โครงการสานรัก ผลิตภาพยนตร์โฆษณา จุดประกายให้สังคมไทย สร้างพลังความรักในครอบครัว เพื่อฝ่าฟันวิกฤติ

07 May 2009

กรุงเทพฯ--7 พ.ค.--เอไอเอส

ภาพยนตร์โฆษณาชุด :ครอบครัวช่วยกัน ฝ่าฟันวิกฤติ

Creative Director :วินัย งามผาติพงศ์

บริษัทตัวแทนโฆษณา :บริษัท แมทซ์บอกซ์ จำกัด

วัตถุประสงค์ :เพื่อให้สมาชิกในครอบครัวได้ตระหนักถึงคุณค่า และร่วมกันสร้างพลัง

ความรักความสามัคคีให้เกิดขึ้นในครอบครัว เพื่อเป็นพลังฝ่าฟันวิกฤติ

Creative Concept :การช่วยกันคิดช่วยกันทำในครอบครัว เป็นพลังฝ่าฟันวิกฤติ

โครงการสานรัก โดยบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส ได้ตระหนักถึงความสำคัญของสถาบันครอบครัว เพราะครอบครัวถือเป็นรากฐานสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนและเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในสังคมไทยให้ดียิ่งขึ้น เอไอเอสจึงได้จัดกิจกรรมต่างๆภายใต้โครงการสานรัก เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ในครอบครัว รวมทั้งเป็นสื่อกลางในการจุดประกายความคิดให้คนในสังคมไทย เห็นถึงคุณค่าความสำคัญของความรัก ความผูกพันของสมาชิกในครอบครัว ด้วยการผลิตภาพยนตร์โฆษณาส่งเสริมสถาบันครอบครัวอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลากว่า 10 ปี

โดยในปีนี้ โครงการสานรัก ได้ออกภาพยนตร์โฆษณาชุด “ครอบครัวช่วยกัน ฝ่าฟันวิกฤติ” ความยาว 60 วินาที ซึ่งเป็นภาพยนตร์โฆษณาชุดที่ 20 ของโครงการฯ เพื่อเป็นกำลังใจให้ทุกครอบครัวร่วมกันฝ่าฟันวิกฤติ ซึ่งสอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจทั่วโลกที่กำลังถดถอย ส่งผลกระทบต่อสภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทย ทำให้หลายๆบริษัทต้องลดอัตราการจ้างงานและบางบริษัทต้องปิดกิจการลง ทำให้มีคนว่างงานเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก แม้ภาวะเศรษฐกิจจะส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิต แต่หากสมาชิกในครอบครัวเป็นกำลังใจให้แก่กันและช่วยกันหารายได้ ก็จะสามารถผ่านพ้นวิกฤติเศรษฐกิจนี้ไปได้

เช่นเดียวกับการดำเนินเรื่องราวของภาพยนตร์โฆษณาชุดนี้ ที่ถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตของครอบครัว นายสิทธิศักดิ์ พรหมจันทร์ หรือน้องบิว เยาวชนในโครงการสานรัก คนเก่งหัวใจแกร่ง ที่ครอบครัวเคยได้รับผลกระทบจากวิกฤติค่าเงินบาทอ่อนตัว หรือวิกฤติต้มยำกุ้ง เมื่อปี 2542 โดยคุณแม่ของบิวซึ่งทำงานเป็นผู้ช่วยพยาบาลถูกปลดออกจากงาน ขณะที่คุณพ่อซึ่งเป็นช่างประจำโรงแรมเล็กๆแห่งหนึ่งก็มีรายได้ไม่มากนักและไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายของครอบครัว สมาชิกในครอบครัวจึงคิดหารายได้พิเศษด้วยการทำน้ำเต้าหู้ขาย เมื่อทำเสร็จบิวและคุณแม่ก็นำไปขายที่โรงเรียนของบิว จนมีรายได้เพิ่มขึ้นทำให้ครอบครัวผ่านพ้นภาวะวิกฤติในช่วงนั้นมาได้ ถึงแม้ว่าขณะนี้วิกฤติเศรษฐกิจจะหวนกลับมาอีกครั้งหนึ่ง ครอบครัวของบิวก็เชื่อว่า พลังแห่งความรัก ความสามัคคีในครอบครัวจะช่วยถักทอและเป็นกำลังใจให้แก่กัน จนสามารถผ่านพ้นไปได้

โครงการสานรัก จึงขอเป็นสื่อกลางในการเชื่อมความรัก ความผูกพันของสมาชิกในครอบครัวให้มีกำลังใจในการต่อสู้กับปัญหาและอุปสรรคต่างๆที่ผ่านเข้ามาในชีวิต เพราะครอบครัว คือสิ่งสำคัญ และพร้อมที่จะเป็นพลังในการต่อสู้ชีวิต เพื่อก้าวต่อไปในวันข้างหน้า

สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net