กรุงเทพฯ--1 ก.ย.--ไทยยูเนี่ยน โฟรเซ่น โปรดักส์
ทียูเอฟ ประกาศข่าวดี การทบทวนอัตราภาษีการทุ่มตลาดกุ้งขั้นสุดท้ายของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐ โดยปรับลดลงเหลือ 2.85% ตามคาด จากเดิมที่เคยถูกประกาศอัตราภาษีในเบื้องต้น 15.30% สร้างความมั่นใจยอดขายทั้งปีทะลุ 2,000 ล้านเหรียญสหรัฐแน่นอน
นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน โฟรเซ่น โปรดักส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ทียูเอฟ ผู้ผลิตและส่งออกอาหารทะเลแช่แข็งและบรรจุกระป๋องรายใหญ่ของไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐอเมริกาได้ประกาศผลการทบทวนอัตราภาษีตอบโต้การทุ่มตลาดกุ้งในขั้นสุดท้ายแล้วโดยทียูเอฟ ได้รับการพิจารณาปรับลดอัตราภาษีใหม่เหลือ 2.85% จากเดิม 15.30% ที่ถูกกระทรวงพาณิชย์สหรัฐประกาศในเบื้องต้น เมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2551 ที่ผ่านมา ปัจจุบันบริษัทจ่ายอัตราภาษีตอบโต้การทุ่มตลาดกุ้งให้แก่สหรัฐอยู่ที่ 5.95% ซึ่งเป็นอัตราภาษีของประเทศไทย และเป็นอัตราเดียวกันกับที่ผู้ส่งออกกุ้งของไทยถูกเรียกเก็บ แต่สำหรับอัตราภาษีใหม่ที่บริษัทได้รับการทบทวนครั้งนี้ มีอัตราที่ต่ำกว่า 5.95% ดังนั้นจะส่งผลให้บริษัทได้รับเงินภาษีคืนในช่วงระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ 2549 จนถึงเดือนมกราคม 2550 เป็นจำนวนเงินประมาณ 2.6 ล้านเหรียญสหรัฐ และนอกจากนี้อัตราภาษีใหม่ จะถูกใช้เป็นอัตราอ้างอิงใหม่สำหรับช่วงเวลาปัจจุบันทันที และจะมีผลใช้บังคับจนถึงการรีวิวอัตราภาษีใหม่ในขั้นสุดท้ายของรอบหน้า
อย่างไรก็ดี นายธีรพงศ์ กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 6 เดือน ตั้งแต่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐประกาศอัตราเบื้องต้นของภาษีเอดีกุ้งของบริษัทในอัตราที่สูงถึง 15.30% เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา บริษัทมีการติดตามแก้ไขเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน โดยร่วมกับ Akin Gump ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาทางด้านกฎหมาย กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ และสถานทูตไทยในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี เพื่อให้ทางกระทรวงพาณิชย์สหรัฐทบทวนอัตราภาษีใหม่ ซึ่งล่าสุดบริษัทได้รับเอกสารการยืนยันจากทางกระทรวงพาณิชย์สหรัฐถึงอัตราภาษีใหม่ที่ปรับลดลงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ถือเป็นข่าวที่ดีมากสำหรับบริษัท และประเทศไทยโดยอัตราภาษีเอดีกุ้งของประเทศไทยได้ลดลงเช่นเดียวกันจากการประกาศอัตราเบื้องต้นที่ 6.09% ลดลงเหลือ 3.18% ในรอบสุดท้าย สมกับระยะเวลาการรอคอย
และจากผลสำเร็จในครั้งนี้ บริษัทต้องขอขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกหน่วยงานที่ให้ความช่วยเหลือแก่บริษัทอย่างดี และขอบคุณคณะทีมงานของบริษัทเอง ที่ได้ดำเนินงานในเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดตลอดระยะเวลาของการพิจารณา
“สำหรับอัตราภาษีเอดีใหม่นี้จะส่งผลดีต่อการวางเงินประกันการนำเข้ากุ้ง หรือซีบอนด์ที่ลดลงด้วย สำหรับยอดขายผลิตภัณฑ์กุ้งแช่แข็งของบริษัทช่วงครึ่งปีแรกนั้น มีอัตราการเติบโตสูงถึง 31% จากช่วงระยะเวลาเดียวกันของปีก่อน การดำเนินงานของบริษัทจากนี้ไปจะมีความชัดเจนมากขึ้น บริษัทจะดำเนินยุทธศาสตร์สำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์กุ้งให้เข้มข้นขึ้น โดยเน้นการทำตลาดในเชิงรุกมากยิ่งขึ้น ขณะนี้จากแนวโน้มปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ที่ส่งสัญญาณในทางที่ดีขึ้น ทำให้มีความเป็นไปได้อย่างสูงที่ปีนี้บริษัทจะสามารถทำยอดขายได้ถึง 2,000 ล้านเหรียญสหรัฐตามที่ตั้งไว้” นายธีรพงศ์กล่าวอย่างมั่นใจ
ฝ่ายสื่อสารองค์กร
บมจ. ไทยยูเนี่ยน โฟรเซ่น โปรดักส์
โทร. 0-2298-0024 ต่อ 675-678