSCI AC Asia-Pacific Ex Japan ปรับตัวขึ้นจากประมาณ 236 จุด มาเป็นประมาณ 271 จุด หรือเพิ่มอีกเพียง 35 จุด กองทุนนี้ก็จะให้ผลตอบแทนได้ตามเป้าหมายคือ 15% ซึ่งเมื่อถึงเป้าหมายเราก็จะคืนเงินลงทุนและผลตอบแทนให้ทันที
นอกจากนี้ เราเข้าใจผู้ลงทุนว่าต้องการลงทุนในระดับราคาที่แตกต่างกัน โดยบางรายอาจต้องการรอดูสถานการณ์ให้ตลาดปรับขึ้นมาก่อนจึงจะเข้าไป แต่บางรายมองว่ากว่าจะถึงเวลานั้น อาจจะมีโอกาสทำกำไรน้อยลง ดังนั้นเพื่อให้ผู้ลงทุนไม่พลาดโอกาสในการรับผลตอบแทนในจังหวะเวลาที่แตกต่างกัน เราจึงนำเสนอกองทุนซีรีย์ต่อเนื่อง เพื่อลูกค้าสบายใจที่จะนำเงินเข้าไปลงทุนในเวลาที่แตกต่างกันได้” นายพิชา กล่าว
ทั้งนี้ “กองทุนเปิด ทิสโก้ เอเชีย แปซิฟิก เอ็กซ์ เจแปน ทริกเกอร์ 15% # 4” อยู่ในระหว่างการพิจารณาคำขออนุมัติจัดตั้งและจัดการกองทุนรวมจากสำนักงานคณะกรรมการก.ล.ต. โดยคาดว่าจะเสนอขายประมาณวันที่ 19-27 ก.พ.52 โดยมีเงินทุนของโครงการที่จดทะเบียนไว้คือ 1,000 ล้านบาท ลงทุนขั้นต่ำ 20,000 บาท ผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ธนาคารทิสโก้ทุกสาขา หรือที่ TISCO Contact Center โทร 02 633 6000 กด 4
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit