กรุงเทพฯ--23 ธ.ค.--สวทช.
บ.โพลีพลาสติกส์ มาร์เก็ตติ้ง (ที) จำกัด เปิดศูนย์ปรึกษาทางเทคนิคแห่งอาเซียน (ASEAN Technical Solution Center) ด้วยจุดเด่นด้านบริการ ช่วยลูกค้าวิเคราะห์ แก้ปัญหาผลิตภัณฑ์ สร้างความสะดวกรวดเร็วในการทำงาน ทำให้ยอดขายเป็นอันดับหนึ่งในเอเชีย ประกาศตั้งศูนย์ปรึกษาทางเทคนิค ที่อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทยด้วยความพร้อมเรื่องจัดการสิ่งแวดล้อม ความปลอดภัยและบุคลากร ย้ำยังช่วยหนุนนักวิจัยไทยเสริมความรู้ด้านพลาสติกวิศวกรรม ณ ประเทศญี่ปุ่น
พลาสติก นับเป็นส่วนประกอบสำคัญในอุตสาหกรรมแทบทุกประเภท ตัวอย่างอุตสาหกรรมที่นำพลาสติกไปใช้ในกระบวนการผลิต เช่น อุตสาหกรรมรถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ไปจนถึงอุปกรณ์ใกล้ตัวในชีวิตประจำวัน บริษัทโพลีพลาสติกส์ มาร์เก็ตติ้ง (ที) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่มีจุดเด่นด้านพลาสติกวิศวกรรม (Engineering Plastics) และการให้คำปรึกษาด้านเทคนิค จึงเปิดตัวห้องปฏิบัติการวิจัยเพื่อทดสอบชิ้นงานจากการฉีดขึ้นรูปด้วยพลาสติก ณ อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย (Thailand Science Park) นายมิโนรุ ฮิโรเสะ
นายมิโนรุ ฮิโรเสะ กรรมการผู้จัดการ บริษัทโพลีพลาสติกส์ มาร์เก็ตติ้ง (ที) จำกัด กล่าวว่า “บริษัทฯ เป็นหนึ่งในผู้ผลิตและจำหน่ายเม็ดพลาสติกวิศวกรรมที่มียอดขายเป็นอันดับหนึ่งในภูมิภาคเอเชีย โดยเม็ดพลาสติกที่จำหน่ายในประเทศไทยนั้นนำเข้ามาจากโรงงานที่ประเทศญี่ปุ่นและมาเลเซีย ซึ่งเป็นเม็ดพลาสติกที่ครอบคลุมงานด้านวิศวกรรม โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องใช้ภายในบ้าน ในด้านการให้คำปรึกษาด้านเทคนิคนั้น เรามีศูนย์ให้คำปรึกษาโดยตรงที่ประเทศญี่ปุ่นอยู่แล้ว และได้เริ่มก่อตั้งศูนย์ให้คำปรึกษา แห่งที่สองที่ประเทศจีนเมื่อไม่นานมานี้ เนื่องจากประเทศจีนเป็นตลาดการค้าที่ใหญ่มาก เป็นที่ตั้งของบริษัทในแถบเอเชีย, ยุโรป, อเมริกา รวมทั้งบริษัทในประเทศจีนเองอีกด้วย
ในช่วงห้าปีที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้หลักส่วนใหญ่จากลูกค้าในประเทศสิงคโปร์ แต่เนื่องจากลูกค้าหลักๆ ของบริษัทฯ เช่น โตโยต้า แคนนอน เป็นต้น มียอดจำหน่ายสูงขึ้น และเล็งเห็นแนวโน้มว่าประเทศไทยน่าจะเป็นประเทศที่มีการเติบโตทางการตลาดได้ดีในปัจจุบัน จึงหันมามุ่งการตลาดเพื่อเพิ่มยอดขายที่ประเทศไทย บริษัท จึงได้ตัดสินใจที่จะจัดตั้งศูนย์ปรึกษาทางเทคนิคขึ้นที่ประเทศไทยอีกหนึ่งแห่ง เพื่อให้คำปรึกษาและความช่วยเหลือกับลูกค้าที่มีข้อสงสัยจากการใช้ผลิตภัณฑ์ของบริษัท และหวังที่จะให้เป็นศูนย์ปรึกษาทางเทคนิคในภูมิภาคอาเซียนด้วย”
ศูนย์ปรึกษาทางเทคนิคแห่งอาเซียน ณ อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย จะให้การสนับสนุนและช่วยเหลือลูกค้าในการตรวจวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์ ซึ่งประสบปัญหาจากการใช้พลาสติกที่บริษัทจำหน่าย อาทิ ตรวจวิเคราะห์องค์ประกอบทางเคมีเบื้องต้น วิเคราะห์สมบัติทางความร้อน วิเคราะห์ปัญหาการแตกหักของผลิตภัณฑ์ ทั้งนี้เพื่อพัฒนาและแก้ปัญหาต่างๆของลูกค้า ทำให้ประหยัดเวลาและความรวดเร็วในการทำงาน อีกทั้งยังสามารถให้คำปรึกษาแก่ลูกค้าได้อย่างเข้าถึงปัญหาและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง นายราชโรจน์ เจริญศักดิ์ ผู้ช่วยผู้จัดการ บริษัทโพลีพลาสติกส์ มาร์เก็ตติ้ง (ที) จำกัด กล่าวว่า “บริษัทฯ จำหน่ายพลาสติกโดยมองความเหมาะสมกับผลิตภัณฑ์ที่ลูกค้าต้องการ เมื่อลูกค้าที่ซื้อพลาสติกจากบริษัทฯ เกิดปัญหาในการฉีดขึ้นรูปพลาสติกหรือระหว่างประกอบชิ้นงาน บริษัทฯ จะเข้าไปช่วยเหลือโดยให้คำปรึกษาและวิเคราะห์หาสาเหตุของปัญหา
อาทิ ในกระบวนการผลิตรถยนต์ เมื่อนำพลาสติกไปฉีดขึ้นรูปเป็นชิ้นส่วนต่างๆ ของยานยนต์และเกิดปัญหา บริษัทฯจะเข้าไปช่วยทดสอบชิ้นงานเหล่านั้นด้วยเครื่องมือทันสมัย เพื่อคลี่คลายปัญหาและหาสาเหตุ อย่างชิ้นงานที่เกิดการแตกหักอาจเกิดจากกระบวนการฉีดขึ้นรูปที่ไม่เหมาะสม หรือเกิดจากการนำพลาสติกมาใช้ไม่ถูกวิธี เนื่องจากพลาสติกที่ใช้ในงานวิศวกรรมจะมีทั้งหมดหลายประเภท ดังนั้นการนำไปใช้ในงานต่างๆ ย่อมแตกต่างกันตามความเหมาะสมของชิ้นงานที่จะนำไปใช้”
ด้านจุดเด่นของการทำงาน นายราชโรจน์ กล่าวว่า “การให้คำปรึกษาของบริษัทฯ เริ่มตั้งแต่การเข้าไปพบปะพูดคุยกับลูกค้าเพื่อรับทราบความต้องการในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ลูกค้าส่วนใหญ่ของบริษัทฯ จะเป็นโรงงานฉีดขึ้นรูปพลาสติกเพื่อนำไปประกอบเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ การทำงานจึงเริ่มจากการออกแบบผลิตภัณฑ์ ออกแบบแม่พิมพ์ กระบวนการขึ้นรูป จนถึงการใช้งานในตลาดผู้บริโภคจริง ซึ่งขั้นตอนเหล่านี้ต้องใช้ความเข้าใจ การเข้าไปมีส่วนร่วมให้คำปรึกษา ดังนั้นทุกกระบวนการผลิตของลูกค้าจึงเป็นสิ่งสำคัญ”
ผู้ช่วยผู้จัดการบริษัทโพลีพลาสติกส์ มาร์เก็ตติ้ง (ที) จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า ความสะดวกของการเข้ามาใช้พื้นที่ในอุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทยนั้น ได้แก่ ด้านความปลอดภัย การจัดการสิ่งแวดล้อม และมองศักยภาพอุทยานวิทยาศาสตร์ฯ ว่าใกล้ชิดกับนักวิจัยในศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (MTEC) ซึ่งทำให้สามารถแลกเปลี่ยนความคิดเห็นได้อย่างสะดวก อีกทั้งภาพลักษณ์ของอุทยานวิทยาศาสตร์ฯ ยังเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี ซึ่งตรงกับแนวความคิดหลักของบริษัททางด้านนวัตกรรม และเรายังมีแผนขยายขีดความสามารถของศูนย์ปรึกษาทางเทคนิคให้ครอบคลุมกับความต้องการของลูกค้ามากขึ้น นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้สนับสนุนนักวิจัยของอุทยานฯ ให้ไปดูงาน ณ ศูนย์ปรึกษาทางเทคนิคในประเทศญี่ปุ่น เพื่อถ่ายทอดความรู้และเทคโนโลยีใหม่ๆ ในวงการอุตสาหกรรมพลาสติกด้วย ดร.เจนกฤษณ์ คณาธารณา
ด้าน ดร.เจนกฤษณ์ คณาธารณา ผู้อำนวยการอุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย กล่าวว่า “อุตสาหกรรมยานยนต์ และอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ เป็นอุตสาหกรรมสำคัญของประเทศ การเปิดศูนย์ให้ปรึกษาทางเทคนิคอาเซียน ของบริษัทโพลีพลาสติกส์ฯ ในอุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย นับเป็นผลดีต่อผู้ประกอบการด้านยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์ของประเทศไทยเป็นอย่างยิ่ง ทำให้สามารถแลกเปลี่ยนความรู้และได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านพลาสติกวิศวกรรมจากบริษัทชั้นนำของโลกอย่างโพลีพลาสติกได้สะดวก และน่าจะทำให้ความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมไทยในส่วนที่เกี่ยวเนื่องกับพลาสติกวิศวกรรมสูงขึ้นได้อย่างมากในอนาคต”
ส่วนเรื่องพื้นที่เช่าเพื่อกิจกรรมวิจัย พัฒนาและวิศวกรรม ในอุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทยนั้น ดร.เจนกฤษณ์ กล่าวว่า “พื้นที่เฟส 1 ภายในอุทยานฯ ขณะนี้ใกล้เต็มแล้ว และขณะนี้เปิดให้เอกชนที่สนใจจองพื้นที่เฟส 2 ได้แล้ว โดยขณะนี้ได้มีเอกชนบางรายติดต่อเข้ามาเพื่อจองพื้นที่แล้ว เฟส 2 ของอุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทยจะเปิดให้บริการได้ภายในปี 2553 โดยคาดว่าจะสามารถรองรับเอกชนได้อีกกว่า 150 ราย”
การเปิดตัวศูนย์ปรึกษาทางเทคนิคของบริษัทฯ ที่อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทยครั้งนี้ จึงเป็นเหมือนก้าวสำคัญในการร่วมกันทำงานเพื่อผลักดันให้การใช้พลาสติกวิศวกรรมสำหรับอุตสาหกรรมในประเทศไทยมีการพัฒนาไปอย่างต่อเนื่อง
งานประชาสัมพันธ์ ศูนย์บริหารจัดการเทคโนโลยี โทร. 0 2564-7000 ต่อ 1476-8 www.tmc.nstda.or.th
สอบถามเพิ่มเติม ติดต่อ : คุณธณาพร (เอ็ม), คุณสุธิดา (ไก๋)
โทร. 0 2270 1350-4 ต่อ 104-105 มือถือ 08 6612 0912, 08 5930 7166 อีเมล: [email protected]
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit