บีเอฟเอ็มหวั่นเกิดเหตุเพลิงไหม้ซ้ำรอย เตือนผู้ประกอบการ เจ้าของอาคารสถานที่ ตื่นตัวเร่งป้องกันโดยการใช้วัสดุกันไฟ

07 Jan 2009

กรุงเทพฯ--7 ม.ค.--เจดับบลิวที พับบลิค รีเลชั่นส์

บีเอฟเอ็ม ผู้แทนจำหน่ายแผ่นผนังอะลูมิเนียม คอมโพสิต ไส้กลางกันไฟ ALPOLIC/fr เดินหน้ากระตุ้นผู้ประกอบการ เจ้าของอาคารสถานที่ หันมาใช้วัสดุกันไฟที่ได้มาตรฐาน เพื่อลดอัตราเสี่ยงการเกิดเพลิงไหม้ ก่อนเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย “ซานติก้าผับ” และ”เสือป่าพลาซ่า” ย้ำเจ้าหน้าที่ภาครัฐ สถาปนิก ผู้ตรวจสอบอาคาร และผู้เกี่ยวข้อง ต้องช่วยกันสร้างและกำหนดมาตรฐานความปลอดภัยให้กับผู้อาศัยอาคารทั้งชั่วคราวและถาวรอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อประโยชน์ต่อสาธารณชนมากที่สุด

นายกศิปัญญ์ ศิริธรรม กรรมการผู้จัดการบริษัท บีเอฟเอ็ม จำกัด เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์เพลิงไหม้อาคารในประเทศไทยซึ่งเกิดขึ้นซ้ำซ้อนกันหลายครั้ง ทั้งกรณี “ซานติก้าผับ” และ”เสือป่าพลาซ่า” ที่ได้คร่าชีวิตผู้คนเป็นจำนวนมาก นับว่าสร้างความตื่นตระหนกให้กับนักท่องเที่ยวและประชาชนเป็นอย่างมาก ชี้เหตุเพลิงไหม้สถานที่ทั้งสองแห่ง ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดขึ้น แต่เคยมีบทเรียนจากเหตุการณ์ทำนองเดียวกันนี้แล้วหลายครั้ง ทั้งกรณีเพลิงไหม้โรงแรมรอยัล จอมเทียน พัทยา ที่มีผู้เสียชีวิตนับร้อยราย และเหตุการณ์เพลิงไหม้อาคารไซเบอร์เวิร์ล ย่านรัชดาภิเษก เมื่อต้นปี 2551 ที่ผ่านมา ถึงแม้ไม่มีผู้เสียชีวิต แต่เพลิงได้ทำลายตัวอาคารไปเป็นจำนวนมาก

“นอกจากสาเหตุต้นเพลิงหลายประการที่เกิดขึ้นโดยความประมาทแล้ว สาเหตุสำคัญที่ในช่วงนี้ที่กำลังได้รับความสนใจเป็นอย่างมากคือ มาตรฐานความปลอดภัยในอาคาร หรือกฎหมายควบคุมอาคารเพื่อป้องกันอัคคีภัยที่ยังไม่ชัดเจน หรือถูกต้องสมบูรณ์ตามมาตรฐานสากล ซึ่งดูเหมือนยังต้องการความร่วมมือ และการผลักดันให้เกิดการบูรณการอย่างเป็นรูปธรรมจากหลายฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการผู้เป็นเจ้าของอาคารเอง หรือสถาปนิก วิศวกร ผู้ตรวจสอบอาคาร หรือแม้แต่เจ้าหน้าที่ภาครัฐผู้เกี่ยวข้อง ให้ความสนใจในเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยของการออกแบบและการก่อสร้างอาคาร ความยืดหยุ่นและความแข็งแรงทนทานของอาคาร จำนวนทางเข้า-ออกและป้ายบอกที่ชัดเจน ขนาดประตูหน้าต่าง ระยะราวบันได ระบบเตือนภัย ขนาดพื้นที่ที่จำกัดจำนวนคน รวมทั้งโครงสร้างและวัสดุประกอบอาคารประเภททนไฟ หรือไม่เป็นเชื้อจุดติดไฟง่าย ไม่ก่อให้เกิดควันพิษ ที่เป็นสาเหตุหลักของการเสียชีวิตจากอัคคีภัย และได้ผ่านมาตรฐานการทดสอบความทนไฟที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล โดยสิ่งต่างๆ เหล่านี้ ล้วนแล้วแต่ยังขาดการดูแลเอาใจใส่อยู่มากในประเทศไทย ต่างจากหลายๆ ประเทศที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยมาเป็นอันดับแรก (Safety First) โดยมีกฎหมายหรือพระราชบัญญัติด้านอาคาร ปกป้องสิทธิผู้อยู่อาศัยทั้งถาวรและชั่วคราวอย่างชัดเจน จึงขอวิงวอนให้เจ้าของโครงการต่างๆ หันมาใช้กลยุทธ์ CSR ทางการตลาดที่สร้างสรรค์ สร้างความแตกต่างแข่งขันกันในด้านความปลอดภัยของอาคารมากกว่าเรื่องความสวยงามหรือราคาเพียงด้านเดียว ควบคู่ไปกับแนวคิดอาคารสีเขียว (Green Building) ที่ให้ความสำคัญเรื่องความสวยงาม ปลอดภัย ประหยัดพลังงาน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม” นายกศิปัญญ์ กล่าวเสริม

อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทจะเดินหน้าผลักดันการให้ข้อมูลความรู้ แก่ประชาชน และนิสิตนักศึกษาด้านสถาปัตยกรรมรุ่นใหม่ต่อไป เช่นเคยกับที่ดำเนินการมาโดยตลอด โดยจะเปรียบเทียบระหว่างผลดีและผลเสียของการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์วัสดุในรูปแบบต่างๆ รวบรวมแนวความคิด ความเห็น ปัญหาอุปสรรคต่างๆ ตลอดจนแนวทางการพัฒนาเพื่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชนผู้อยู่อาศัยเป็นสำคัญ พร้อมกันนี้ยังขอเป็นภาคเอกชนส่วนหนึ่งที่เป็นแรงผลักดันด้านความปลอดภัย และยึดมั่นในมาตรฐานของระบบกันไฟที่มีคุณภาพ จากแผ่นอะลูมิเนียม คอมโพสิต ไส้กลางกันไฟ ALPOLIC?/fr เพื่อป้องกันเหตุการณ์เพลิงไหม้ชีวิตและทรัพย์สิน อันนำมาซึ่งการสูญเสียบนความเลวร้ายที่ทุกคนไม่อยากให้เกิด

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ เจดับบลิวที พับบลิค รีเลชั่นส์

ภัทรภร ตันตรงภักดิ์ / วงศ์จันทร์ ตั้งทรงศักดิ์

โทร. 086-668-1415, 0-2204-8550, 0-2204-8221

ฝากข่าวประชาสัมพันธ์?

ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit