วีซ่า เพย์เวฟ (Visa payWave)

กรุงเทพฯ--31 ม.ค.--โทเทิล ควอลิตี้ พีอาร์

วิธีการชำระเงินรูปแบบใหม่

ในขณะที่เทคโนโลยีวิวัฒนาการไปอย่างไม่หยุดนิ่ง แนวคิดการชำระค่าสินค้าและบริการผ่านบัตรวีซ่ากำลังเติบโตเกินกว่าการรูดหรือสอดบัตรผ่านเข้าในเครื่องรับบัตรไปสู่โอกาสใหม่มากมาย การเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของอุปกรณ์อันชาญฉลาดใหม่ๆและเทคโนโลยีการเชื่อมต่อแบบไร้สายที่มีอยู่อย่างแพร่หลายได้ปูทางให้กับรูปแบบใหม่แห่งการชำระค่าสินค้าและบริการ ซึ่งมอบความปลอดภัยในทุกการดำเนินการและบริการเพิ่มคุณค่าไปกับทุกการเคลื่อนที่ ด้วยการนำชิปรุ่นล่าสุดและเทคโนโลยีไร้สายมาใช้ วีซ่าได้พัฒนา วีซ่า เพย์เวฟ (Visa payWave)

วีซ่า เพย์เวฟ (Visa payWave) คืออะไร

วีซ่า เพย์เวฟ คือ วิธีการชำระเงินแบบไร้สัมผัส – คอนแทคเลส (contactless) ซึ่งไม่จำเป็นต้องนำบัตรสมาร์ตการ์ดไปรูดหรือสอดผ่านเข้าในเครื่องรับบัตร เพียงถือบัตรวีซ่า เพย์เวฟไว้ใกล้กับเครื่องอ่านบัตรภายในระยะห่างไม่เกิน 4 เซนติเมตร เครื่องอ่านบัตรจะค้นหาบัตรและดำเนินการประมวลผล วีซ่า เพย์เวฟคือวิธีการที่รวดเร็วและง่ายดายสำหรับผู้บริโภคในการชำระค่าสินค้าและบริการ ร้านค้าที่รับวีซ่า เพย์เวฟสามารถดำเนินการชำระในเวลาเพียง 4-6 วินาทีซึ่งรวมถึงการพิมพ์ใบเสร็จรับเงิน เมื่อเทียบกับการชำระด้วยเงินสดซึ่งโดยทั่วไปใช้เวลาระหว่าง 12 ถึง 14 วินาทีนับตั้งแต่การยื่นเงินจนถึงการรับเงินทอน โดยไม่จำเป็นต้องเซ็นชื่อและไม่จำเป็นต้องยื่นบัตรให้แก่แคชเชียร์ – ผู้บริโภคเพียงถือบัตร ทำการชำระ และจบขั้นตอนอย่างรวดเร็ว

บัตรวีซ่า เพย์เวฟพัฒนาบนมาตรฐานบัตรสมาร์ตการ์ด อีเอ็มวี ซึ่งใช้อย่างแพร่หลายทั่วโลกในปัจจุบัน ซึ่งในปัจจุบันได้รับความยอมรับจาก ผู้ออกบัตรและผู้บริการรับบัตรทั่วโลกและในเอเชีย แปซิฟิก การชำระจะทำผ่านคลื่นความถี่วิทยุ (RF) ซึ่งคล้ายกับบัตร ‘tap and go’ ซึ่งผู้บริโภคในประเทศไทยคุ้นเคยจากระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน โดยมีเสาอากาศ-ลวดทองแดงบางๆภายในบัตรวีซ่า เพย์เวฟซึ่งโอนย้ายข้อมูลการชำระอย่างรวดเร็วและปลอดภัยผ่านสัญญาณความถี่วิทยุไปสู่ตัวอ่านซึ่งเชื่อมต่อกับเครื่องชำระของร้านค้า

สิทธิประโยชน์ต่อผู้ให้และใช้บริการ

สำหรับผู้บริโภค

• ไม่จำเป็นต้องเซ็นชื่อและมอบบัตรให้กับพนักงานแคชเชียร์
• เพิ่มอำนาจผู้ถือบัตรด้วยความสะดวกและคล่องตัวด้วยทางเลือกการชำระค่าสินค้าและบริการ
• ทำงานเป็นสามบัตรในหนึ่งเดียว บัตรวีซ่า เพย์เวฟไม่เพียงสามารถใช้เป็นบัตรไร้สัมผัส ณ จุดที่มีเครื่องหมายวีซ่าและคอนแทคเลสปรากฏอยู่เท่านั้น แต่ยังสามารถใช้เป็นบัตรวีซ่าปกติซึ่งเป็นที่ยอมรับทั่วโลก
• เก้าสิบสองเปอร์เซ็นของลูกค้าร้านวัตสันที่ใช้บัตรร่วมธนาคารพาณิชย์ไชน่าทรัสต์-วัตสันกล่าวว่าพวกเขาจะใช้มันอีกเนื่องจากความสะดวก รวดเร็วและสดใหม่ของเทคโนโลยีไร้สัมผัสของวีซ่าเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้พวกเขาชอบและต้องการใช้บัตรต่อไป

สำหรับร้านค้า

• ทำให้ขั้นตอนการชำระเงินมีความรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ทำให้พนักงานในร้านสามารถดูแลช่วยเหลือลูกค้าท่านอื่นได้เร็วยิ่งขึ้น พนักงานแคชเชียร์ที่ร้านวัตสันกล่าวว่าเทคโนโลยีแบบไร้สัมผัสของวีซ่าสร้างความสะดวกสบายให้แก่พวกเขา เนื่องจากพวกเขาไม่ต้องรับ-ทอนเงินสดหรือรูดบัตร สิ่งที่ต้องทำมีเพียงแค่ยื่นใบเสร็จรับเงินคืนให้แก่ลูกค้าเท่านั้น ผลตอบรับที่มาเลเซียก็บ่งบอกเช่นเดียวกันว่า การที่ไม่ต้องมีการเซ็นต์ชื่อหรือการทอนเงิน ทำให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ในการจ่ายเงินที่รวดเร็วและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
• ด้วยการที่บัตรแบบอีเอ็มวี เป็นบัตรที่มีเทคโนโลยีก้าวหน้าซึ่งช่วยผลักดันมาตรฐานของบัตรแบบสมาร์ตการ์ดที่มีอยู่ทั่วไปในอุตสาหกรรมบัตรเครดิตให้ไปสู่อีกระดับ บัตรอีเอ็มวีนี้ จึงถือเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่จะช่วยต่อสู้กับการปลอมแปลงบัตร
• ช่วยเพิ่มความพึงพอใจให้กับลูกค้า ด้วยการชำระเงินที่ทันสมัย รวดเร็ว และสะดวกสบาย ซึ่งช่วยเพิ่มการใช้จ่ายและความภักดีต่อผลิตภัณฑ์ของลูกค้า
• ร้านวัตสันระบุว่า บัตรร่วมหรือโคแบรนด์ (co-branded) ซึ่งใช้เทคโนโลยีการชำระเงินแบบไร้สัมผัสของวีซ่า ทำให้ยอดการใช้จ่ายแต่ละครั้งของลูกค้ามีจำนวนถึง 28 เหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งมากกว่าเดิมที่มีจำนวน 10 เหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ ถึงเกือบ 3 เท่า

สำหรับสถาบันการเงิน

– เพิ่มโอกาสในการบริการลูกค้า รวมถึงผู้ถือบัตรและร้านค้า ด้วยวิธีในการดำเนินธุรกรรมทางการเงินแบบใหม่ที่รวดเร็ว ชาญฉลาด และสะดวกสบาย

– จากการสำรวจของธนาคารไชน่าทรัสต์ ผู้ถือบัตรที่ใช้เทคโนโลยีแบบไร้สัมผัสจะมียอดการใช้จ่ายสูงกว่าผู้ที่ไม่ได้ใช้เทคโนโลยีดังกล่าวกว่า 53 เปอร์เซ็นต์

– เพิ่มช่องทางเข้าถึงร้านค้าประเภทอื่นๆ เช่น ร้านอาหารจานด่วน หรือ กลุ่มร้านแบบที่มูลค่าการชำระต่อรายการต่ำ “โลว์ ทิกเก็ต” ซึ่งเคยใช้เงินสดในการชำระเงินเพียงอย่างเดียว

– สนับสนุนข้อดีของเทคโนโลยี อีเอ็มวี โกลบอล สมาร์ตการ์ด

ลักษณะด้านเทคนิค

– รองรับเทคโนโลยีชิป วีซ่า สมาร์ต เดบิต เครดิต (VSDC) ซึ่งทำให้สามารถทำงานได้ทั้งวีซ่า เครดิต และเดบิต

– พัฒนาจากมาตรฐานบัตรโกลบอล อีเอ็มวี สมาร์ตการ์ด

– ใช้ระบบรหัสลับพิเศษเพื่อระบุการดำเนินธุรกรรมทางการเงินแบบเฉพาะเจาะจง ทั้งยังสร้างความปลอดภัยให้กับทุกการใช้จ่ายด้วยการใช้มาตรฐานการตรวจสอบความเป็นเจ้าของด้วยบัตรอีเอ็มวี (การตรวจสอบความเป็นเจ้าของด้วยข้อมูลแบบไดนามิก - DDA)

– บัตรแบบผสมผสาน: ชิปตัวเดียว ซึ่งรองรับการถ่ายโอนข้อมูลทั้งแบบสัมผัส และไร้สัมผัสISO/IEC14443 (A/B)

วีซ่า เพย์ เวฟ ในเอเซีย แปซิฟิค

วีซ่า เพย์ เวฟ ได้ใช้ชื่อว่า วีซ่า เวฟ ในการออกบัตรในประเทศมาเลเซีย เกาหลี และไต้หวัน

โครงการในมาเลเซีย

บัตรเอ็มบีเอฟในมาเลเซีย ได้ออกบัตรวีซ่า เวฟ ให้แก่ผู้บริโภคจำนวน 2000 คน ในช่วงทดลองที่กัวลาลัมเปอร์/กลาง แวลลีย์ ประเทศมาเลเซีย ระหว่างวันที่ 27 เมษายน ถึง 31 สิงหาคม พ.ศ. 2547 ต่อมาในเดือนกุมภาพันธ์ 2548 วีซ่าจึงได้เริ่มใช้วีซ่า เวฟอย่างเป็นทางการ

หลายสถาบันการเงินในประเทศมาเลเซีย อาทิ เอ็มบีเอฟ ธนาคารยูโอบี (มาเลเซีย) เมย์แบงค์ อาร์เฮชบีแบงค์ อีออนแบงค์ และอัล ราจีแบงค์ ได้ออกบัตรวีซ่า เวฟ

โครงการทดลอง โมบาย วีซ่า เวฟ (Mobile Visa Wave) ซึ่งเป็นโครงการเกี่ยวกับการชำระเงินผ่านระบบคอนแทลเลสซึ่งมีพื้นฐานมาจากระบบอีเอ็มวี โดยใช้ระบบเนียร์ ฟิลล์ คอมมูนิเคชั่น (Near Field Communication – NFC) เริ่มดำเนินการครั้งแรกโดยวีซ่า อินเตอร์เนชั่นแนล มาเลเซียในเดือนเมษายน พ.ศ. 2549 การชำระเงินด้วยระบบโมบาย วีซ่า เวฟ สามารถทำได้ตามร้านค้าต่างๆในมาเลเซียที่มีอุปกรณ์สนับสนุนวีซ่า เวฟ โดยเครื่องรับที่ใช้อยู่นั้น ไม่จำเป็นต้องมีการเปลี่ยนเพื่อรองรับโครงการดังกล่าวนี้

ร้านค้าที่เข้าร่วมกับวีซ่า เวฟ ในประเทศมาเลเซีย ได้แก่:

กลุ่มร้านกาแฟ: ซาน ฟรานซิสโก คอฟฟี กลอเรีย จีน เฟมัส อามอส โฮกา คอฟฟี บาสกิน รอบบิ้น

กลุ่มโรงภาพยนตร์: โกลเดน สกรีน ซีนีมา (GSC)

กลุ่มดีพาร์ทเมนท์สโตร์ ศูนย์อาหารและคอนเซปส์ สโตร์: พาร์คสัน จายา จัสโก้ คามดา บินทาง ซูเปอร์มาร์เก็ต เทดดี้ เทลส์ ฮอลมาร์ก ไทม์ เดอะ บุค ช้อป

ร้านอาหาร: ซูชิ คิงส์ นานโด ชิกเก้นแลนด์

ซูเปอร์มาร์เก็ต: คาฟูร์ จายา จัสโก้ ฟาจาดีพาร์ทเมนท์สโตร์ และ ซูเปอร์มาร์เก็ต

โครงการในไต้หวัน

ธนาคาร ไชน่าทรัสต์ ธนาคารไทชิน อินเตอร์เนชั่นแนล ธนาคารพาณิชย์ไทเป ฟูบอน ธนาคารคาเธ่ย์ ยูไนเต็ด ธนาคารยูเนียนแบงค์ ออฟ ไต้หวัน ได้ทำการออกบัตรวีซ่า เวฟในไต้หวัน โดยมีธนาคารไชน่าทรัสต์ เนชั่นแนลเครดิต การ์ด เซ็นเตอร์ ธนาคารไทชิน อินเตอร์เนชั่นแนล และธนาคารยูเนียนแบงค์ ออฟ ไต้หวัน ทำการจัดหาและติดต่อร้านค้าเพื่อร่วมกับวีซ่า เวฟ

ร้านค้าที่เข้าร่วมกับวีซ่า เวฟ ในไต้หวัน ได้แก่:

ร้านหนังสือ: ซาน มิน บุค

กลุ่มร้านกาแฟ: มร.บราวน์ คอฟฟี่, อิคาริ คอฟฟี่

กลุ่มโรงภาพยนตร์: เซาท์ อีสท์ เอเซีย ซีนีมา, ฮินชู สตาร์ ซีนีมา, ยูนิเวอร์แซล ซีนีมา

กลุ่มดีพาร์ทเมนท์สโตร์ ศูนย์อาหาร: ชินคองมิตซูโคชิ ดีพาร์ทเมนท์สโตร์, โซโก ดีพาร์ทเมนท์สโตร์, ดาเย ทาคาชิมายา ดีพาร์ทเมนท์สโตร์, บรีซ เซ็นเตอร์, แปซิฟิค ดีพาร์ทเมนท์สโตร์, ฮานชิน คาวเซียง ดีพาร์ทเมนท์สโตร์ ,โกลบอล มอลล์, ไอดี ดีพาร์ทเมนท์สโตร์, ชิน ชิน ดีพาร์ทเมนท์สโตร์, ดอลลาร์ มอลล์, เพรสซิเดนท์ดีพาร์ทเมนท์ สโตร์

ไฮเปอร์มาร์เก็ต: อาร์ทีมาร์ท, คอสโก้โฮล์เซลล์

ร้านขายของใช้ส่วนตัว: ร้านวัตสัน

สถานีบริการน้ำมัน: ซีพีซี

ซูเปอร์มาร์เก็ต: เจสัน ซิตี้ ซูเปอร์

สถานีขนส่งเดินทาง: สถานีรถไฟไต้หวัน เกากวง บัส

ร้านเช่าวีดีโอ: บล็อกบัสเตอร์

โครงการในเกาหลี

โครงการทดลองวีซ่า เวฟเริ่มเปิดตัวด้วยความร่วมมือกับ เทสโก้ แอลจี การ์ด และ แอลจี เทเลคอม ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2549 บัตรวีซ่า เวฟได้รับการออกใช้โดย บีซี การ์ด, ฮุนได การ์ด, ลอตเต้ การ์ด, ชินฮัน การ์ด, ธนาคารคุกมิน, ธนาคารฮานา, ธนาคารอูริ และ สมาพันธ์เพื่อการร่วมมือทางด้านการเกษตรแห่งชาติ (National Agricultural Cooperative Federation - NACF)

ร้านค้าที่เข้าร่วมกับวีซ่า เวฟ ในประเทศเกาหลี ได้แก่:

ร้านสะดวกซื้อ: 7-อีเลฟเว่น

ดีพาร์ทเมนท์สโตร์: ลอตเต้ ดีพาร์ทเมนท์สโตร์

ก๊าซ สเตชั่น: เอสเค ก๊าส สเตชั่น และ จีเอส คาร์ลเท็ก

ไฮเปอร์มาร์เก็ต: เทสโก้, ลอตเต้ มาร์ท, ฮานาโร่ มาร์ท

โรงหนัง: ซีจีวี

ร้านขายของใช้ส่วนตัว: มิชชา คอสเมติค

โครงการในสิงคโปร์

วีซ่า เพย์เวฟเปิดตัวครั้งแรกร่วมกับธนคารยูโอบี ในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2550

ร้านค้า 300 ที่เข้าร่วมกับวีซ่า เพย์เวฟ ในสิงคโปร์ ได้แก่:

กลุ่มร้านกาแฟ: เดอะ คอฟฟี่ บีน แอนด์ ที ลีฟ, เซเดเล, แซนด์วิช ช้อป, เบ็น แอนด์ เจอรี่, ไปเปอร์ส พาย, แอนเดอร์สัน ออฟ เดนมาร์ก

กลุ่มโรงหนัง: คาเธ่ย์ ซีนีม่า

กลุ่มดีพาร์ทเมนท์สโตร์ ศูนย์อาหารและคอนเซปส์ สโตร์: โฟโต้ ฟินิช, เซมบาวัง มิวสิค, เฮชเอ็มวี, จีออร์ดาโน, ทอย อาร์ อัส และ ซาซา คอสเมติค

ร้านขายของใช้ส่วนตัว: การ์เดียน

ร้านอาหาร: คริสตัล เจด, สาเก ซูชิ

ข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อได้ที่ [email protected] .

สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

• ข่าววีซ่า
• ข่าวควอลิตี้
• ข่าววีซ่าเพย์เวฟ