กรุงเทพฯ--19 ก.พ.--กทม.
คณะกรรมการวิสามัญพิจารณาการจัดหาที่ดินเพื่อก่อสร้างอาคารสำนักงานเขต สภากรุงเทพมหานคร ประชุมรับทราบปัญหาการก่อสร้างอาคารใหม่สำนักงานเขตคลองสาน โดยมีนายชำนาญ มาศแก้ว ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขตคลองสาน รวมทั้งเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องร่วมชี้แจง ณ สำนักงานเขตคลองสาน
เขตฯ ได้รับงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2550 เพื่อก่อสร้างอาคารใหม่อเนกประสงค์ 4 ชั้น บริเวณหลังอาคารสำนักงานเขตปัจจุบัน เนื่องจากพื้นที่ใช้สอยไม่เพียงพอและไม่สามารถขยายพื้นที่ได้ โดยเขตฯ ได้ทำสัญญาจ้างเหมาห้างหุ้นส่วนจำกัด เสนีย์สรรพกิจ เริ่มสัญญาวันที่ 27 ก.ค. 50 และสิ้นสุดวันที่ 21 ก.ค. 51 กำหนดแล้วเสร็จภายใน 360 วัน วงเงิน 16, 460,000 ล้านบาท โดยผู้รับจ้างได้ดำเนินการขุดรื้อพื้นเดิมเพื่อเตรียมงานก่อสร้างเสาเข็มเจาะ ปรากฏว่าพบท่อนซุงขนาดใหญ่ และวัตถุโบราณใต้พื้นดินบริเวณดังกล่าว จึงให้ระงับการก่อสร้างชั่วคราว และรายงานผู้บริหารทราบ ทั้งนี้กรุงเทพมหานครได้มีหนังสือแจ้งกรมศิลปากร เพื่อรายงานการขุดพบโบราณวัตถุดังกล่าว และกรมศิลปากรได้แจ้งผลการตรวจสอบ พร้อมมีความเห็นว่าอาคารหลังนี้ไม่เข้าเกณฑ์โบราณสถาน แต่เนื่องจากพื้นที่ของสำนักงานเขตตั้งอยู่ติดกับโบราณสถานป้อมป้องปัจจามิตรซึ่งกรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน จึงเห็นควรให้มีการขุดค้นวัตถุโบราณในพื้นที่ดังกล่าวต่อไป เพื่อตรวจสอบและเก็บหลักฐานเพิ่มเติม โดยมอบหมายให้คณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร เป็นผู้เสนอโครงการศึกษาวิจัยทางโบราณคดี เนื่องจากมีความพร้อมในด้านอุปกรณ์และบุคลากร ซึ่งเขตฯ พิจารณาแล้วว่า เพื่อให้การก่อสร้างอาคารอเนกประสงค์ 4 ชั้น เป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงเห็นควรขออนุมัติจัดสรรงบประมาณ 6 แสนบาท เพื่อดำเนินการตามโครงการวิจัยฯ
นายสุทธิชัย วีรกุลสุนทร สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร เขตจอมทอง ในฐานะประธานคณะกรรมการฯ กล่าวว่า ตามนโยบายสำนักงานเขตที่จะขยายเนื้อที่เพื่อก่อสร้างอาคาร เพื่อแก้ไขปัญหาความคับแคบและแออัดในพื้นที่ ซึ่งขณะนี้ประสบปัญหาการก่อสร้างหยุดชะงัก เนื่องจากพบโบราณวัตถุในพื้นที่ดังกล่าว ทำให้ต้องระงับการก่อสร้างชั่วคราว อีกทั้งต้องรอการตรวจสอบของทางกรมศิลปากร ทำให้การดำเนินการล่าช้า และอาจส่งผลต่อสัญญากับผู้รับจ้างในโครงการก่อสร้างอาคารอเนกประสงค์ 4 ชั้น ได้ ทั้งนี้ที่ประชุมตั้งข้อสังเกตว่า ท่อนไม้ที่ขุดพบนั้น กรุงเทพมหานครและกรมศิลปากรควรเร่งสรุปให้ชัดเจนว่าอยู่เป็นโบราณวัตถุประเภทใด และมีอีกหรือไม่ เพื่อที่จะได้ดำเนินการก่อสร้างอาคารดังกล่าวโดยเร็ว ซึ่งทราบว่าหากดำเนินการวิจัยจะต้องใช้เวลา 120 วันเพื่อสรุป อย่างไรก็ตามขณะนี้ทางสำนักงานเขตยังไม่ได้รับงบประมาณเพื่อให้กรมศิลปากรมาดำเนินการแต่อย่างใด
ด้าน นายวิรัตน์ มีนชัยนันท์ สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร เขตมีนบุรี ตั้งข้อสังเกตว่า การก่อสร้างอาคารอเนกประสงค์หลังใหม่ ควรคำนึงถึงสถานที่จอดรถและที่พักอาศัยข้าราชการด้วย นอกจากนี้ที่ประชุมตั้งข้อสังเกตว่า พื้นที่ของสำนักการศึกษาในปัจจุบัน ซึ่งอยู่ใกล้กับสำนักงานเขตคลองสาน มีทำเลที่เหมาะสมและสวยงาม เพราะติดกับแม่น้ำ หากอนาคตมีการย้ายไปที่สำนักระบายน้ำ กทม.2 (เขตดินแดง) ควรให้บริษัทเอกชนเข้ามาดำเนินการในเชิงพาณิชย์ ซึ่งเขตฯ จะสามารถขยายอาคารออกไปในพื้นที่ดังกล่าวได้อีกด้วย
ทั้งนี้ในที่ประชุมคณะกรรมการฯได้มอบหมายให้สำนักงานเขตสรุปปัญหาและอุปสรรคต่างๆ มาเสนอเพื่อพิจารณาในที่ประชุมครั้งต่อไป
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit