กรุงเทพฯ--3 ต.ค.--โฟร์ฮันเดรท
ตลาดเม็ดอมเดือด “เยเนอรัลแคนดี้” ผู้ผลิต ลูกอมฮาร์ทบีท สื่อรักรูปหัวใจ ปลุกกระแสตลาดลูกอมโค้งสุดท้ายของปี 2551 ทุ่ม 50 ล้านบาท ปรับโฉมลูกอมอาร์ทบีทใหม่ด้วย “ฮาร์ทบีท จัมโบ้” ลูกอมสอดไส้กลิ่นผลไม้ แถมมีแพคเกจจิ้งลวดลายหัวใจน่ารักๆกว่า 20 แบบ ตอบสนองตลาดลูกอมที่อิ่มตัว แต่ผู้บริโภคยังต้องการสินค้าใหม่อยู่เสมอ ย้ำความเป็นผู้นำตลาดลูกอมรสผลไม้ หวังส่งฮาร์ทบีทโตกว่าปีที่ผ่านมา 25 % พร้อมขยายตลาดลูกอมรสกาแฟ ดึง จี. ซี. ดีส ทริบิวชั่น นำเข้าลูกอมกาแฟสอดไส้รสนม ตรา เอสเปรซโซ่ ทุ่มอีก 25 ล้าน ทำตลาดกวาดแชร์ลูกอมกาแฟอีก 20 %
นายนพดล รุ่งวีรกุลอนันต์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท เยเนอรัลแคนดี้ จำกัด ผู้ผลิต ลูกอมฮาร์ทบีท สื่อรักรูปหัวใจ เปิดเผยว่า “ฮาร์ทบีท” เป็นผู้นำด้านความแปลกใหม่ของบรรจุภัณฑ์และรสชาติใหม่ๆของลูกอมเมืองไทย และได้ริเริ่มการให้ผู้บริโภค ได้มีผลิตภัณฑ์ลูกอมสอดไส้ผลไม้ที่เป็นผู้นำตลาดในด้านนี้ โดยมีจุดขายของการเป็นสื่อรักรูปหัวใจ และเพื่อเป็นสื่อกลางส่งผ่านความรู้สึกภายในใจที่มีต่อกัน และได้รับกระแสตอบรับอย่างดีจากกลุ่มผู้บริโภคทั่วประเทศ และเพื่อเป็นการกระตุ้นตลาดลูกอมซึ่งผู้บริโภคยังต้องการสินค้าใหม่ ๆ อยู่เสมอ ฉะนั้นบริษัทฯ จึงได้ปรับโฉมลูกอมฮาร์ทบีทใหม่ ด้วยการออก “ฮาร์ทบีท จัมโบ้” ลูกอมสอดไส้กลิ่นผลไม้
ซึ่ง ฮาร์ทบีท จัมโบ้ จะมีทั้งหมด 3 ขนาด คือ ขนาด 10 เม็ด, 25 เม็ด และ 100 เม็ด มี 4 รสชาติ คือ สตรอเบอรี่ไส้สตรอเบอร์รี่, ลิ้นจี่ไส้ลิ้นจี่, ผลไม้รวมไส้โซดา และแครนเบอรี่ไส้ลิ้นจี่ โดยนอกจากรสชาติสอดไส้ผลไม้ที่อร่อยโดนใจแล้ว ยังมีลูกเล่นเป็นลวดลวยหัวใจน่ารักๆบนกระดาษห่ออีกกว่า20 แบบซึ่งกลุ่มเป้าหมายของจัมโบ้จะโตกว่า ฮาร์ทบีท จุ๊ยซี่ เล็กน้อย โดยจะเน้นกลุ่ม ตั้งแต่ ม. ปลาย - First Jobber
การสื่อสารทางการตลาดของบริษัทยังคงเน้นในด้านของการโฆษณาให้ผู้บริโภครับรู้ตราสินค้า เพราะฮาร์ทบีทนั้นขึ้นชื่อในเรื่องการสร้างสรรค์โฆษณาน่ารักๆ โดนใจวัยรุ่นอยู่แล้ว รวมถึงแจก sampling เพื่อให้ได้ทดลอง และส่วนของเป้าหมายทางการตลาด และอัตราการเติบโตของบริษัทฯ นั้น คาดกว่าจะมีอัตราการเติบโตในส่วนของฮาร์ทบีท จัมโบ้มากกว่าปีที่ผ่านมาถึง 50 % และจะเน้นกิจกรรมการตลาดสำหรับ ฮาร์ทบีท จัมโบ้ ให้มากขึ้น โดยควบคู่กับ ฮาร์ทบีท จุ๊ยซี่ และคาดว่า จะทำให้ยอดขายรวมของลูกอมกลุ่มฮาร์ทบีทมีอัตราการเติบโตประมาณ 25%
นายนพดล กล่าวต่อว่า สำหรับการแข่งขันตลาดลูกอมนั้นเราคงจะเน้นแข่งกับตัวเองมากกว่า เพราะเราเป็นผู้นำลูกอมรสผลไม้อยู่แล้ว โดยเราตั้งงบทำตลาดไว้ที่ 50 ล้านบาท ส่วนงบประมาณปีหน้าคงดูเรื่องยอดขายของปีนี้ก่อน แต่คงไม่น้อยกว่าแน่นอน ส่วนปัจจัยทางการเมือง และภาวะเศรษฐกิจคงจะไม่กระทบมากนัก เพราะตลาดลูกอมถือว่าเป็นตลาดที่ลงถึงรากหญ้ามากที่สุด และราคาต่อหน่วยต่ำสุด คือ 1 บาท ทุกคนสามารถซื้อทานได้ ดังนั้นสภาพเศรษฐกิจไม่มีผลกระทบมากนัก
ทางด้าน นางสาวจิราภรณ์ อังคเศกวิไล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท จี. ซี. ดีสทริบิวชั่น จำกัด ลูกอมรสกาแฟ สอดไส้นม เอสเปรสโซ่ เปิดเผยว่า ลูกอมกาแฟสอดไส้รสนม ตรา เอสเปรซโซ่ นำเข้าจากประเทศอินโดนีเซีย ผู้ผลิตสินค้าลูกอมกาแฟสอดไส้รสนมตรา เอสเปรซโซ่ ซึ่งอยู่ในกลุ่มธุรกิจใหญ่เป็นอันดับต้น ๆ ของอินโดนีเซีย และได้ส่งออกสินค้าเอสเปรซโซ่ไปทั่ว Southeast Asia Asia ยกเว้นแต่ประเทศไทย พม่า เขมร และลาว ทางผู้ผลิตจึงมีนโยบายที่ชัดเจนว่าในปี 2008 ประเทศไทยจะเป็นเป้าหมายที่สำคัญในการทำตลาด โดยให้บริษัท จี.ซี. ดิสทริบิวชั่น จำกัด เป็นศูนย์กลางในการส่งสินค้าเข้าไปขายใน ประเทศพม่า เขมร และลาว
ซึ่งกลุ่มเป้าหมายของลูกอมกาแฟ เอสเปรซโซ่ เป็นกลุ่มอายุ 17-25 ปี เน้นกลุ่มผู้หญิง 60 และชาย 40 %ลูกอมกาแฟเอสเปรซโซ่ มูลค่าตลาดของลูกอมทั้งหมดอยู่ที่ประมาณ 5000 ล้านบาท
ในปี2007ลูกอมกาแฟมีมูลค่าตลาดอยู่ที่700-800ล้านบาท ส่วนแบ่งทางการตลาดที่ทางบริษัทฯคาดหวังไว้นั้นอยู่ที่ 20% ของมูลค่าตลาดลูกอมกาแฟ ตัวเลขก็วิ่งอยู่ที่ 120-150ล้านบาทต่อปี ทางผู้ผลิตตั้งงบประมาณทางการตลาดไว้ในครึ่งปี 2551 มูลค่าไม่ต่ำกว่า 25 ล้านบาท ส่วนปีต่อ ๆ ไปก็วางงบด้านตลาดไม่ต่ำกว่า ปีละ 40 ล้านบาท ส่วนเป้าทางตลาดที่หวังไว้ 1 ปีต้องไม่ต่ำกว่า 25 % ส่วนในด้านของงบประมาณในการทำตลาด ลูกอมกาแฟสอดไส้รสนม เอสเปรซโซ่ อยู่ที่ 6-8 ล้านบาท
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่บริษัทที่ปรึกษาประชาสัมพันธ์
คุณสิทธิกร เสงี่ยมโปร่ง
โทร. 081-913-1291, 086-314-1291 หรือ
02-362-4123-4
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit