กรุงเทพฯ--17 เม.ย.--อิมเมจ อิมแพค
ในช่วงเวลาภาวะเศรษฐกิจถดถอยและความไม่แน่นอนของอนาคต ผู้คนมีแนวโน้มที่จะหันหน้าเข้าขอความช่วยเหลือจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หรือมองหาคำแนะนำเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวที่มีผลต่อจิตใจ “เครื่องประดับคู่บารมี ” จึงกลายเป็นเครื่องประดับอัญมณีประจำตัวอีกหนึ่งทางเลือกที่ผู้คนหันมาให้ความสนใจเป็นอย่างมากนับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา
มร. ริชาร์ด ชอว์ บราวน์ นักอัญมณีศาสตร์ ผู้ออกแบบและก่อตั้ง “เครื่องประดับคู่บารมี” กล่าวยืนยันถึงกระแสความนิยมของ “เครื่องประดับคู่บารมี” ในขณะนี้ว่า เนื่องจาก เป็นเครื่องประดับที่ถูกออกแบบและสร้างสรรค์ให้มีลักษณะเฉพาะตัวของผู้สวมใส่ โดยอิงหลักโหราศาสตร์โบราณที่เชื่อมโยงกับดาวนพเคราะห์ทั้ง 9 ดวง เพื่อค้นหาดวงดาวที่ส่งเสริมสิริมงคลประจำตัวของแต่ละบุคคลในทุกๆด้านของชีวิต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสุขภาพ การงาน ความรัก และโชคลาภ
“เครื่องประดับคู่บารมี” ทุกชิ้นได้รับการออกแบบให้มีลักษณะล้ำสมัยและเป็นประดิษฐกรรมงานฝีมือที่พิถีพิถันในรูปแบบตัวเรือนทอง เงิน และทองคำขาว อีกทั้ง ยังมีส่วนประกอบของสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์จากอายุรเวทประเทศอินเดียและเนปาล และที่สำคัญที่สุดอัญมณีทุกชิ้นจะต้องสะอาดและสมบูรณ์แบบอย่างน้อย 90% พร้อมหมายเลขกำกับและใบรับประกัน
มร.ริชาร์ด ชอว์ บราวน์ ยังได้แสดงความเห็นเพิ่มเติมว่า “เราสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงได้จากยอดขายของ “เครื่องประดับคู่บารมี” ปีนี้ที่มากกว่าทุกปีที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นว่าคนโชคดีมักไม่ให้ความสนใจต่อเรื่องโชคลาภ แต่เมื่อพวกเขารู้สึกถึงความไม่มั่นคง พวกเขาจะแสวงหาความหวัง ซึ่งเครื่องประดับของเราสามารถตอบโจทย์นี้ และยังเป็นการนำเสนอเครื่องประดับที่ควรค่าแก่การเก็บรักษาและการลงทุนแก่ลูกค้าของเราอีกด้วย โดยที่เครื่องประดับของเรามีมูลค่าเพิ่มในด้านโชคลาภและความหวัง”
สำหรับท่านที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดหรือเยี่ยมชมร้าน “เครื่องประดับคู่บารมี” ได้ที่สยามสมาคม ซอยอโศก (สุขุมวิท 21) โทร. 0-2661-6479-80 หรือชั้น G ซีอาร์ซี ทาวเวอร์ อาคารออลซีซั่นส์ เพลส โทร. 0-2252-1230-1 โดยทุกท่านจะได้รับการตรวจดวงชะตาเพื่อหาเครื่องประดับอัญมณีที่เหมาะสมกับท่านโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่บริษัท อิมเมจ อิมแพค จำกัด
คุณชุตินันท์ คุณะดิลก
โทรศัพท์ 0-2357-1180-3 ต่อ 108
คุณภาวินี ชนะพลชัย ต่อ 112
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit