กรุงเทพฯ--29 ก.พ.--พรีเดีย คอมมิวนิเคชั่น
บริษัท โจตันไทย จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายสีพรีเมี่ยมภายใต้แบรนด์ โจตัน เปิดศักราชรุกตลาดสีปีหนู ชูนวัตกรรมสีเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ล่าสุดเปิดตัวสีทาภายในกลุ่มใหม่ “มาเจสติก” (Majestic) สีที่ปราศจากสารระเหยที่เป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิต (Low VOC) และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทางเลือกใหม่สำหรับชีวิตที่ดีกว่าของผู้บริโภค ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์และความต้องการใช้สีทาบ้านสร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัว กับสามเฉดสีสามสไตล์ ได้แก่ มาเจสติก ออพติม่า, มาเจสติก เพิร์ล ซิลค์ และ มาเจสติก แมท พร้อมจุดขายสินค้า “ขจัดทุกรอยคราบ คงสีสวยใหม่ ไม่เปลี่ยนแปลง” และ “คุ้มค่าคุ้มราคา” โดยเน้นการทำการตลาดแบบผู้ผลิตกับร้านค้าตัวแทนจำหน่าย (Business to Business) เป็นหลัก พร้อมเพิ่มช่องทางการขาย โดยเน้นการฝึกอบรมพนักงานขาย เสริมทีมขายในพื้นที่ที่มีศักยภาพ รวมทั้งการขยายดีลเลอร์ที่มีคุณภาพให้ครอบคลุมทั่วประเทศ
จากการค้นคว้าและผสานความร่วมมือกับสถาบันทางเทคนิคที่เลื่องชื่อ นำไปสู่การสร้างสรรค์เทคโนโลยีแห่งสีชั้นสูงของ ทรู คัลเลอร์ เทคโนโลยี (TrueColour Technology) ซึ่งมีคุณสมบัติในการจับตัวและยึดเกาะของเนื้อสีได้ดียิ่งขึ้น จึงทำให้ง่ายในการเช็ดล้างทำความสะอาด อีกทั้ง สีบนผนังจะยังสวยสดคงทนไม่ซีดจาง และไม่เกิดฝุ่นชอล์ก จึงทำให้สีทาภายในคุณภาพระดับสูง มาเจสติก ผ่านการทดสอบประสิทธิภาพและรับรองมาตรฐานจากศูนย์แล็บ SETSCO สถาบันที่เป็นกลางในประเทศสิงคโปร์ พร้อมได้รับเครื่องหมายรับรองทางการค้าว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและปลอดภัยต่อสิ่งมีชีวิต เพราะปราศจากสารเคมีที่ก่อให้เกิดสารระเหยที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ อาทิ สารตะกั่ว สารปรอท และสารก่อมะเร็งฟอร์มัลดีไฮด์ รวมถึงไม่ก่อให้เกิดกลิ่นเหม็นของสารหรือส่วนผสมใดๆ พร้อมยังปกป้องผนังจากการเกิดเชื้อราที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ จึงทำให้ผู้บริโภคมั่นใจและสามารถเข้าอยู่ได้ทันทีหลังการทาสี จึงเป็นที่พอใจและถูกเลือกใช้ในกลุ่มผู้บริโภคของตลาดสีพรีเพี่ยมระดับโลก และสีในกลุ่มที่มีความคงทนของสีและถูกเลือกใช้มากที่สุดสำหรับโครงการบูรณะสิ่งก่อสร้าง บ้านที่อยู่อาศัย รวมถึงสถาปัตยกรรสำคัญต่างๆ ได้แก่ สีมาเจสติก ออพติม่า ขีดสุดแห่งการปกป้องที่ยาวนาน สะท้อนความหรูหราประกายเงางาม ที่นอกจากคุณสมบัติข้างต้น ยังสามารถปกปิดรอยแตกลายงาได้ดีเยี่ยม และปกป้องผนังจากการเกิดเชื้อแบคทีเรียของผนัง จึงทำให้เป็นสีที่ถูกเลือกใช้มากที่สุดสำหรับโครงการบูรณะสิ่งก่อสร้าง บ้านที่อยู่อาศัย รวมถึงสถาปัตยกรรมสำคัญต่างๆ
ปัจจุบัน สีโจตัน มีส่วนแบ่งทางการตลาดคิดเป็น 20% ของกลุ่มตลาดสีพรีเมี่ยมในไทย และตั้งเป้าที่จะเติบโตและเพิ่มเป็น 22% ในปี 2551 นี้
นายอีริค มัลเลส กรรมการผู้จัดการ บริษัท โจตันไทย จำกัด กล่าวถึง กลยุทธ์หลักทางการตลาดแบบ B-to-B ว่า บริษัทฯ เน้นในเรื่องการเพิ่มช่องทางการขาย การเสริมศักยภาพให้กับทีมขายและลูกทีม การมอบการบริการที่ดีที่สุดแก่ตัวแทนจำหน่ายในเครือข่าย ด้วยการเป็นผู้นำในด้านศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งสี มัลติ คัลเลอร์ ของสีโจตัน จะช่วยให้สามารถขยายเครือข่ายตัวแทนจำหน่าย และเครือข่ายศูนย์แล็บสีมัลติ คัลเลอร์ ได้เพิ่มขึ้นกว่า 25% ในปีนี้
จากการคาดการณ์ภาพรวมของเศรษฐกิจในประเทศไทยหลังการเลือกตั้ง จะส่งผลต่อแนวโน้มการเติบโตของภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง ทำให้โจตันเชื่อมั่นว่าจะสามารถฉลองความสำเร็จครบรอบ 40 ปี ของการผลิตในประเทศไทย ไปพร้อมๆ กับภาพรวมทางการตลาดไทยที่สดใสได้ในปี 2551 นี้ โจตันเชื่อมั่นและตั้งเป้ายอดขายเติบโตไม่ต่ำกว่า 12% ของตลาดรวมปีหนูนี้ โดยบริษัทฯ ยังคงเน้นเรื่องการลงทุนเพื่อการพัฒนาบุคลากร การปรับปรุงด้านเทคโนโลยี และการค้นคว้าพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ยอดขายที่เติบโตในตลาดประเทศไทย
นายอีริค มัลเลส ยังกล่าวถึงเรื่องของผลกำไรที่ไม่สามารถคาดการณ์ตัวเลขได้ว่าจะเติบโตเท่าไรได้เหมือนกับยอดขาย เนื่องจากความกดดันในเรื่องของภาวะต้นทุนการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้น “กรณีภาวะต้นทุนการผลิตสีที่เพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตส่วนใหญ่ของสีมาจากอุตสาหกรรมน้ำมันและปิโตรเคมี มีการขยับตัวเพิ่มอย่างต่อเนื่องทำให้ภาพรวมของผู้ผลิตสีมีต้นทุนโดยรวมสูงขึ้นถึง 3-6%ซึ่งจากการแข่งขันที่รุนแรงของตลาดสีในช่วงที่ผ่านมา ยังคงทำให้ผู้ผลิตพยายามที่จะแบกรับภาระต้นทุนการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้นแต่คงแบกรับต่อไปอีกได้ไม่นาน โดยมีการเริ่มปรับราคากันบ้างแล้วตั้งแต่เมื่อปลายไตรมาสแรก แต่บริษัทฯ จะพยายามทำทุกวิถีทางที่จะไม่ผลักภาระไปให้ลูกค้าทั้งหมด โดยที่ผ่านมาบริษัทฯ เน้นไปที่การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตที่คุ้มค่า รวมทั้งลดค่าใช้จ่ายต่างๆ เพื่อเป็นการช่วยลดต้นทุนการผลิตไปพร้อมกัน”
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit