ขอชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกรณีความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในการประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัท

11 May 2009

กรุงเทพฯ--11 พ.ค.--แนเชอรัล พาร์ค

ตามที่หนังสือพิมพ์หลายฉบับได้ลงข่าวเกี่ยวกับความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัท แนเชอรัล พาร์ค จำกัด (มหาชน) (“บริษัท”) ในวันที่ 30 เมษายน 2552 นั้น บริษัทขอเรียงลำดับเหตุการณ์ และชี้แจงเกี่ยวกับข้อเท็จที่เกิดขึ้นดังนี้

1. เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2552 เวลาประมาณ 14.00 น. ผู้ถือหุ้นรายย่อยรายหนึ่งแจ้งว่าชื่อ พรทิพย์ ตั้งใจรักการดี ขอพูดกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายสื่อสารองค์กร ซึ่งขณะนั้นไม่อยู่มีงานนอกบริษัทจึงได้พูดกับเลขาฯ ฝ่าย ผู้ถือหุ้นรายนั้นไม่พอใจ ได้ว่ากล่าวเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับการทำงานของพนักงานในทำนองว่าไม่อยู่บริษัทไปทำงานข้างนอกได้อย่างใร?

2. ในวันที่ 24 เมษายน 2552 เจ้าหน้าที่ฝ่ายสื่อสารองค์กร ได้โทรศัพท์กลับผู้ถือหุ้นรายนั้นตามเบอร์โทรศัพท์ที่ฝากไว้ให้ เพื่อพูดคุยและทำความเข้าใจให้ผู้ถือหุ้นรายนั้นดีขึ้น แต่ผู้ถือหุ้นรายดังกล่าวกลับใช้วาจาหยาบคาย ขึ้นมึงขึ้นกู ด่าว่าบริษัท และบอกว่าพนักงานก็เปรียบเสมือนบริษัท เพราะฉะนั้น ผู้ถือหุ้นมีสิทธิด่าบริษัท ก็มีสิทธิด่าพนักงานได้เช่นกัน

3. วันที่ 25 เมษายน 2552 ผู้ถือหุ้นรายนี้ได้โทรศัพท์ไปยังฝ่ายบริหารของบริษัท เพื่อขอพูดกับผู้บริหาร เลขาฯ ผู้บริหารได้รับโทรศัพท์และขอรายละเอียดเกี่ยวกับผู้พูด ผู้ถือหุ้นรายนั้นกลับใช้ถ้อยคำหยาบคาย พร้อมกับแสดงความมีอำนาจด้วยการแจ้งว่าเป็นผู้ถือหุ้นจะทำอะไรก็ได้ จะใช้คำหยาบคายว่ากล่าวใครก็ได้ เพราะผู้ถือหุ้นคือเจ้าของบริษัท

4. วันที่ 27 เมษายน 2552 ผู้ถือหุ้นรายนี้ได้โทรศัพท์ไปยังฝ่ายสารสนเทศของบริษัท ต่อว่าเรื่องราคาหุ้น ใช้วาจาเกรี้ยวกราดและแนะนำให้พนักงานลาออกจากบริษัท

5. วันที่ 28 เมษายน 2552 ผู้ถือหุ้นรายนี้ได้โทรศัพท์ไปยังฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ของบริษัท เพื่อสอบถามเกี่ยวกับเงินเดือน ผลตอบแทน ของผู้บริหาร และพนักงานของบริษัท จากนั้นก็ว่ากล่าวผู้บริหารและบริษัท ด้วยวาจาหยาบคาย โดยอ้างว่าตนเองเจ็บใจ เพราะด่าพวกพันธมิตรแต่กลับเจริญได้ดิบได้ดี แต่เชียร์เสื้อแดงกลับแพ้ไม่ได้เรื่องลงทุนในหุ้นก็ขาดทุนยับเยิน และบ่นต่อไปอีกยืดยาว ซึ่งพนักงานได้แต่ฟัง และพยายามพูดให้รู้สึกดีขึ้น

6. วันที่ 29 เมษายน 2552 ผู้ถือหุ้นรายนี้ได้โทรศัพท์มายังฝ่ายกลยุทธ์และวางแผนการเงินของบริษัท โดยพูดหยาบคายอีกเช่นเคย ด่าระรานไปทั่ว

7. บริษัทจัดให้มีการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ในวันที่ 30 เมษายน 2552 ในวันดังกล่าว ผู้ถือหุ้นรายนี้ได้ไปปรากฏตัว แสดงความไม่พอใจในอาหาร การจัดประชุมของบริษัท และพูดจาก้าวร้าวแสดงความไม่พอใจต่อการทำงานของพนักงานบริษัท ที่ทำหน้าที่ลงทะเบียนผู้เข้าร่วมประชุม เมื่อเข้าห้องประชุมผู้ถือหุ้นรายนี้ไม่ได้สนใจการแถลงของคณะกรรมการ มุ่งแต่โจมตีด่าว่าด้วยถ้อยคำไม่สุภาพ ขว้างแก้วใส่คณะกรรมการ และแสดงกิริยาหยาบคายหลายครั้งต่อคณะกรรมการ

ในวันเดียวกันนั้น เวลาประมาณ 10.30 น. ผู้ถือหุ้นรายนี้โทรศัพท์มายังบริษัท ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายทรัพยากรมนุษย์เป็นผู้รับสาย เรียกพนักงานเป็นตัว และเล่าเรื่องที่ตนแสดงกิริยาหยาบคายต่อผู้บริหารแต่ยังไม่สะใจ เพราะถูกเชิญออกเสียก่อน พร้อมทั้งแนะนำพนักงานให้แสดงกิริยาหยาบคายอย่างที่ตนทำในห้องประชุมต่อผู้บริหารด้วย

8. วันที่ 30 เมษายน 2552 เวลาประมาณ 14.00 น. ผู้ถือหุ้นรายนี้ได้โทรศัพท์มายังฝ่ายกลยุทธ์และวางแผนการเงินของบริษัท เพื่อขอพูดกับพนักงานที่รู้เรื่องหุ้น แต่ขณะนั้นพนักงานส่วนใหญ่ยังไม่กลับจากการประชุมผู้ถือหุ้น

9. วันที่ 30 เมษายน 2552 เวลาประมาณ 16.30 น. ผู้ถือหุ้นรายนี้ได้โทรศัพท์มายังฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ ได้สอบถามพนักงานผู้นั้นว่ารู้เรื่องผู้ถือหุ้นที่แสดงกิริยาหยาบคายในที่ประชุมผู้ถือหุ้นหรือไม่ พนักงานผู้นั้นตอบว่าไม่ทราบ ผู้ถือหุ้นรายนี้แสดงความรู้สึกไม่พอใจว่าไม่รู้ได้อย่างไร? พร้อมทั้งเล่าเหตุการณ์ที่ตนแสดงกิริยาหยาบคายต่อผู้บริหารในที่ประชุมท่ามกลางสายตาผู้ถือหุ้นรายอื่นๆ จากนั้นก็บ่นด่าผู้บริหารอย่างก้าวร้าวและหยาบคายอีกเช่นเดิม

10. วันที่ 30 เมษายน 2552 เวลาประมาณ 17.30 น. พนักงานฝ่ายทรัพยากรมนุษย์อีกคนหนึ่งได้พูดสายกับผู้ถือหุ้นรายนั้น หลังจากพนักงานคนแรกได้พูดคุยกับผู้ถือหุ้นรายนี้มาแล้วหนึ่งชั่วโมง โดยหวังว่าผู้ถือหุ้นรายนี้จะผ่อนคลายและมีอารมณ์ดีขึ้น ผู้ถือหุ้นรายนี้ได้เล่าถึงพฤติกรรมหยาบคายของเธอที่แสดงในที่ประชุมผู้ถือหุ้นอีก

11. วันที่ 4 พฤษภาคม 2552 เวลาประมาณ 10.30 น. พนักงานฝ่ายกลยุทธ์และวางแผนการเงิน รับสายโทรศัพท์ของผู้ถือหุ้นรายนี้ โดยผู้ถือหุ้นได้เล่าเรื่องที่เธอแสดงกิริยาหยาบคายในที่ประชุมผู้ถือหุ้น พร้อมทั้งด่าผู้บริหารด้วยถ้อยคำรุนแรงและหยาบคาย

12. วันที่ 4 พฤษภาคม 2552 เวลาประมาณ 16.00 น. พนักงานฝ่ายกลยุทธ์และวางแผนการเงิน ได้รับโทรศัพท์ผู้ถือหุ้นรายนี้อีก เหตุการณ์เป็นไปเช่นเดิม

จากการกระทำของนางสาวพรทิพย์ ตั้งใจรักการดี ดังกล่าวข้างต้น ทำให้บริษัทได้รับความเสียหายและทำลายขวัญกำลังใจในการทำงานของพนักงาน ซึ่งบริษัทจะพิจารณาดำเนินการตามความเหมาะสมต่อไป