กรุงเทพฯ--21 ต.ค.--CM Organizer
นายวรพล วีรชาติยานุกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท อุดรพลาซ่า จำกัด กล่าวถึง “UD Town” The Lifestyle Destination ว่า “ทางบริษัททำสัญญาเช่าพื้นที่จากการรถไฟเป็นระยะเวลาทั้งสิ้น 34 ปี โดยมีพื้นที่ทั้งหมด 25 ไร่ ซึ่งจะแบ่งการดำเนินงานออกเป็น 2 เฟส ด้วยกัน โดยเฟสแรก ใช้พื้นที่ 14 ไร่ ใช้งบลงทุนทั้งสิ้น 300 ล้านบาท เพื่อสร้างเป็น Outdoor Shopping Mall ภายใต้ชื่อ “UD Town” ในส่วนของ “UD Town” ก่อสร้างภายใต้คอนเซปท์ Lifestyle Destination ซึ่งเป็นการดึง Lifestyle เข้ามาผสมผสานกับความเป็นธรรมชาติ โดยมีการออกแบบและจัดการสถานที่ให้ดูดีทันสมัยและใกล้ชิดธรรมชาติ ซึ่งการออกแบบให้เป็น Outdoor Shopping Mall นั้น ไม่เพียงแค่เป็นการออกแบบเพื่อความสวยงามและอินเทรนด์ไปกับกระแสของศูนย์การค้าในยุคนี้เท่านั้น แต่ “UD Town” ยังมีส่วนสำคัญในการช่วยลดการใช้พลังงาน อาทิ ช่วยลดการใช้กระแสไฟฟ้า ลดการเปิดเครื่องปรับอากาศ ฯลฯ ทั้งและยังเหมาะสมอย่างยิ่งกับกระแสการดูแลสุขภาพที่เป็นการนำเอาธรรมชาติเข้ามาสู่ชีวิตและไลฟ์สไตล์ของลูกค้า และที่สำคัญที่สุด “UD Town” จะเป็นอีกสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งที่ช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้แก่เมือง โดย UD Town ให้ความสำคัญกับพื้นที่ส่วนกลางที่เป็นพื้นที่สีเขียว โดยแบ่งพื้นที่การก่อสร้างเป็น ช้อปปิ้ง มอลล์ 51 % และ 49% เป็นพื้นที่สวน ซึ่งยังเป็นการมอบความสะดวกสบายสำหรับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการอย่างยิ่ง เพราะส่วนตรงกลางเป็นสวนขนาดใหญ่ โดยมีกลุ่มอาคารแยกเป็น 2 ฝั่ง ซึ่งลูกค้าสามารถเข้าถึงร้านค้าต่าง ๆ ได้สะดวก สามารถจอดรถหน้าร้านที่ต้องการใช้บริการได้ทันที และสามารถเดินทะลุไปยังด้านหลังเข้าสู่สวน และ ช้อปปิ้งร้านต่าง ๆ ต่อได้อย่างเพลิดเพลิน”
“ในส่วนของลูกค้าแบรนด์ที่มีชื่อเสียง ที่จะเข้ามาร่วมสร้าง Flagship Store ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Outdoor Shopping Mall เพื่อให้ “UD Town” The Lifestyle Destination พร้อมบริการรองรับทุกไลฟ์สไตล์ ทั้งอาหาร เครื่องดื่ม แฟชั่น เอนเตอร์เทนต์เมนต์ เทคโนโลยี และการบริการอื่น ๆ มากมาย โดยมีพื้นที่รองรับร้านค้าต่าง ๆ กว่า 100 ยูนิต ซึ่งร้านค้าต่าง ๆ ใน “UD Town” The Lifestyle Destination จะสามารถสร้าง Brand Awareness ได้รอบด้านทั้งด้านหน้าและด้านหลัง สามารถ
ดิสเพลย์สินค้าและแบรนด์ต่าง ๆ ได้มากกว่าศูนย์การค้าอื่น ๆ ซึ่งถือเป็นจุดขายสำคัญอีกจุดหนึ่งของ “UD Town” โดยการเลือกแบรนด์ต่าง ๆ เข้ามาในศูนย์การค้านั้น เลือกจากกลุ่มลูกค้ารายใหญ่และแบรนด์ที่มีศักยภาพและเป็นที่รู้จักในวงกว้าง ซึ่งหลังจากที่มีการเจรจากับกลุ่มลูกค้าพันธมิตรไปบ้างแล้ว ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ซึ่งขณะนี้มีแบรนด์ ที่ตอบรับแล้วด้วยการลงนามจองพื้นที่และต่อรองในรายละเอียดประกอบไปด้วย Burgerking , Swensen’s , Dairy Queen , Apple Shop , Banana IT , Levi’s , ICC Group , Time Deco , G2 , Lee Cooper , Wrangler , Dapper , Dtac , True Caf? เป็นต้น และในขณะนี้มี Contour เป็น Strategic Design Partner ทำการวางคอนเซ็ปท์และออกแบบทั้งหมดของโครงการ เพื่อสร้าง Customer Experience กับ Open Mall ให้กับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ “นายวรพล วีรชาติยานุกูล กล่าว
นายเจษฎ์ บุญเรืองรอด ผู้บริหาร Corporate Identity ของ Contour กล่าวถึง การออกแบบมอลล์คอนเซ็ปท์ใหม่ คอนทัวร์เชื่อว่าจะยกระดับเมืองอุดรเพื่อให้สามารถเทียบชั้นเมืองระดับโลก ทางบริษัท Contour มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์มากมายการออกแบบ Lifestyle Mall ในลักษณะมอลล์แบบเปิดที่นำเอาธรรมชาติมาผสมผสาน โดยเชื่อว่าในสมการ “ต้นไม้เท่ากับแอร์คอนดิชั่น” โดยผลงานที่ผ่านมามากมาย ทั้ง มาร์เก็ต เพลซทองหล่อ, เจ อเวนิว , ลาวิลล่า, เมเจอร์
อเวนิว , แจ้งวัฒนะ อเวนิว ฯลฯ ซึ่งแต่ละโครงการที่ผ่านมาได้รับการตอบรับอย่างดีจากลูกค้าแบรนด์ต่าง ๆ รวมถึงการสร้าง Customer Experience แบบใหม่อย่างเช่นเมื่องที่มีคุณภาพระดับโลก โดยโครงการ “UD Town” ได้กำหนดคอนเซ็ปท์ให้เป็น “The Lifestyle Destination”
นายสุทธิศักดิ์ สุทธิสวาท กรรมการบริหาร ของ Contour กล่าวว่าสำหรับ “UD Town” ทีมงาน Contour ใช้เวลานานพอสมควรในขั้นตอน Discovery เพื่อศึกษา Consumer Insight ทั้งคนในพื้นที่ จังหวัดข้างเคียง และชาวต่างประเทศ พบว่า Open Mall ทีมีการจัด Landscape ให้ความรู้สึก ร่มรื่นของธรรมชาติ มีความเหมาะสมและเชื่อว่าสามารถยกระดับคุณภาพของ Lifestyle ในอุดรให้เทียบเทียมเมืองระดับโลก อีกทั้งจุดแข็งของโครงการ คือเมืองอุดรมีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่มีศักยภาพสูงแห่งหนึ่งของประเทศ และตำแหน่งที่ตั้งของโครงการอยู่ใจกลางเมืองและบนถนนที่มีผู้คนจำนวนมากมาจับจ่ายและรับประทานอาหารในเวลาเย็นจนดึก แต่ยังขาด Activities เพื่อให้เกิด Social Network ที่ทำให้ Lifestyle มีสีสัน ทาง Contour ได้วางคอนเซ็ปท์ “UD Town” ให้เป็นสถานที่สำหรับผู้คนที่มีกิจกรรมที่เติมพลังให้ชีวิตในเวลาช่วงหนึ่งของวัน มีความสนุก ผ่อนคลาย ได้พบเห็นผู้คนที่เราต้องการเห็นมีใบหน้าเต็มเปี่ยมไปด้วยรอยยิ่มและความอิ่มใจ การออกแบบ Project Identity ประกอบด้วยสามหลักคือ หนึ่งผังโครงการไม่มีจุดอับของCustomer Flow และอาคารไม่มีด้านหลังทำให้สามารถจัด Display ร้านได้รอบทิศสามารถทำให้ง่ายต่อการออกแบบร้าน Flagship Store สอง
การจัดผังเป็นโซนเพื่อจัดให้เกิด Sense of Place ที่ทำให้ ลูกค้าสามารถเข้ามานั่งสบาย เดินสนุก โดยแบ่งออกเป็น 5 โซน ด้วยกัน โดยโซนแรก เป็นอาหารและเครื่องดื่ม ออกแบบให้มีบรรยากาศความต่อเนื่องของ Indoor และ Outdoor เพื่อเป็นที่แฮงค์เอาท์ โซนที่ 2 อาหารและสินค้าแฟชั่น โซนที่ 3 เน้นสินค้าแฟชั่น และบริการเกี่ยวกับความงาม โซนที่ 4 เป็นซูเปอร์มาร์เก็ต และ เอนเตอร์เทนเมนต์ และสุดท้ายโซนที่ 5 เป็นพื้นที่ของธนาคารและเทคโนโลยี สาม Contour วางคอนเซ็ปท์ Landscape เข้ามาสร้าง Customer Experience ในเรื่อง Green and Sustainable ให้ความสำคัญกับพื้นที่ของสวนอย่างมาก มีการจัดสรรพื้นที่ของต้นไม้ สวน และพื้นที่พักผ่อน เพื่อให้ “UD Town” เป็นแหล่ง
ช้อปปิ้งและพักผ่อนที่ใกล้ชิคธรรมชาติ
นายสรชาติ ใจคิด ผู้บริหาร Brand Strategy ของ Contour กล่าวว่า Contour ออกแบบโดยมีจุดมุ่งหมายต้องการสร้าง Customer Experience ที่ทำให้ผู้เข้ามาใช้บริการรู้สึกว่าเป็น Premium Lifestyle ที่มีคุณภาพ พร้อมทั้งให้ความอบอุ่นและผ่อนคลาย ในขณะเดียวกันลูกค้าจะรู้สึกว่า คุ้มค่าที่เลือกมาใช้เวลาที่ “UD Town” สุดท้ายลูกค้าจะรู้สึกร่วม รู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของ “UD Town” โดย
“UD Town” เจตนาที่จะสร้าง Experience ให้รู้สึกถึงความเป็น World-class แต่ก็ยังไม่สูญเสียความเป็น Local Sense ของเมืองอุดร ซึ่งกลยุทธ์สำคัญในการออกแบบนั้นได้คำนึงลูกค้าผู้ใช้บริการที่เป็นหลัก
นอกจากนี้เพื่อเป็นการตอกย้ำความใส่ใจธรรมชาติ ของ “UD Town” ซึ่งจะเปิดอย่างเป็นทางการ ในเดือนตุลาคม 2552 จึงมีการสร้างกระแสความสนใจของโครงการฯ ได้เตรียมการเปิด UD Bazaar เพื่อเป็นการ Soft Lunch โครงการฯ โดยมีรูปแบบเป็น “กรีน วอล์คกิ้ง สตรีท” (Green Walking Street) ที่สามารถช้อปปิ้งและสัมผัสความเป็นธรรมชาติไปในตัว ในเดือน พฤศจิกายน นี้ “นายวรพล วีรชาติยานุกูล กล่าว
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ CMPR โทร. 02 559 2364 - 69
ติดต่อ คุณพรสม(อ๋อ) 081 833 9309 / คุณพรรณทิมา (นุ้ย) 081 075 0111/ คุณอมรรัตน์ (หล่าน) 081 406 4762
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit