“อิปซอสส์” ผู้นำด้านการวิจัยการตลาดโฆษณา เปิดกลุ่มธุรกิจใหม่ “ Ipsos ASI” กลยุทธ์วิจัยผ่าวิเคราะห์โฆษณา ดึงเอเจนซี่และผู้นำตลาดเข้าร่วมสัมมนากว่า 100 บริษัท

16 Oct 2008

กรุงเทพฯ--16 ต.ค.--พริสไพออริตี้

ในหัวข้อ “ทำไมสื่อโฆษณาต่างๆจึงล้มเหลว?...เราจะทำอย่างไรถึงจะเพิ่มประสิทธิภาพของการวางแผนสื่อโฆษณา”

บริษัท อิปซอสส์ (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้เชี่ยวชาญธุรกิจด้านการวิจัยทางการตลาด โฆษณา และความจงรักภักดีต่อตราสินค้า เป็นอันดับ 3 ของโลก และมีสาขาครอบคลุมกว่า 55 ประเทศทั่วโลก ได้เปิดตัวกลุ่มธุรกิจใหม่ Ipsos ASI : Advertising, Solutions and Insights พร้อมเปิดการสัมมนาในหัวข้อ “ทำไมสื่อโฆษณาต่างๆ จึงล้มเหลว?...เราจะทำอย่างไรถึงจะเพิ่มประสิทธิภาพของการวางแผนสื่อโฆษณา” โดยมี มิสเตอร์จิม ทอมสันป์ (Mr. Jim Thompson) ประธานเจ้าหน้าที่ผู้บริหาร Ipsos ASI Global Business เข้าร่วมอภิปรายและให้ความรู้โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับการดำเนินการวิจัยที่มีประสิทธิภาพ พร้อมกับทราบถึงแนวโน้ม ทิศทางเศรษฐกิจของโลก ในภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก รวมทั้งในประเทศไทย โดยมีเหล่าผู้นำทางด้านการตลาด และบริษัทเอเจนซี่ชั้นนำของประเทศไทยเข้าร่วมรับฟังการสัมมนาในครั้งนี้กว่า 100 บริษัท ณ ห้องบอลรูม 2 โรงแรมเชอราตัน แกรนด์ สุขุมวิท เมื่อเร็วๆนี้

มิสเตอร์จิม ทอมสันป์ (Mr. Jim Thompson) ประธานเจ้าหน้าที่ผู้บริหาร Ipsos ASI Global Business กล่าวว่า “Ipsos ASI คือ กลุ่มธุรกิจหนึ่งของ Ipsos group ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านการวิจัยโฆษณา โดยมีประสบการณ์ด้านวิจัยโฆษณามามากกว่า 40 ปี ทดสอบโฆษณาทั่วโลกมากกว่า 78,000 โฆษณา ซึ่งเป็นโฆษณาทางโทรทัศน์เป็นส่วนใหญ่ (36,000 โฆษณา) และมีการทดสอบโฆษณาทางนิตยสารมากกว่า 2,000 โฆษณา อีกทั้งยังมีการวิจัยประเมินผลการโฆษณาของสินค้าและบริการหลังจากที่ได้เปิดตัวออกสู่ตลาดแล้วอีกกว่า 50,000 ผลิตภัณฑ์ ซึ่งความหมายของคำว่า IPSOS-ASI นั้นย่อมาจาก (A) Advertising , (S) Solutions , (I) Insights ซึ่ง Ipsos ASI นั้นประกอบไปด้วย นักวิจัยที่เป็นผู้เชี่ยวชาญและทุ่มเทด้านการวิจัยโฆษณาอย่างเต็มที่ โดยเรามีกระบวนการวิจัยหลายรูปแบบและครอบคลุมทุกขั้นตอนที่เกี่ยวข้องกับการโฆษณา โดยเริ่มจากการวิจัยประเมินผลกลยุทธ์โฆษณา (Advertising Strategy) แนวคิดโฆษณา (Advertising Creative Idea) และ การวิจัยประเมินผลชิ้นงานโฆษณา (Copy Pre-testing) รวมถึงการวิจัยประเมินผลการโฆษณาหลังจากที่ออกอากาศหรือตีพิมพ์แล้ว (Ad Tracking) รวมทั้งการวิจัยสถานภาพโดยรวมของตราสินค้า (Brand Health) และคุณค่าของตราสินค้า (Brand Equity) ซึ่งความแตกต่างของ Ipsos ในด้านวิธีการวิจัยที่ได้มาตรฐานคือ 1.วิธีการดำเนินการวิจัยที่มีประสิทธิภาพ (Validated methodologies) 2.วัดผลโดยเทียบกับมาตรฐานในฐานข้อมูล (Databases and norms)3. วิธีการวิจัยเชิงปริมาณที่ดีที่สุด (Best quantitative measures)”

หลังจากนั้น คุณดาว นภาศัพท์ กรรมการบริษัท อิปซอสส์ (ไทยแลนด์) จำกัด ได้กล่าวถึงการเติบโตของบริษัทหลังจากการเปิดบริการในประเทศไทยอย่างเป็นทางการเมื่อปีที่ผ่านมาว่า

“ในช่วงปีที่ผ่านมาบริษัทเติบโตขึ้นหลังจากที่คาดหวังไว้ถึงกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ โดยมีรายได้รวมจากปีที่แล้วถึง 125 ล้านบาท โดยกลุ่มลูกค้าหลักจะเป็นกลุ่มลูกค้าบริษัทข้ามชาติ และบริษัทชั้นนำของไทย ในกลุ่มธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค การเงินการธนาคาร การบริการ เป็นหลัก เมื่อเทียบส่วนแบ่งในตลาดเราในปี 2550 ครองตลาดอยู่ที่ลำดับที่ 6 หลังจากการเปิดดำเนินกิจการในประเทศไทยเป็นปีที่ 3 โดยขนาดของตลาดวิจัยของประเทศไทยในปี 2550 ประมาณ 2,800 ล้านบาท โดยจุดเด่นของบริการในธุรกิจของเรา จะเน้นที่ 3 กลุ่มธุรกิจหลักของเรา คือ

1.Advertising, Ipsos-ASI, Research across the various stages of advertising development & implementation การวิจัยดานโฆษณา ซึ่งครอบคลุมในทุกขั้นตอนของการโฆษณาประชาสัมพันธ์ ตั้งแต่เริ่มต้นในการพัฒนา จนถึงการดำเนินการใช้งาน

2.Marketing – Ipsos Marketing interpreting market trends, testing products and assessing market potentialการวิจัยด้านการตลาด รวมถึงการวิเคราะห์ทำความเข้าใจถึงแนวโน้มของตลาด , การวิจัยเพื่อทดสอบสินค้า และการประเมินความเป็นไปได้ในด้านการตลาด

3.Loyalty research – Ipsos Loyalty , Quality, Customer and Employee Satisfaction, Loyalty and Relationship research การวิจัยความภักดีและความสัมพันธ์ต่อตราสินค้าหรือองค์กร

“โดยทาง อิปซอสส์ จะเน้นในการหาคำตอบที่ก้าวหน้าที่สามารถตอบโจยท์ให้กับลูกค้า ทั้งในนวัตกรรมการเก็บรวบรวมข้อมูล การใช้เทคนิคการดำเนินการวิจัย (ทั้งในเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ) รวมทั้งกลยุทธ์ทางการตลาดที่ช่วยสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจของลูกค้าในอนาคต ซึ่งการเปิดตัวกลุ่มธุรกิจ Ipsos ASI ในประเทศไทยในครั้งนี้นั้น เราได้ทุ่มเทกำลังคนและการค้นคว้าหานวัตกรรมใหม่ทางการวิจัยเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า และเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและมาตรฐานในการวิจัยทุกขั้นตอนเกี่ยวกับการทำโฆษณา โดยคาดหวังรายได้ในปี 2551 ประมาณ 150 ล้านบาท และ มีเป้าหมายที่จะเป็น 1ใน 3 ของผู้นำในตลาดการวิจัยด้านการตลาดของประเทศไทยภายใน 3 ปี ข้างหน้า ทั้งนี้เราได้เล็งเห็นว่าตลาดการทำวิจัยในประเทศไทยยังมีศักยภาพในการเติบโตขึ้นอีกมาก”

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ

บริษัท พริสไพออริตี้ จำกัด โทร.0-2712-7471-3

คุณสุชาดา กีตา (การ์ตูน) 084-695-9133

คุณภวิกา อรชร (อ๋อ) 086-367-4447

สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net