กรุงเทพฯ--14 พ.ค.--กทม.
ดร.พงษ์ศักติฐ์ เสมสันต์ ปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นประธานในพิธีเปิดการฝึกอบรมหลักสูตรนักบริหารมหานครระดับกลาง รุ่นที่ 7 โดยมีข้าราชการสังกัดกรุงเทพมหานคร ระดับ 7 – 8 ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ และนักบริหารระดับกลาง จากหน่วยงานต่างสังกัด เข้าร่วมอบรม ณ. ห้องเจ้าพระยา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร
กรุงเทพมหานครเล็งเห็นความสำคัญต่อการพัฒนาศักยภาพบุคลากรในทุกระดับ ทุกสายงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งระดับนักบริหารระดับกลาง ซึ่งถือเป็นฟันเฟืองหลักในการนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติ ตลอดจนแนวทางปฏิบัติเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและรอบด้าน เพื่อขับเคลื่อนองค์กรให้พัฒนาไปอย่างยั่งยืน ปรัชญาของหลักสูตรนักบริหารมหานครระดับกลาง มุ่งมั่นที่จะพัฒนานักบริหารให้มีขีดสมรรถนะในการบริหารจัดการ มีวิสัยทัศน์และภาวะผู้นำ พร้อมคุณธรรม จริยธรรม ดำรงตนเป็นแบบอย่างที่ดี สามารถนำเทคโนโลยีอันทันสมัยมาประยุกต์ใช้ในการบริหารงาน สนองความต้องการของพี่น้องประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในการอบรมครั้งนี้มีผู้เข้ารับการฝึกอบรม จำนวน 39 คน ประกอบด้วยข้าราชการสังกัดกรุงเทพมหานคร ระดับ 7 – 8 จากสำนักและสำนักเขต จำนวน 30 คน ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ และนักบริหารระดับกลางจากหน่วยงานต่างสังกัด จำนวน 9 คน ได้แก่ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กรมที่ดิน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรมราชองครักษ์ การประปานครหลวง และอำเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก ระยะการฝึกอบรม ตั้งแต่วันที่ 13 พ.ค. – 28 ส.ค. 52 ประมาณ 16 สัปดาห์ ประกอบด้วย การฝึกอบรมภาควิชาการแบบไป – กลับ การฝึกอบรมผู้บังคับบัญชาลูกเสือระดับผู้นำ ขั้นความรู้ชั้นสูง มีการศึกษาดูงานหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในกรุงเทพมหานคร ตลอดจนการศึกษาเปรียบเทียบทั้งในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด
ปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า การอบรมครั้งนี้ผู้เข้ารับการอบรมจะได้รับการพัฒนาทั้งความรู้ทางวิชาการ ตลอดจนได้รับการพัฒนาด้านคุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณของนักบริหาร อันจะนำไปปรับใช้ในการปฏิบัติงานได้อย่างเหมาะสม ตลอดระยะเวลาการฝึกอบรม 16 สัปดาห์ ซึ่งนอกเหนือจากการพัฒนาศักยภาพและประสบการณ์ในหลาย ๆ ด้านแล้ว ยังเป็นการประสานงานกันระหว่างกรุงเทพมหานครกับหน่วยงานต่างสังกัดที่ส่งผู้เข้ารับการฝึกอบรมร่วมสมทบด้วย นับว่าเป็นนิมิตหมายที่ดี ที่นำประโยชน์และสัมพันธภาพมาสู่บุคลากรและหน่วยงานของกรุงเทพมหานครต่อไป
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit