กรุงเทพฯ--29 ก.ค.--เจดับบลิวที พับบลิค รีเลชั่นส์
ว่ากันว่า “กีฬา” คือ “ยาวิเศษ” เพราะการเล่นกีฬาทุกชนิดล้วนมีจุดมุ่งหมายแตกต่างกันไป อาจจะเพื่อการพักผ่อน การแข่งขัน ความเพลิดเพลิน ความสำเร็จ การพัฒนาของทักษะ แต่เป้าหมายสุดท้ายก็คือ การทำให้ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง หรือจะเรียกได้ว่าเป็นการหลอมรวมกันระหว่างความเป็นตัวตน และสปิริตแห่ง “กีฬา”
และนั่น...จึงเป็นที่มาของงาน One-2-Call! iD Showcase ครั้งที่ 6 กับแนวคิดสุดเจ๋ง “iD – Sport” ต้อนรับมหกรรมกีฬาโอลิมปิก “ปักกิ่งเกมส์ 2008” ที่หยิบเอาไอเดียดีๆ มาผสานรวมกับจิตวิญญาณและเสน่ห์ของกีฬา ถ่ายทอดเป็นเรื่องราวผ่านผลงานของสุดยอดทัพนักกีฬาทีมชาติไทยที่ไปคว้าชัยในการแข่งขันกีฬาระดับโลกอย่างโอลิมปิก หรือแม็ตช์การแข่งขันในระดับนานาชาติ และยังสะท้อนผ่านผลงานการออกแบบของเหล่าวัยทีน ในการระดมจินตนาการความคิด ระเบิดความเป็นตัวตนสร้างสรรค์ผลงานที่แสดงสปิริตแห่ง “กีฬา” ได้อย่างแท้จริง
งานนี้ถือได้ว่า เป็นการรวมพลของบรรดาฮีโร่นักกีฬาชื่อดังของไทยที่ได้เคยไปสร้างชื่อเสียงในการแข่งขันกีฬาระดับโลก และได้กลายเป็น Idol ของคนรุ่นใหม่ๆ ที่มีความมุ่งมั่นในด้านกีฬา นำทีมมาโดย แทมมี่- แทมมารีน ธนสุกาญจน์ นักเทนนิสหญิงมือหนึ่งของไทย เจ้าของตำแหน่งนักเทนนิสไทยคนแรกที่สามารถเข้ารอบเทนนิสวิมเบอดันลึกที่สุด สมรักษ์ คำสิงห์ นักกีฬามวยสากลสมัครเล่น เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิกเหรียญแรกของไทย วิว-เยาวภา บุรพลชัย นักกีฬาเทควันโดหญิง ที่สามารถคว้าเหรียญทองแดงแรกให้กับทัพ เทควันโดของไทย ไก่-ปวีณา ทองสุก สุดยอดนักยกน้ำหนักหญิงทีมชาติไทย เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิกฤดูร้อน 2004 และธีรเทพ วิโนทัย นักฟุตบอลทีมชาติไทย ที่มีโอกาสไปแข่งขันในสโมสรกีฬาฟุตบอลระดับโลก
แทมมี่ – แทมมารีน ธนสุกาญจน์ ตัวแทนทัพนักกีฬาไทย บอกเล่าเรื่องราวความเป็น iD และความมุ่งมั่นทางด้านกีฬาให้ฟังว่า “การจะเป็นนักกีฬาที่ดี ต้องมีความมุ่งมั่น ตั้งใจ ที่สำคัญต้องตั้งเป้าหมายและต้องมีความอดทน ซึ่งทั้ง 4 อย่างนี้ เป็นสิ่งที่แทมมี่ยึดถือและนำมาเป็นแรงบันดาลใจ เป็นกำลังใจให้ฮึดสู้กับอุปสรรคต่างๆ บนเส้นทางกีฬาเทนนิสมืออาชีพ แต่กว่าจะมีวันนี้ก็ต้องฝ่าฝันอุปสรรค หลายต่อหลายครั้งที่แพ้ เกิดความท้อแท้ในชีวิต เพราะเราคิดอยู่เสมอว่า เราสู้เต็มที่แล้ว ทำไมไม่ได้อย่างที่หวังไว้ ซึ่งตอนนี้แทมมี่มองว่า มันเป็นแค่ “ความกลัว” ที่เกิดขึ้นจากตัวเราเอง”
แทมมี่เล่าต่อไปว่า “เราก็มานั่งคิด ว่าทำไมเราต้องยอมแพ้ ก็เลยเปลี่ยนความคิด แปรความท้อแท้ให้กลับเป็นแรงหนุนให้เราลุกขึ้นสู้ เปลี่ยนความคิดให้รู้จักคิดแนวบวก คิดว่าเกมการแข่งขันก็คือความสนุก คือสนามที่ให้เปิดโอกาสเราไปประลองความคิด ประลองความสามารถของตัวเรา สร้างสีสันความสนุกให้กับกีฬาที่เรารัก และสนุกกับบทต่อสู้เพื่อพิสูจน์ตัวเองว่า ทำอย่างไรให้ทุกลูกที่ตี ทุกแต้มคะแนนที่ได้ คนดูรู้สึกสนุกไปกับเราและเราเองก็รู้สึกว่าได้ทำเต็มที่ 100% ความสำเร็จในวันนี้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่จะทำงานหนักต่อไปในอนาคต เราต้องบอกกับตัวเองตลอดเวลาว่า เราหยุดไม่ได้ เราสามารถพัฒนาและเรียนรู้ได้อีกไม่มีที่สิ้นสุด”
และล่าสุด!! ถือเป็นข่าวดีของคนไทยทั้งประเทศอีกครั้ง ที่แทมมี่ได้รับเชิญไปร่วมแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน “ปักกิ่ง 2008” ซึ่งนับเป็นการเข้าร่วมแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ครั้งที่ 4 ในชีวิตการแข่งขันเทนนิสของแทมมี่อีกด้วย และนับเป็นความสำเร็จอีกขั้นหนึ่งของแทมมี่ บนเส้นทางกีฬาเทนนิสกว่า 20 ปี ของเธอ
ส่วนทางด้าน ไก่ ปวีณา ทองสุก อดีตนักกีฬาเหรียญทองโอลิมปิก ยกน้ำหนักของไทย กล่าวถึง แรงบันดาลใจในการเล่นกีฬามาตั้งแต่อายุ 14 ปี เพราะมีความใฝ่ฝันต้องการศึกษาในมหาวิทยาลัย และต่อมาก็ได้ติดทีมชาติไทยเมื่ออายุ 17 ปี และต้องรับผิดชอบมากขึ้นเพราะจากที่เราเล่นแบบไม่คิดอะไรมากก็ต้องเล่นเพื่อที่จะต้องไปแข่งขันกับประเทศอื่นๆ การฝึกซ้อมก็หนักขึ้น เพราะเมื่อเข้าแข่งขันเราเองถือว่าเป็นตัวแทนของประเทศชาติ นับว่าเป็นเกียรติสูงสุด เพราะฉนั้น จะต้องทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด เริ่มจากฝันเล็กๆ แล้วค่อยใหญ่ขึ้น ค่อยๆทำให้ฝันนั้นเป็นจริง จากซีเกมส์ เอเชียนเกมส์ และโอลิมปิกเกมส์ แม้จะใช้เวลานานถึง 11 ปีกว่าจะได้เหรียญทองโอลิมปิก แต่นั้นก็คือความพยายามที่เราได้ทำอย่างเต็มที่ กับกีฬาที่เรารัก คิดเสมอว่าเมื่อเรารักสิ่งที่เราทำ เราก็จะทำสิ่งนั้นได้ดี และขอให้มีฝันและมุ่งมั่นทำให้ดีที่สุด
“ อยากให้น้องๆ ทุกคนมีความฝัน และมีความมุ่มมั่นที่จะทำทุกๆอย่าง และก็พยายามทำฝันนั้นให้เป็นจริง เพราะกว่าที่เราจะประสบคงวามสำเร็จนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะฉะนั้นจงทำให้เต็มที่เต็มความสามารถ เพราะเมื่อวันหนึ่งมาถึง แม้ว่าผลจะเป็นอย่างไร แต่ที่แน่ๆ เราก็ได้รู้ว่าเราได้ทำสิ่งๆนั้นเต็มความสามารถ” ไก่ ฝากข้อคิดถึงเด็ก เยาวชน รุ่นใหม่
นอกเหนือจากจิตวิญญาณ และความคิดที่สะท้อนความเป็นตัวตนของบรรดานักกีฬาทีมชาติแล้ว งาน One-2-Call! iD Showcase – iD Sport ยังเปิดเวทีให้คนรุ่นใหม่ที่มีใจรักในการออกแบบเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายในสไตล์ “สปอร์ต” ได้มีพื้นที่ในการแสดงออกถึงผลงานสร้างสรรค์ของตนเองได้อย่างอิสระ
เริ่มต้นผลงานแรกที่นำมาจัดแสดงแฟชั่นโชว์กับสุดยอดไอเดียการออกแบบของ เฉลิมกิจ โภคามาศ บัณฑิตหมาดๆ จากรั้วสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เจ้าของรางวัลชนะเลิศการประกวดออกแบบในโครงการ Grand Sport Young Designer 2007 กับผลงานชุด “Wrap of the Flag Wrap of the Win: อ้อมกอดแห่งชัยชนะ – คำอวยชัย ความภาคภูมิใจ และภาพแห่งชัยชนะ” ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากภาพแห่งชัยชนะของนักกีฬาไทย ที่มักนำธงชาติมาห่มคลุม เพื่อแสดงความภาคภูมิใจของคนไทย สู่สายตาของประชาคมโลก “แฟชั่นชุดนี้ ถือได้ว่าเป็นความสำเร็จอันสูงสุดในการออกแบบเครื่องแต่งกาย เพราะชุดกีฬา จะมีความแตกต่างจากแฟชั่นเครื่องแต่งกายชุดอื่นๆ ด้วยความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว และในขณะเดียวกันยังต้องคำนึงถึงประโยชน์ใช้สอยอีกด้วย คอลเล็คชั่นนี้ต้องใช้ความพยายาม ต้องหาความชัดเจนในสิ่งที่เราต้องการจะสื่อออกมาให้ได้มากที่สุด ก็เลยเลือกเอาเส้นสายของธงชาติที่พลิ้วไหวมาตัดต่อลงบนตัวเสื้อ เสมือนหนึ่งคำอวยพรด้วยถ้อยคำแห่งชัยชนะ และเป็นการรวบรวมกำลังใจของคนไทยทั้งชาติผ่านธงผืนนั้น ดังนั้น ธงชาติจึงเปรียบเสมือน Key Visual ของเสื้อที่ออกแบบมา” เฉลิมกิจกล่าว
เฉลิมกิจ ยังได้เล่ารายละเอียดเพิ่มเติมให้ฟังอีกว่า “เสื้อผ้าที่ออกแบบนี้ จะแบ่งเป็น 2 รูปแบบ คือ เป็นเสื้อสำหรับใช้ในการแข่งขัน โดยจะมีแถบธงชาติอยู่ตามบริเวณต่างๆ ของเสื้อผ้านักกีฬา โดยแบ่งแยกตามประเภทและชนิดของกีฬา เช่น นักกีฬาวอลเล่ย์บอล จะเห็นความเคลื่อนไหวที่บริเวณด้านข้างและที่แขนเสื้อ การออกแบบก็จะเน้นความชัดเจนของธงชาติปรากฏบริเวณแขนเสื้อนั่นเอง ส่วนเสื้อแจ็คเก็ต จะเป็นเสื้อที่สามารถสวมใส่ได้ทั้ง 2 ด้าน เพื่อหากว่านักกีฬาได้รับชัยชนะ ก็จะสามารถพลิกเสื้ออีกด้านมาสวมแสดงความพลิ้วไหลของธงชาติได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น”
ทางด้าน สรวุฒ โภคัง นักศึกษาหนุ่มไฟแรงจากคณะศิลปกรรมศาสตร์ สาขาวิชาเอกออกแบบแฟชั่น ชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร เจ้าของรางวัลดีเด่นประเภทชุดกีฬาชาย จากการประกวดในโครงการ Grand Sport Young Designer อีกหนึ่งหนุ่มที่มีใจรักในการถ่ายทอดเรื่องราวผ่านการออกแบบเสื้อผ้าได้เล่าถึงแรงบันดาลใจในการออกแบบผลงาน “The King in my mind” ว่า “ผมมองเห็นถึงความท้าทายของโจทย์ในการแข่งขันว่า ทำอย่างไรที่จะทำให้ชุดกีฬาเป็นชุดที่ดูทันสมัยและเหมาะกับการสวมใส่เวลาแข่งขันกีฬา ซึ่งการออกแบบนี้ต้องอาศัยความใส่ใจมากกว่าการออกแบบที่ผ่านๆมา และมีข้อยกเว้นในการออกแบบค่อนข้างมาก แต่ก็ได้พยายามเรียนรู้ ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับกีฬามาเป็นหลักในการออกแบบ”
สำหรับแรงบันดาลใจในการออกแบบผลงานนี้ สรวุฒ เล่าอย่างภาคภูมิใจว่า “ผลงานนี้มาจากความจงรักภักดีของประชาชนชาวไทยที่มีต่อพระมหากษัตริย์ ในวันเฉลิมพระชนมพรรษา ที่ทุกคนต่างพร้อมใจใส่เสื้อเหลืองมาพร้อมกัน ผมเลยหยิบเอาภาพความทรงจำดีๆ เหล่านั้นมาต่อยอดไอเดียการออกแบบ โดยเฉพาะได้นำรูปแบบของเสื้อเหลืองมาพัฒนาใหม่ให้ดูทันสมัยและมีคุณสมบัติถูกต้องตามหลักการออกแบบเสื้อกีฬา โดยเน้นเทคนิคการใช้เส้นกุ๊นสีเหลือง ซึ่งสื่อให้เห็นถึงความเป็นสีแห่งความเชื่อมโยงกันดั่งความสามัคคีของคนไทย”
นอกจากแฟชั่นโชว์ผลงานการออกแบบชุดกีฬาสุดอลังการของน้องๆ วัยทีนที่มาร่วมระเบิดความคิด แต่งแต้มจินตนาการปลุกจิตวิญญาณความเป็นเอกลักษณ์ของ “กีฬา” แล้ว ภายในงานยังมีกิจกรรมไฮไลท์ กับการร่วมกันสร้างธงชาติไทยทำมือผืนใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่า 486 ตร.ม. โดยมีความกว้าง 18 เมตร ความยาว 27 เมตร มีคนเข้าร่วมทำธงเกือบ 1,000 คน เพื่อร่วมกันส่งแรงใจเชียร์นักกีฬาไทยที่ไปเข้าร่วมแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน ครั้งที่ 29 ในระหว่างวันที่ 8-24 สิงหาคมนี้ ให้สามารถคว้าเหรียญรางวัลมาฝากพี่น้องประชาชนไทยอีกด้วย พร้อมกันนี้ทัพนักกีฬาไทยยังนำของเก๋ๆ มาให้ช้อปกันในราคาพิเศษ โดยรายได้ทั้งหมดมอบให้มูลนิธิโอลิมปิกแห่งประเทศไทย เพื่อนำไปใช้ในการสนับสนุนนักกีฬาไทยต่อไปในอนาคต
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของการแสดงความเป็น iD เปิดเผยความความเป็นตัวของตัวเองกับสปิริตด้านกีฬา แต่ยังไม่ iD ไอเดียอีกมากมายที่ทาง One-2-Call! พร้อมเปิดพื้นที่เตรียมระเบิดไอเดียทุกศุกร์สิ้นเดือน เต็มพื้นที่สยามสแควร์ ซอย 3.
ข้อมูลเพิ่มเติม
One – 2 – Call! iD Showcase จัดขึ้นเพื่อต้องการสนับสนุนพลังความคิดสร้างสรรค์ของเหล่าเยาวชนคนรุ่นใหม่ และและสนับสนุนให้ให้เยาวชนได้มีโอกาสเรียนรู้จากประสบการณ์จริง ตลอดจนส่งเสริมให้เหล่านิสิต นักศึกษาได้ทำกิจกรรมร่วมกัน ฝึกฝนการทำงานร่วมกันเป็นทีม ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และยังเป็นการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์อีกด้วย โดยมีแนวคิดให้เยาวชน นิสิต นักศึกษาได้แสดงความคิดสร้างสรรค์ผ่านผลงานรูปแบบต่างๆ ที่สะท้อนความเป็นตัวตนที่แท้จริงของตนเองออกมาอย่างไม่มีขีดจำกัด ด้วยการจัดหาสถานที่ที่เป็นเวทีอิสระสำหรับให้เยาวชน นิสิต นักศึกษา คนรุ่นใหม่ สามารถมานำเสนอผลงานการออกแบบต่างๆ ที่น่าสนใจให้เป็นที่รู้จักกับคนทั่วไปอย่างกว้างขวาง โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ
โดยได้ปิดถนนเต็มพื้นที่บริเวณสยามสแควร์ ซอย 3 เพื่อเปิดเป็นลานกิจกรรม One – 2 – Call! iD Showcase ทุกวันศุกร์สิ้นเดือนตลอดทั้งปี 2551 ภายใต้แนวคิด ช้อป.. ชม.. โชว์ อิสระของงานดี ๆ มีไอเดีย ซึ่งจะมี Theme ที่แตกต่างกันไปในแต่ละเดือน เพื่อเพิ่มความหลากหลายของแนวความคิดในมุมมองที่เป็นเอกลักษณ์ใหม่ๆ คนที่มาในงานสามารถที่จะช้อป ชม และโชว์อิสระงานดีๆ มีไอเดียที่จะหาได้ที่นี่เท่านั้น ผ่านกิจกรรมหลัก คือ ช้อป ( iD Fair) เป็นการที่เปิดพื้นที่ลานกิจกรรมขนาดใหญ่ ให้บรรดาเยาวชนคนรุ่นใหม่ตลอดจนเหล่าดารา คนดัง สามารถมาเปิดร้านค้าระเบิดความคิดสร้างสรรค์ของตนถ่ายทอดออกมาเป็นของดีมีดีไซน์ ที่บรรจงทำขึ้นมาสำหรับงานนี้โดยเฉพาะ พร้อมสามารถจำหน่ายสินค้าในราคาที่หาซื้อได้ที่นี่ที่เดียวเท่านั้น กว่า 60 ร้านค้า อาทิ เครื่องประดับ กระเป๋าหนัง ชม ( iD Showcase ) การนำเสนอผลงานที่เป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์งานของเหล่านิสิต นักศึกษา เช่น ผลงานการทำวิทยานิพนธ์ หรือผลงานของเหล่าคนดัง และโชว์ การแสดงของนิสิต นักศึกษา เหล่าดาราและนักแสดงบนเวที
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม :
เจดับบลิวที พับบลิค รีเลชั่นส์, เจดับบลิวที ประเทศไทย
คุณวงจันทร์ ตั้งทรงศักดิ์ (จันทร์) โทร.02-204-8221 มือถือ 089-127-2089
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit