ฟิทช์ปรับแนวโน้มอันดับเครดิตของธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) เป็นมีเสถียรภาพ และประกาศคงอันดับเครดิตของธนาคาร ทิสโก้ จำกัด (มหาชน) และบริษัท ไทยพาณิชย์ลีสซิ่ง จำกัด (มหาชน)

29 May 2008

กรุงเทพฯ--29 พ.ค.--ฟิทช์ เรทติ้งส์

บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) ได้ปรับแนวโน้มอันดับเครดิตของธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) (KK) เป็นมีเสถียรภาพ จากเดิมที่แนวโน้มอันดับเครดิตเป็นลบ รวมทั้งได้ประกาศคงอันดับเครดิตทั้งหมดของ KK ในขณะเดียวกัน ฟิทช์ได้ประกาศคงอันดับเครดิตของธนาคาร ทิสโก้ จำกัด (มหาชน) (TISCO) และบริษัท ไทยพาณิชย์ลีสซิ่ง จำกัด (มหาชน) (SCBL) โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

KK: อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวที่ ‘BBB+(tha)’ แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ จากเดิมที่แนวโน้มอันดับเครดิตเป็นลบ อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นที่ ‘F2(tha)’;

TISCO: อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวที่ ‘A(tha)’ แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นที่ ‘F1(tha)’;

SCBL: อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวที่ ‘A(tha)’ แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นที่ ‘F1(tha)’

ถึงแม้ว่าสภาพเศรษฐกิจโดยรวมและปัจจัยแวดล้อมในการดำเนินงานจะอ่อนแอลงในปี 2550 รวมถึงความไม่แน่นอนในสภาพเศรษฐกิจในปี 2551 ผลการดำเนินงานของผู้ประกอบการให้สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์รายใหญ่ดังกล่าวข้างต้นยังคงอยู่ในระดับที่ค่อนข้างคงที่ บริษัททั้ง 3 ดังกล่าวยังสามารถรักษาระดับผลกำไรและคุณภาพของสินทรัพย์ไว้ได้ โดยถึงแม้ระดับเงินกองทุนจะลดลง แต่ยังจัดว่าอยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง ผลการดำเนินงานในไตรมาสแรกของบริษัททั้ง 3 ยังคงแข็งแกร่ง อย่างไรก็ตามผลกระทบทางเศรษฐกิจจากราคาน้ำมันและราคาอาหารที่สูงขึ้นอาจมีผลกระทบต่อคุณภาพของสินทรัพย์ได้

การปรับแนวโน้มอันดับเครดิตของ KK สะท้อนถึงแนวโน้มที่ดีขึ้นของคุณภาพของสินทรัพย์และความสามารถในการรักษาระดับผลกำไรท่ามกลางปัจจัยแวดล้อมในการดำเนินงานที่อ่อนแอลง อย่างไรก็ตาม KK ยังคงมีความเสี่ยงในเรื่องการตั้งหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มเติมที่ค่อนข้างสูงเมื่อเปรียบเทียบกับบริษัทในกลุ่มธุรกิจเดียวกัน เนื่องจาก KK มีสัดส่วนการปล่อยสินเชื่อให้ผู้ประกอบการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ประเภทใช้แล้วที่สูง นอกจากนี้การแข่งขันที่สูงขึ้น และต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้นยังคงเป็นความเสี่ยงหลักของธนาคารในระยะเวลาปานกลาง

อันดับเครดิตของ TISCO สะท้อนถึงความสามารถในการทำกำไร คุณภาพสินทรัพย์ และฐานะเงินกองทุนที่แข็งแกร่งของธนาคาร รวมทั้งการบริหารจัดการที่ดี อันดับเครดิตยังคงสะท้อนถึงแรงกดดัน ความเสียเปรียบทางด้านต้นทุนทางการเงินของ TISCO เมื่อเทียบกับธนาคารขนาดใหญ่ TISCO วางแผนที่จะปรับโครงสร้างการถือหุ้นเป็นรูปแบบบริษัทโฮลดิ้งโดยมีกำหนดให้เสร็จภายในสิ้นปี บริษัทโฮลดิ้งจะถูกจัดตั้งขึ้นและจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ในขณะที่ TISCO จะโอนหุ้นในบริษัทย่อยไปที่บริษัทโฮลดิ้ง และจะเพิกถอนหุ้นของ TISCO จากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ โดย TISCO จะยังคงดำเนินงานในส่วนของธุรกิจธนาคาร ในขณะที่การโอนหุ้นในธุรกิจหลักทรัพย์และธุรกิจการบริการจัดการกองทุน ซึ่งมีสัดส่วนประมาณ 30% ของรายได้คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานของ TISCO ผลการดำเนินงานของธนาคารในอนาคตน่าจะมีการแกว่งตัวน้อยลง รวมถึงระดับเงินกองทุนของธนาคารน่าจะปรับตัวดีขึ้น

SCBL ได้ประกาศแผนในการโอนธุรกิจการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อสำหรับลูกค้าทั่วไป (retail) ในลูกหนี้รายใหม่ให้กับ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) (SCB ซึ่งได้รับการจัดอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวที่ ‘AA(tha)’ แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นที่ ‘F1+(tha)’) โดย SCBL จะประกอบธุรกิจหลักโดยจะทำหน้าที่เป็นผู้ให้บริการเรียกเก็บหนี้สำหรับลูกหนี้สินเชื่อเช่าซื้อที่ค้างชำระหนี้เกิน 60 วันของ SCB และสำหรับลูกหนี้สินเชื่อเช่าซื้อของบริษัทเอง นอกจากนี้ SCBL จะยังคงประกอบธุรกิจให้สินเชื่อเช่าซื้อสำหรับลูกค้าธุรกิจ (wholesale leasing) อันดับเครดิตของ SCBL มีพื้นฐานมาจากการสนับสนุนที่แข็งแกร่งในด้านการดำเนินงาน การเงิน และเงินทุนจาก SCB ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของบริษัท

ติดต่อ

ดรุณี เพียรมานะกิจ, Vincent Milton, กรุงเทพฯ +662 655 4755