กรุงเทพฯ--16 ธ.ค.--สปาร์ค คอมมิวนิเคชั่นส์
เสนอมาตราวัดประสิทธิภาพระดับสากลสำหรับดาต้า เซ็นเตอร์ เพื่อกำหนดค่าผลตอบแทนจากการลงทุนที่วัดผลได้จริงจากการประหยัดพลังงาน
ผู้เชี่ยวชาญทางด้านดาต้า เซ็นเตอร์มีวิธีคำนวณผลตอบแทนจากการลงทุน (Return on Investment - ROI) ของการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพในโครงสร้างและอุปกรณ์ โดยใช้วิธีมาตรวัด ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรกในอุตสาหกรรมนี้ จากอีเมอร์สัน เน็ตเวิร์ค พาวเวอร์ บริษัทผู้นำระดับโลกสำหรับผลิตภัณฑ์และโซลูชั่น เพื่อช่วยให้การทำงานที่สำคัญของธุรกิจดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง (Business-Critical Continuity)
ระบบการติดตั้งล่าสุดของกลยุทธ์ Energy Logic จากอีเมอร์สันฯ ได้รับการพัฒนาต่อยอดมาจากการเสวนาที่จัดขึ้นเมื่อตอนต้นปีนี้ เกี่ยวกับมาตรวัดสากลสำหรับผลผลิตของดาต้า เซ็นเตอร์ (Data Center Output) เพื่อความแม่นยำยิ่งขึ้นในการประเมินค่าประสิทธิภาพ
เอกสารล่าสุดเกี่ยวกับ Energy Logic: การคำนวณและจัดลำดับความสำคัญข้อปฏิบัติประสิทธิภาพของระบบไอทีเพื่อดาต้า เซ็นเตอร์ อีเมอร์สันฯ ล้ำหน้าไปอีกขั้นด้วยการจัดระบบมาตราวัดประเมินประสิทธิภาพของดาต้า เซ็นเตอร์ เพื่อให้เข้าใจง่ายและเป็นที่ยอมรับเฉกเช่นมาตราวัดประสิทธิภาพรถยนต์
“นี่เป็นครั้งแรกที่เราสามารถแสดงกลยุทธ์ที่ได้รับการพิจารณาและวางแผนอย่างละเอียด ถี่ถ้วนมาอย่างดีสำหรับวัดประสิทธิภาพของดาต้า เซ็นเตอร์ที่คุ้มค่าการลงทุน โดยช่วยประหยัดทางด้านการบริหารอย่างต่อเนื่อง และยิ่งไปกว่านั้นคือ สามารถแสดงผลตอบแทนจากการลงทุน หรือ ROI ที่สามารถวัดค่าได้จริง” คุณพิเชฏฐ เกตุรวม กรรมการผู้จัดการ จากอีเมอร์สัน เน็ตเวิร์ค พาวเวอร์ (ประเทศไทย) กล่าว
“หลากหลายอุตสาหกรรม อาธิเช่น อุตสาหกรรมโทรคมนาคม ได้มีการนำมาตราวัดต่างๆ มาใช้นานแล้ว ยกเว้นเสียแต่แวดวงไอที” คุณพิเชฏฐ กล่าว “แต่มาตราวัดที่ใช้กันอยู่นั้นไม่สามารถบ่งชี้ความก้าวหน้าของแต่ละขั้นตอนเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพได้ ทั้งนี้ Energy Logic เป็นกลยุทธ์แรกที่นำเอาลักษณะการประหยัดพลังงานสะสม (Cascade effect) ของแต่ละขั้นตอน อย่างไรก็ตาม มาถึงบัดนี้ เราก็ยังไม่มีวิธีที่จะใช้ประเมินความคุ้มค่าของแต่ละขั้นตอนให้ออกมาในรูปทางการเงิน (Monetary term) หรืออย่างอื่นได้”
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เอกสาร Energy Logic ฉบับใหม่นี้ ยังแนะนำคอนเซ็ปต์ของ CUPS (Computer Units per Second หรือ จำนวนยูนิตคอมพิวเตอร์ต่อวินาที) เพื่อแสดงถึงการใช้งานของมาตรวัดนี้ ทั้งนี้ CUPS คือ ค่าวัดเชิงสัมพัทธ์ของ Server output โดยถือเอาค่าเฉลี่ยของประสิทธิภาพเซิร์ฟเวอร์เป็นเกณฑ์ ทางอีเมอร์สัน เน็ตเวิร์ค พาวเวอร์ ได้นำข้อมูลจากหลากหลายอุตสาหกรรมมาคำนวณหาผลต่าง (change) ของ CUPS ในระหว่างปี พ.ศ. 2545 และ 2550 โดยใช้ค่ามาตรวัดประสิทธิภาพของเซิร์ฟเวอร์เดียวกันในการคำนวณ ผู้เชี่ยวชาญทางด้านดาต้า เซ็นเตอร์สามารถทดลองเทียบค่า CUPS กับดาต้า เซ็นเตอร์ของตนเองได้ผ่านทางออนไลน์ โดยคลิ๊กเข้าไปที่ www.efficientdatacenters.com .
CUPS ได้เปิดเผยถึงข้อมูลสำคัญที่ระบุว่าในขณะที่ปริมาณการใช้พลังงานในดาต้า เซ็นเตอร์กำลังเพิ่มสูงขึ้นในปัจจุบัน ซึ่งปริมาณที่เพิ่มขึ้นนี้เกิดขึ้นพร้อมๆ กับผลผลิตจากการดำเนินงาน และประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นในดาต้า เซ็นเตอร์ และถ้าผลผลิตของดาต้า เซ็นเตอร์นั้นคงที่ในระหว่างปี 2002-2007 ความสำเร็จจากการพัฒนาประสิทธิภาพจะสามารถช่วยลดปริมาณการใช้พลังงานของดาต้า เซ็นเตอร์ ลงได้ถึงหนึ่งส่วนแปดของปริมาณการใช้พลังงานในปี 2002
การวิเคราะห์ยังสามารถที่จะช่วยให้ผู้ที่มีหน้าที่ดูแลรับผิดชอบ และบริหารงานในดาต้า เซ็นเตอร์สามารถที่จะจัดอันดับความสำคัญในการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะเดียวกันยังมีบันทึกไว้ในเอกสารรายงานว่าการใช้ CUPS เมทริกกับ 10 กลยุทธ์หลักที่ได้บันทึกไว้ในเอกสารต้นฉบับของ Energy Logic นั้นได้เพิ่มประสิทธิภาพของการใช้พลังงานให้กับดาต้า เซ็นเตอร์ได้มากถึง 3.6 เท่า นอกจากนั้น การวัดดังกล่าวยังสามารถบอกได้ถึงสามกลยุทธ์หลักที่มีอิทธิพลเป็นอย่างมาก อาทิเช่น การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีไอทีที่เป็นไปอย่างรวดเร็ว โครงสร้างระบบเสมือนจริง (Virtualisation) และระบบความหนาแน่นสูง (High-density)
“จุดมุ่งหมายของเราเกี่ยวกับ Energy Logic และ CUPS คือการสร้างความสำคัญในหลากหลายวิธีเพื่อช่วยให้ดาต้า เซ็นเตอร์เกิดประสิทธิภาพได้มากที่สุด” คุณพิเชฏฐ กล่าว
เราจะลองยกตัวอย่างเปรียบเทียบกับการไดเอ็ต ซึ่งจุดมุ่งหมายก็คือการลดน้ำหนัก และด้วยการใช้มาตรวัดในรูปแบบแคลอรี่ที่เป็นมาตรฐานหน่วยการวัดสากล เราจึงสามารถที่จะเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงในแต่ละขั้นตอนในการไดเอ็ต อาทิเช่น การออกกำลังกาย การรับประทานที่ถูกสุขลักษณะ การพักผ่อน หรือปริมาณการเผาผลาญของแคลอรี่ ทั้งนี้ผลที่เราจะได้รับก็คือน้ำหนักที่ลดลงไป และโดยการใช้มาตรวัด CUPS ซึ่งเปรียบเสมือนกับแคลอรี่ เราจึงสามารถที่จะคำนวณปริมาณของการใช้พลังงานใน Energy Logic ได้ในแต่ละขั้นตอนว่าจะส่งผลโดยรวมอย่างไรกับประสิทธิภาพของดาต้า เซ็นเตอร์ ในรูปแบบของการเงิน และสิ่งแวดล้อม
“มาตรวัดที่เป็นมาตรฐานสากลจะช่วยทำให้ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับดาต้า เซ็นเตอร์สามารถที่จะพัฒนาเรื่องการใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะเดียวกันก็ยังตอบรับกับศักยภาพการทำงานที่เพิ่มมากขึ้น”
เพื่อเป็นการโปรโมทเกี่ยวกับการพัฒนานวัตกรรมภายหลังจากการสนทนาและโต้วาทีกันภายในกลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้มีข้อตกลงเกี่ยวกับการพัฒนา ไปในอีกขั้น ซึ่ง Energy Logic จะต้องประกอบด้วยสามปัจจัยสำคัญที่หน่วยมาตรวัดจำเป็นต้องมีคือ การสร้างพฤติกรรมที่ถูกต้อง ช่วยลูกค้าตัดสินใจเลือกในสิ่งที่ถูกต้อง และต้องปรับตัวได้ตั้งแต่การเป็นอุปกรณ์อีเลคทรอนิกส์จนกระทั่งถึงระดับดาต้า เซ็นเตอร์
คุณพิเชฏฐ กล่าวว่า “เราจำเป็นต้องเน้นย้ำว่าการลงทุนเพื่อสร้างประสิทธิภาพทางด้านพลังงานของดาต้า เซ็นเตอร์ จะก่อให้เกิดผลลัพท์ทางด้านการประหยัดต้นทุนในภาคปฏิบัติการอย่างไร มิเช่นนั้นแล้ว การลงทุนดังกล่าวอาจจะไม่ประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเศรษฐกิจในยุคปัจจุบัน และการวัดค่าผลตอบแทนที่จะได้รับที่เป็นหน่วยการวัดที่เป็นมาตรฐานสากลนั้นจะช่วยสร้างการลงทุนเพื่อการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพในดาต้า เซ็นเตอร์
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชมได้ที่ www.efficientdacenters.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์ใหม่ที่มีข้อมูลเกี่ยวกับการพัฒนานวัตกรรมการประหยัดพลังงานจากอีเมอร์สัน เน็ตเวิร์ค พาวเวอร์ สำหรับผู้เชี่ยวชาญด้านดาต้า เซ็นเตอร์
เกี่ยวกับ อีเมอร์สัน เน็ตเวิร์ค พาวเวอร์
อีเมอร์สัน เน็ตเวิร์ค พาวเวอร์ คือ หนึ่งในธุรกิจของอีเมอร์สันจากประเทศสหรัฐอเมริกาและเป็นผู้นำโซลูชั่นเพื่อช่วยให้การทำงานที่สำคัญของธุรกิจดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง (Business-Critical Continuity) บริษัทฯ เป็นผู้นำเสนอโซลูชั่นที่นำมาประยุกต์ใช้ได้โดยง่ายและมีเสถียรภาพสูงซึ่งช่วยปกป้องโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยีที่มีความสำคัญทางธุรกิจ (business-critical technology infrastructure) ของลูกค้าด้วยโครงสร้างบริการหลังการขายที่ใหญ่ที่สุดในโลกในตลาดอุตสาหกรรม (global services) อีเมอร์สัน เน็ตเวิร์ค พาวเวอร์ สามารถเป็นผู้นำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการด้านระบบยูพีเอส ระบบปรับอากาศ และระบบเชื่อมโยงให้กับอุตสาหกรรมไอซีที อุตสาหกรรมการแพทย์และอุตสาหกรรมการผลิต ผลิตภัณฑ์หลักๆ ของอีเมอร์สันประกอบด้วย Liebert, ASCO, Astec และ Lorain. Adaptive Architecture อันเป็นสถาปัตยกรรมของ Liebert จะนำไปสู่การพัฒนาแพลตฟอร์มสำหรับการจ่ายพลังงาน การปรับอากาศ และระบบมอนิเตอร์ริ่ง สำหรับอุตสาหกรรมไอที แพลตฟอร์มดังกล่าวไม่เพียงแต่มีเสถียรภาพสูงเท่านั้น แต่ยังมีความยืดหยุ่นสูงเพื่อช่วยลดต้นทุนประกอบการให้ต่ำลงได้มากที่สุด
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโซลูชั่นต่างๆ สำหรับใช้ในองค์กรขนาดใหญ่ที่พร้อมด้วยความสามารถเต็มรูปแบบจากอีเมอร์สัน เน็ตเวิร์ค พาวเวอร์ เยี่ยมชมได้ที่ www.emersonnetworkpower.com.
เกี่ยวกับอีเมอร์สัน
อีเมอร์สัน (สัญลักษณ์ในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก: EMR) ตั้งอยู่ในเมืองเซนต์หลุยส์ เป็นหนึ่งในผู้นำเทคโนโลยี และวิศวกรรมระดับโลกซึ่งจัดหานวัตกรรมโซลูชั่นให้กับลูกค้าผ่านทางกลุ่มเครือข่ายธุรกิจต่างๆ ของ Emerson ได้แก่ network power, process management, industrial automation, climate technologies และเครื่องมือช่าง โดยมียอดจำหน่ายในปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 เป็นจำนวนถึง 24.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ
สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.Emerson.com
ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมด้านข่าวประชาสัมพันธ์หรือรูปภาพ กรุณาติดต่อ
ปริตตา สงเคราะห์ราษฎร์ หรือ กัลยาภัสร์ กูลวงศ์ธนโรจน์
บริษัท สปาร์ค คอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด
โทร. 02 653-2717-9
อีเมล์ [email protected] / [email protected]
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit