ปีนี้ SPPT มีธุรกิจขายเครื่องผลิตน้ำมันดิบหนุน เชื่อปั๊มรายได้ใกล้เคียงกับปีก่อนแม้ ศก.โลกทรุด

16 Feb 2009

กรุงเทพฯ--16 ก.พ.--ออนไลน์ แอสเซ็ท

SPPT มั่นใจปีนี้ฝ่ามรสุมเศรษฐกิจได้สำเร็จ ปั๊มรายได้ใกล้เคียงกับปีก่อน เหตุได้รายได้จากการขายเครื่องแปรรูปขยะพลาสติกเป็นน้ำมันดิบของบริษัทลูกช่วยหนุน ขณะที่สินค้า HDD เชื่อมีโอกาสพลิกมาเติบโตอีกครั้ง เหตุปัญหาเศรษฐกิจทำให้ลูกค้ารัดเข็มขัดหันมา up grade HDD ทดแทนการเปลี่ยนเครื่องคอมพิวเตอร์ และปรับไลฟ์สไตล์มาอยู่กับบ้าน หนุนอุปกรณ์ Home Entertainment ขยายตัว "ประพจน์ พลพิพัฒนพงศ์" เชื่อออเดอร์จะกลับมาอีกครั้งตั้งแต่ไตรมาสที่ 2/2552 หลังสินค้าหมดสต็อกเพราะหยุดคำสั่งซื้อสั่งมานาน

นายประพจน์ พลพิพัฒนพงศ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซิงเกิ้ล พอยท์พาร์ท (ประเทศไทย)จำกัด (มหาชน) หรือ SPPTเปิดเผยถึงทิศทางของธุรกิจในปีนี้ว่า ยอมรับว่าธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์รวมทั้งธุรกิจผลิตฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟ (Hard Disk Drive - HDD) จะได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจโลกชะลอตัวเช่นเดียวกับธุรกิจอื่นๆ โดยคาดว่าในปีนี้ อัตราการเติบโตของธุรกิจฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟ จะอยู่ที่อัตราประมาณ 3-5% จากเดิมที่เคยเติบโตในอัตรามากกว่า 10% ต่อเนื่องมาหลายปี

พร้อมกันนี้ เชื่อว่าจากความจำเป็นในการใช้ผลิตภัณฑ์ฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟ ในการเก็บข้อมูลยังเป็นสิ่งที่ทุกบริษัทให้ความสำคัญ และปัญหาทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น ก็สร้างโอกาสให้กับธุรกิจบางประเภทได้เติบโตดีขึ้น รวมทั้งธุรกิจ ผลิตฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟด้วย โดยมองว่าการชะลอตัวของเศรษฐกิจทำให้ประชาชน และบริษัทหันมาประหยัดค่าใช้จ่ายและชะลอการซื้อสินค้าใหม่ โดยหันมา up grade ฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟ หรือการจัดหา External HDD ทำให้ตลาดยังมีความต้องการผลิตภัณฑ์ฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟอยู่ ประกอบกับมีการคาดการณ์ว่าเมื่อประชาชนเริ่มประหยัด และอยู่กับบ้านมากขึ้น จะทำให้ความต้องใช้คอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์เพื่อการบันเทิงอื่นๆ เพิ่มขึ้นในทิศทางเดียวกัน จะทำให้ฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟเติบโตขึ้น เพราะปัจจุบันได้ถูกนำไปใช้ในอุปกรณ์ Home Entertainment มากขึ้น จึงถือว่ายังมีโอกาสในการเติบโต และสามารถทดแทนความต้องการใช้ฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟ ในตลาดเครื่องคอมพิวเตอร์ใหม่ที่ชะลอตัวลงได้

"ความจริงธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์ได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจแล้วตั้งแต่ไตรมาสที่ 4/51 ซึ่งโดยปกติจะเป็นช่วง high season แต่กลับไม่เป็นไปตามที่คาดไว้ เนื่องจากลูกค้าชะลอการสั่งซื้อเพื่อลดระดับสินค้าคงคลังให้เหลือน้อยที่สุดและพยายามระบายสินค้าที่เคย built สต็อกไว้ในช่วงไตรมาส 3 ออกไป อย่างไรก็ตาม บริษัทคาดการณ์ว่า ถึงแม้ความต้องการ HDD ในไตรมาส 1/52 จะยังคงชะลอตัว แต่อยู่ในอัตราที่น้อยลงเมื่อเทียบกับไตรมาส 4/51 โดยพบว่าปริมาณการสั่งซื้อของลูกค้าได้เริ่มเพิ่มขึ้นบ้างแล้วในเดือน กุมภาพันธ์ และมีนาคม และคาดว่าจะดีขึ้นอีกในไตรมาส 2/52 เพราะเป็นช่วงสิ้นสุดปีการเงินของบริษัทญี่ปุ่น และทุกบริษัทคงเริ่มสั่งซื้อมากขึ้นเพื่อชดเชยสินค้าคงคลังที่ลดลงตลอดช่วง 2 ไตรมาสที่ผ่านมา ซึ่งเชื่อว่าสถานการณ์ทางธุรกิจจะเริ่มปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง "

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าในปี 2552 ธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์เพิ่งจะเริ่มฟื้นตัว แต่คาดว่ายอดขายรวมจะเติบโตมากกว่าปี 2551เนื่องจากในปีนี้ SPPTจะรับรู้รายได้จาก บริษัท ซิงเกิ้ล พอยท์อีเนอยี่ แอนด์ เอ็นไวรอนเม้นท์ จำกัด ( SPEE) บริษัทย่อย ซึ่งประกอบธุรกิจจัดจำหน่ายเครื่องแปรรูปขยะพลาสติกเป็นน้ำมันดิบ โดยจะรับรู้รายได้จากการขายเครื่องจักร 2 เครื่อง ซึ่งเดิมคาดว่าจะรับรู้รายได้อย่างน้อย 1 เครื่องจาก การติดตั้งที่จังหวัดระยองในปี 2551 แต่เนื่องจากการติดตั้งล่าช้าจากปัญหาทางการเมืองในช่วงที่ผ่านมา ทำให้บริษัทที่จำหน่ายเครื่อง ไม่สามารถเดินทางมาติดตั้งเครื่องจักรตามตารางเวลาที่กำหนดได้ จึงส่งผลให้การรับรู้รายได้เครื่องจักรเครื่องที่ 1 ประมาณ 40 กว่าล้านบาท ต้องเลื่อนมาเป็นไตรมาส 1/52 จึงสนับสนุนให้รายได้ในปีนี้สามารถเติบโตได้ดังกล่าว

นายประพจน์ กล่าวอีกว่า ปัจจุบันบริษัทฯ อยู่ระหว่างการทบทวนแผนการดำเนินงานและประมาณการผลประกอบการในปี 2552 เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ของเศรษฐกิจโลก โดยในปีนี้บริษัทฯ ได้รับผลดี คือ ราคาวัตถุดิบประเภทโลหะที่ปรับลดลงมาก และการปรับปรุงระบบการผลิตให้ดีขึ้นเพื่อช่วยในการปรับลดต้นทุนการผลิตให้ต่ำลงและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตดีขึ้นโดยบริษัทสามารถผลิตได้มากขึ้นในขณะที่จำนวนเครื่องจักรเท่าเดิมเพื่อรองรับการต่อรองราคาของลูกค้าซึ่งคาดว่าคงไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ในขณะเดียวกันบริษัทฯ ได้ชะลอการลงทุนใหม่ในเครื่องจักรสำหรับธุรกิจ HDD ที่มีการลงทุนเพิ่มทุกปี ทำให้มีกระแสเงินสดเพิ่มมากขึ้น และจะทำให้อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนลดต่ำลงกว่าเดิม สามารถลดค่าใช้จ่ายเรื่องดอกเบี้ยได้ระดับหนึ่ง ซึ่งคาดว่าจะช่วยให้อัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทปรับตัวดีขึ้นด้วย

ข้อมูล บมจ.ซิงเกิ้ล พอยท์ พาร์ท (ประเทศไทย) หรือ SPPT

บมจ.ซิงเกิ้ล พอยท์ พาร์ท (ประเทศไทย) หรือ SPPT ประกอบธุรกิจรับจ้างผลิตชิ้นส่วนโลหะที่มีความเที่ยงตรงสูงระดับต่ำกว่า 5 ไมครอน แบ่งสินค้าออกเป็น 2 กลุ่มหลัก โดยกลุ่มแรกเป็นส่วนประกอบสำหรับผลิตภัณฑ์ฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟ (Hard Disk Drive) กลุ่มที่สองเป็นส่วนประกอบสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่ฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟ (Non Hard Disk Drive) อาทิ ส่วนประกอบสำหรับผลิตภัณฑ์กลุ่มคอนซูมเมอร์ อิเล็คโทรนิค และเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ (Consumer Electronic &Entertainment) และ ส่วนประกอบสำหรับผลิตภัณฑ์อื่นๆ เช่น ชิ้นส่วนสำหรับรถจักรยานยนต์

นอกจากนั้น ยังผลิตชิ้นส่วนอุปกรณ์ทางการแพทย์ ดำเนินธุรกิจภายใต้บริษัท ซิงเกิ้ล พอยท์ เมดิคอล พาร์ท จำกัด (“SPMP”) และเครื่องจักรแปรรูปขยะพลาสติกเป็นน้ำมันดิบ ดำเนินธุรกิจภายใต้บริษัท ซิงเกิ้ล พอยท์ เอ็นเนอร์ยี่ แอนด์ เอ็นไวรอนเม้นท์ จำกัด (“SPEE”) ซึ่งบริษัทเป็นผู้แทนจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทยและในกลุ่มประเทศอินโดจีนที่ได้รับลิขสิทธิ์ในการนำเข้านวัตกรรมในการแปรรูปขยะพลาสติกเป็นน้ำมันดิบซึ่งเป็นเทคโนโลยีจากประเทศโปแลนด์

ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : คุณปภาดา สุวรรณกูฎ (ตุ้ย) 02-554-9394 , 085-133-0184

สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net