กรุงเทพฯ--21 เม.ย.--ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ประกาศผลการดำเนินงานของธนาคารและบริษัทในเครือ ประจำไตรมาส 1/2552 ที่น่าพอใจ ภายใต้ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว โดยตามงบการเงินรวม ธนาคารมีกำไรจากการดำเนินงาน (ก่อนสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญและภาษี) รวม 3,285 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19% และ 13% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/2551 และไตรมาส 1/2551 ตามลำดับ และหลังหักสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญจำนวน 1,978 ล้านบาท และภาษีเงินได้จำนวน 282 ล้านบาท ธนาคารมีกำไรสุทธิ 1,025 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% จากไตรมาสก่อน และทรงตัวเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผลการดำเนินงานของธนาคารปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับ ไตรมาส 4/2551 ได้แก่ รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 55.6% และรายจ่ายที่มิใช่ดอกเบี้ยลดลง 7.8% และเมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของ ปีก่อน จุดที่ปรับปรุงดีขึ้นได้แก่ รายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผลสุทธิเพิ่มขึ้น 5.9% และรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 13.4% ในขณะที่ค่าใช้จ่ายที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 5.2%
นายตัน คอง คูน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ปี 2552 ถือเป็นปีที่มีความท้าทาย โดยในไตรมาส 1/2552 ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งสาเหตุหลักเกิดจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวและส่งผลกระทบต่อประเทศไทย อย่างไรก็ตาม ธนาคารรายงานผลกำไรสุทธิประจำไตรมาส 1/2552 ที่ระดับ 1,025 ล้านบาท ถือว่าน่าพอใจในภาวะเศรษฐกิจมหภาคที่เป็นอยู่”
“ขนาดสินทรัพย์ของธนาคารหดตัวลงเล็กน้อยที่ระดับ 1.5% โดยสาเหตุหลักเกิดจากสินเชื่อรวมลดลงประมาณ 3.9% ซึ่งค่อนข้างเป็นไปในทิศทางเดียวกับภาวะธุรกิจโดยรวม อย่างไรก็ตาม การเติบโตจากการเข้าซื้อกิจการ ธนาคารเอไอจี เพื่อรายย่อย จำกัด (มหาชน) และบริษัท เอไอจีคาร์ด (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเสร็จสมบูรณ์ไป เมื่อเร็วๆ นี้ ถือเป็นข้อดีที่จะช่วยชดเชยการชะลอตัวของการขยายธุรกิจตามปกติในปี 2552 นี้” นายตัน คอง คูน กล่าวในที่สุด
ณ 31 มีนาคม 2552 ตามงบการเงินรวม ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) มีสินทรัพย์รวม 734,579 ล้านบาท มีสินเชื่อรวม 535,126 ล้านบาท มีเงินฝาก 524,388 ล้านบาท และมีอัตราเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS Ratio) ที่ระดับ 15.57% โดยเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่ระดับ 12.94%
ข้อมูลเกี่ยวกับธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)
บมจ. ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 27 มกราคม 2488 ปัจจุบันเป็นธนาคารพาณิชย์ที่มีขนาดสินทรัพย์ใหญ่เป็นอันดับ 5 ของประเทศไทย มีสินทรัพย์รวมทั้งสิ้น 734,579 ล้านบาท เป็นธนาคารที่ให้บริการทางการเงินอย่างครบวงจรแก่ทั้งลูกค้าธุรกิจ และลูกค้าบุคคล ผ่านเครือข่ายสาขา 582 แห่งทั่วประเทศ เมื่อวันที่ 3 มกราคม 2550 จีอี มันนี่ ซึ่งเป็นสถาบันการเงินชั้นนำเพื่อรายย่อยชั้นนำของโลกได้บรรลุข้อตกลงการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับธนาคารกรุงศรีอยุธยาซึ่งสะท้อนถึงความตั้งใจและความเชื่อมั่นในธนาคารกรุงศรีอยุธยา โดยมีเป้าหมายที่จะยกระดับการผสานความสามารถทางธุรกิจของสององค์กร เพื่อให้ธนาคารกรุงศรีอยุธยาบรรลุเป้าหมายการเป็นธนาคารที่ให้บริการครบวงจรชั้นนำของประเทศไทย โดยปัจจุบัน จีอี มันนี่ และกลุ่มรัตนรักษ์เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของธนาคารในสัดส่วนร้อยละ 33 และร้อยละ 25 ตามลำดับ ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาเยี่ยมชมได้ที่เว็บไซต์ธนาคาร www.krungsri.com
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
ฝ่ายสื่อสารองค์กร
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)
โทรศัพท์ 0-2296-2443-4