กรุงเทพฯ--27 พ.ย.--นิวส์ เพอร์เฟค คอมมิวนิเคชั่น
ในงานประชุมสัมมนาเชิงวิชาการของ VIV Asia 2009 งานแสดงสินค้าด้านปศุสัตว์ที่ใหญ่สุด ในเอเชียแปซิฟิก ครั้งที่ 1 ซึ่งประกอบด้วยตัวแทนจาก 8 สมาคมใหญ่ และคณะผู้จัดงาน ได้เผยถึงทิศทางของวงการปศุสัตว์ไทยในปี 2009 โดยเน้นย้ำให้ผู้ประกอบการ ใช้จังหวะค่าเงินบาทอ่อน ราคาวัตถุดิบลง ราคาน้ำมันลด และคู่แข่งยังไม่แข็งแรงพอ เปิดตลาดสู่ต่างประเทศมากยิ่งขึ้น
นายชยานนท์ กฤตยาเชวง นายกสมาคมสัตวบาลแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ปศุสัตว์ไทยกับการเป็นครัวของโลกได้รับการกล่าวถึงอย่างจริงจังในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ขณะนี้ต่อเนื่องไปจนถึงปีหน้าถือเป็นโอกาสทองของผู้ค้าปศุสัตว์ไทย เนื่องจากราคาน้ำมันที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ราคาวัตถุดิบ และราคาอาหารสัตว์ซึ่งเป็นต้นทุนหลักของอุตสาหกรรมลดลงด้วย ประกอบกับภาครัฐให้ความสนใจในการควบคุมราคาค่าวัตถุดิบอย่างจริงจัง ทำให้ล่าสุดได้มีการลดราคาวัตถุดิบหน้าโรงงานลงอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งค่าเงินบาทที่อ่อนตัวลง ส่งผลต่อภาคส่งออกปศุสัตว์ไทยอย่างเห็นได้ชัด ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นปัจจัยบวกที่ จะทำให้ผู้ประกอบการด้านปศุสัตว์ไทย ได้เปรียบในการแข่งขันในปีหน้า ทั้งนี้ก็ใช่ว่าจะมองแต่ด้านบวก เพียงอย่างเดียว ผู้ประกอบการเองต้องหมั่นเสาะหาตลาดใหม่ๆ เรียนรู้การปรับตัวตามสถานการณ์ของตลาดอย่างรวดเร็ว มุ่งสร้างระบบ และมาตรฐานของฟาร์ม เพื่อรองรับการแข่งขัน ทั้งในและต่างประเทศ
ด้าน ผู้อำนวยการส่วนมาตรฐานฟาร์มสัตว์เลี้ยง สำนักพัฒนาระบบและรับรองมาตรฐานสินค้าปศุสัตว์ กรมปศุสัตว์ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า กรมปศุสัตว์ให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก ในการสร้างมาตรฐานต่างๆ มารองรับสินค้าด้าน ปศุสัตว์ของไทย มีทั้งนโยบายระยะสั้น และระยะยาว โดยได้พยายามผลักดันให้เกษตรกรรายย่อยพัฒนาฟาร์มของตนเอง เข้าสู่ระบบมาตรฐานฟาร์ม ซึ่งได้ประกาศไปก่อนหน้านี้แล้ว เช่น มาตรฐานฟาร์มโคเนื้อ มาตรฐานฟาร์มโคนม มาตรฐานฟาร์มไก่เนื้อ มาตรฐานฟาร์มไก่ไข่ มาตรฐานฟาร์มสุกร เป็นต้น เพื่อเป็นการยกระดับของฟาร์ม และสร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภคว่า จะได้รับการคุ้มครองจากการบริโภคสินค้าด้านปศุสัตว์ รวมทั้งมีโครงการณรงค์ให้ผู้เลี้ยงปศุสัตว์ มีแนวคิดในการดำเนินกิจการเชิงธุรกิจมากยิ่งขึ้น เพื่อรองรับการแข่งขัน จากการเปิดการค้าเสรีในอนาคต รวมทั้งการให้ความรู้ ในการปฏิบัติตาม Animal Welfare ที่ Eu กำหนดบังคับใช้ เพื่อให้สามารถแข่งขันได้ในอนาคต โดยกรม ปศุสัตว์คาดหวังว่า หากมีการพัฒนาระบบ และสร้างมาตรฐานต่างๆ ดังที่กล่าวมา เป้าหมายที่วางไว้ว่า ประเทศไทยจะมีรายได้จากการส่งออกสินค้าด้านปศุสัตว์ถึง 100,000 ล้านบาท ไม่ใช่เป้าหมายที่ไกลเกินไป
ทั้งนี้งาน VIV Asia 2009 หรือ งานแสดงสินค้าด้านปศุสัตว์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียแปซิฟิก มีกำหนด จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 11 – 13 มีนาคม 2009 ณ ศูนย์ ไบเทค ซึ่งจะเป็นงานที่ช่วยกระตุ้นวงการปศุสัตว์ไทยในปีหน้า ให้ได้มีโอกาสเข้าสู่ตลาดโลกอย่างแท้จริง เพราะเป็นเพียงงานเดียวที่รวมผู้ซื้อและผู้ขายทั่วเอเชีย และทั่วโลกมาเจอกัน ถือเป็นงานต้นแบบที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก โดยเฉพาะในครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจาก 8 สมาคมใหญ่ด้านปศุสัตว์ ซึ่งมีบทบาทต่อวงการปศุสัตว์อย่างมาก อันได้แก่ สมาคมสัตวบาลแห่งประเทศไทย สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ สมาคมผู้ค้าเวชภัณฑ์สำหรับสัตว์ สมาคมวิทยาศาสตร์ สัตว์ปีกโลก สาขาประเทศไทย สัตวแพทย์สมาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมชูปถัมภ์ สมาคมผู้ผลิต ผู้ค้า และส่งออกไข่ไก่ สมาคมสัตวแพทย์ควบคุมฟาร์มสัตว์ปีก และกรมปศุสัตว์ ร่วมมือกันส่งทีมนักวิชาการ และผู้เชี่ยวชาญในด้านต่างๆ มาให้ความรู้กับผู้ประกอบการไทย ในทุกๆด้านที่จำเป็นอย่างครบเครื่อง ตลอดทั้ง 3 วัน
สื่อมวลชนสอบถามข้อมูลข่าวเพิ่มเติมที่ คุณนัทกานต์ เลิศวัฒนาชัย โทร. 081-921-1633
E-mail : [email protected] หรือที่ บ. นิวส์ เพอร์เฟค คอมมิวนิเคชั่น จก.
ที่ปรึกษาประชาสัมพันธ์ โทร. 0-2956-5276
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit