บทความเปิดใจเยาวชนไทย 2 ทอง 3 เงิน 1 ทองแดง “คณิตศาสตร์โอลิมปิก”

28 Jul 2008

กรุงเทพฯ--28 ก.ค.--สสวท.

ผู้แทนประเทศไทยฯ อายุน้อยที่สุดเผยเคล็ดลับการเล่นเกมโดยไม่เสียการเรียนส่วนประชาสัมพันธ์ สสวท. ผลการแข่งขันคณิตศาสตร์โอลิมปิกระหว่างประเทศ ระหว่างวันที่ 10-22 กรกฎาคม 2551 ณ กรุงมาดริด ประเทศสเปน มีประเทศที่เข้าร่วมแข่งขันทั้งหมด 103 ประเทศ จำนวนผู้เข้าแข่งขัน 535 คน ผลปรากฏว่า ผู้ แทนประเทศไทยสามารถทำได้ 2 เหรียญทอง 3 เหรียญเงิน 1 เหรียญทองแดง โดยคะแนนรวมของคณะผู้แทนประเทศไทยเท่ากับ 175 คะแนน เป็นอันดับที่ 6 จากประเทศที่เข้าร่วมการแข่งขันทั้งหมด 97 ประเทศ ซึ่งเป็นอันดับที่ดีที่สุดตั้งแต่ประเทศไทยเข้าร่วมการแข่งขันคณิตศาสตร์ โอลิมปิกเป็นต้นมา ซึ่งผู้แทนประเทศไทยแต่ละคนได้รางวัลดังนี้

เหรียญทอง

เด็กชายพศิน มนูรังษี โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย

นายวรัตถ์ สุขสมปอง โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา

เหรียญเงิน

นายศุภณัฐ คำตื้อ โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา

นายสุธี เรืองวิเศษ โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา

นายปยุต พันธวงศ์เดชา โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา

เหรียญทองแดง

นายพชรพล สุเทพารักษ์ โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ผู้แทนประเทศไทยดังกล่าว เปิดใจกับเราหลังกลับจากการแข่งขันคณิตศาสตร์โอลิมปิกดังนี้

เด็กชายพศิน มนูรังษี (กันต์) อายุ 14 ปี ชั้น ม. 4 โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย เหรียญทอง ซึ่งเป็นผู้แทนประเทศไทยที่อายุน้อยที่สุดในรุ่น เผยว่าอยากให้โครงการโอลิมปิกวิชาการมีการขยายวงกว้างขวางขึ้นครับ สำหรับเหรียญทองเหรียญนี้ผมอยากมอบให้ทุกท่านที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะคุณพ่อ คุณแม่ รวมทั้งโรงเรียน และอาจารย์ทุก ๆ ท่านครับ

เทคนิคการเรียนดีของผมก็คืออย่าปล่อยให้เครียด ถ้าเครียดจะเล่นกับเพื่อนๆ และพักผ่อน อย่าไปฝืนตัวเองเกินไป ทำให้เต็มที่ แต่ว่าเมื่อไหร่ที่เครียดก็ทำอย่างอื่นแทน เช่นดูทีวี อ่านหนังสือ ครับ ผมเองก็มีเล่นเกมคอมพิวเตอร์บ้างครับ แต่เล่นโดยแบ่งเวลาให้เหมาะสมด้วยการตั้งเวลาเอาไว้เลยว่าจะเล่นกี่โมง ถึงกี่โมง แล้วกำหนดช่วงเวลาเล่นอย่างชัดเจน ซึ่งทำให้เรามีระเบียบวินัยมากขึ้น วิธีควบคุมตัวเอง ปกติผมจะเล่นคอมพิวเตอร์ประมาณ 2 ชั่วโมง – 2 ชั่วโมงครึ่ง แล้วแต่เวลาที่มีในแต่ละวัน ทั้งเพื่อพักผ่อนและหาความรู้โดยเข้าไปดูโจทย์ที่น่าสนใจจากเว็บต่าง ๆ ตั้งเวลาเล่นล่วงหน้า ข้อสำคัญต้องตั้งใจเอาไว้ตั้งแต่แรก เพราะจะทำให้เราสามารถควบคุมเวลาได้ดีที่สุดครับ

อนาคตน้องกันต์ตั้งใจรับทุนโอลิมปิกวิชาการไปศึกษาต่อต่างประเทศตั้งแต่ระดับปริญญาตรีจนถึงปริญญาเอก ด้านคณิตศาสตร์และเมื่อสำเร็จการศึกษาแล้วจะกลับมาทำงานเพื่อบ้านเกิดเมืองนอนต่อไป และทิ้งท้ายว่าอยากให้รัฐบาลสนับสนุนเงินทุนและบคุลากรทางวิทยาศาสตร์เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะอยากให้ขยายโครงการโอลิมปิกวิชาการ รับนักเรียนที่เข้าค่ายโอลิมปิกวิชาการให้มากยิ่งขึ้น เพื่อเพิ่มฐานและโอกาสในการศึกษา

นายวรัตถ์ สุขสมปอง (จุ่ง) อายุ 17 ปี ชั้น ม. 6 โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา เหรียญทอง เล่าว่าปีนี้เป็น ผู้แทนประเทศไทยไปแข่งขันคณิตศาสตร์โอลิมปิกเป็นปีที่สองทำให้ความตื่นเต้นลดลงไปมาก แต่เนื่องจากปีนี้ มีประเทศเข้าร่วมเพิ่มขึ้นเป็น 97 ประเทศ ความตื่นเต้นจึงยังคงหลงเหลืออยู่บ้าง การสอบเห็นเด็กต่างชาติมากมายครับ และได้ทำความรู้จักกับเพื่อนหลายๆชาติเช่น จีน อิหร่าน สหรัฐอเมริกา ผมคิดว่าหลายๆ ทีมต่างนิสัยดี ไม่หยิ่ง ได้ถ่ายรูป เล่นสนุกด้วยกัน มีผู้แทนที่เป็นผู้หญิงไปร่วมแข่งขันเหมือนกันครับแต่ไม่มากส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย

เคล็ดลับเรียนเก่งของน้องจุ่งนั้นมีนิดเดียว คือ หมั่นทบทวนเนื้อหาบทเรียน และขยันทำการบ้านน้องจุ่งนั้นได้รับทุนเล่าเรียนหลวง ประจำปี 2551 ไปศึกษาต่อที่สหรัฐอเมริกา โดยคาดว่าจะศึกษาต่อทางด้านวิทยาศาสตร์ เจ้าตัวนั้นบอกว่าอยากให้เยาวชนไทยหันมาสนใจคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์มากขึ้น และสมัครเข้าร่วมโครงการโอลิมปิกวิชาการกันเยอะ ๆ

นายศุภณัฐ คำตื้อ (กาฟิว) วัย 16 ปี ชั้น ม. 5 โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา เหรียญเงิน เผยว่า บรรยากาศการแข่งขันมีหลายคนเครียดเหมือนกัน แต่สำหรับผมเครียดน้อยเพราะคิดว่าตั้งใจทำเต็มที่เพื่อประเทศชาติ พวกเราสวดมนต์นั่งสมาธิก่อนสอบซึ่งช่วยลดความเครียดได้ดีครับ ได้รู้จักเพื่อนทีมจีนกับอิหร่านเพราะอยู่หอพักเดียวกัน ได้ประสบการณ์ที่ดีคือได้รู้จักเพื่อนๆ และโจทย์ใหม่ๆ เพิ่มมากขึ้น

“อนาคตผมคาดว่าจะรับทุนโอลิมปิกวิชาการไปศึกษาต่อด้านคณิตศาสตร์ตามที่ได้ตั้งใจไว้แต่แรก โดยมีเป้าหมายว่าอยากเป็นคนดี ได้ทำประโยชน์เพื่อสังคม อยากเป็นคุณครู จะได้ถ่ายทอดความรู้ที่ได้เรียนมาสู่นักเรียนเพื่อทำประโยชน์แก่สังคมต่อๆไป ผมอยากให้ความตั้งใจ และความพยายามของพวกเรา ได้เป็นตัวอย่างและแรงบันดาลใจให้ทุกคนพยายามเพื่อประสบความสะเร็จตามที่ตั้งเอาไว้”

นายสุธี เรืองวิเศษ (ทีม) อายุ 16 ปี ชั้น ม. 5 โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา เหรียญเงิน เคยเป็น ผู้แทนประเทศไทยไปแข่งขันคณิตศาสตร์โอลิมปิกที่ประเทศเวียดนามเมื่อปีที่แล้วซึ่งได้รับเหรียญเงิน และปีนี้ก็ได้รับเหรียญเงินเช่นกัน น้องสุธีมองตัวของตัวเองว่า 1 ปีที่ผ่านมาตัวเองได้พัฒนาไปมากพอควร ไปแข่งขันได้รับประสบการณ์ก็รู้สึกตื่นเต้นน้อยลง ข้อสอบปีนี้ถือว่าง่ายกว่าปีก่อนครับ อนาคตคิดว่าจะเรียนด้านคณิตศาสตร์เพราะเป็นด้านที่สนใจและชอบ โดยจะรับทุนโอลิมปิกวิชาการไปศึกษาต่อต่างประเทศ เพื่อกลับมาเป็นอาจารย์ครับ

“สำหรับเยาวชนที่มีความสนใจในสาขาต่าง ๆ ของโอลิมปิกวิชาการ ก็เชิญชวนให้เข้าร่วมโครงการนี้ครับ เพราะจะได้พัฒนาศักยภาพของตนได้อย่างเต็มที่ และยังมีโอกาสจะได้เป็นตัวแทนไปสร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทยอีกด้วย”

นายปยุต พันธวงศ์เดชา (ภู) วัย 16 ปี ชั้น ม.5 โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา เหรียญเงิน เปิดเผยความรู้สึกหลังทราบว่าทีมไทยได้คะแนนรวมเป็นอันดับที่ 6 ของโลกว่าภูมิใจมากเพราะก่อนหน้านี้ประเทศไทยยังไม่เคย ได้อันดับดีกว่านี้มาก่อน มีสอบ 2 วัน ซึ่งทั้ง 2 วันทำได้ 2 ข้อจาก 3 ข้อครับ วันประกาศผลไม่ค่อยลุ้นนักครับ เพราะพอทราบเกณฑ์คะแนนว่าน่าจะได้เหรียญประมาณนี้อยู่แล้ว ซึ่งก็ภูมิใจครับ

อนาคตน้องภูจะรับทุนโอลิมปิกวิชาการไปเรียนต่อในสาขาคณิตศาสตร์ เพราะรู้สึกว่าประเทศไทย กำลังขาดแคลนบุคลากรด้านนี้ โดยอยากให้รัฐบาลให้ความสนใจ สนับสนุนทั้งเรื่องงบประมาณ บุคลากร ฯลฯ เพื่อพัฒนาให้ประเทศไทยเจริญเทียบเท่ากับประเทศอื่น ๆ ได้ ซึ่งตนเองนั้นหวังเพียงว่าให้ตัวเองนั้น ได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข เป็นคนดีของสังคม และที่สำคัญคือได้ทำประโยชน์ให้ประเทศชาติต่อไปในอนาคต

นายพชรพล สุเทพารักษ์ (หนึ่ง) อายุ 16 ปี ชั้น ม. 6 โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา เหรียญทองแดงเผยว่าได้รู้จักเพื่อนหลายชาติครับ เช่นจีน อิหร่าน หรือกัมพูชาก็มาทักทายเราบ่อยๆ ได้พูดคุยกัน จีนเป็นชาติที่ได้เหรียญทองทุกปีและก็ไม่หยิ่งครับ มาพูดคุยกับเราเสมอ คิดว่าโครงการโอลิมปิกวิชาการช่วยฝึกฝนศักยภาพด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์อย่างเต็มที่ ทำให้เราได้รับประสบการณ์ ได้รู้จักเพื่อนต่างชาติที่มีความสนใจด้านเดียวกันจากทั่วโลก ช่วยให้เราได้ทำในสิ่งที่รักและสนใจ เข้าโครงการนี้ทำให้มีความสุขมากครับเพราะได้อยู่กับสิ่งที่เรารักและสนใจ มีความสุขที่ได้อยู่กับเพื่อนๆที่คุยเรื่องที่สนใจเหมือนๆ กันได้

น้องหนึ่งสนใจเรียนคณิตศาสตร์มาตั้งแต่เด็ก จึงได้ฝึกฝนพัฒนาทักษะคณิตศาสตร์มาโดยตลอด ส่วนเคล็ดลับการเรียนั้นคือตั้งใจเรียนในห้องเรียนให้มาก เพื่อที่เวลาเรามาอ่านทบทวนจะได้ไม่หนักเกินไป และสิ่งที่สำคัญคือ ควรรู้จักการแบ่งเวลาให้เหมาะสม ไม่ควรคเครียดกับสิ่งต่าง ๆ มาก และพักผ่อนให้เพียงพอ

“เด็กที่ชอบคณิตศาสตร์ไม่ใช่เด็กเรียนอย่างเดียวครับ เรามีเล่นกีฬา เข้าค่าย กิจกรรมต่างๆ ผมเองชอบเล่นปิงปอง ก็ได้เล่นกับเพื่อนในค่ายด้วย ความสวยงามของคณิตศาสตร์คือเป็นวิชาที่อาศัยหลักการและเหตุผล เป็นการคิดแบบ Natural Thinking ซึ่งนำไปใช้พัฒนาประเทศได้หลายด้านทำให้คิด วิเคราะห์ แก้ไขปัญหาต่างๆ ได้ อนาคตอยากทำงานวิจัยด้านคณิตศาสตร์และเผยแพร่ไปทั่วโลก

ส่วนนักคณิตศาสตร์ในดวงใจผมแอบปลื้มพอล แอร์ดิช เพราะสร้างผลงานเป็นที่รู้จักมากมาย จึงอยากสร้างผลงานได้แบบท่านครับ อนาคตผมจะรับทุนโอลิมปิกวิชาการไปศึกษาต่อด้านคณิตศาสตร์ที่ต่างประเทศครับ เพราะตั้งใจจะเรียนด้านนี้มานานแล้ว”

สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net