กรุงเทพฯ--25 เม.ย.--เจ ดับบลิวที พับบลิค รีเลชั่นส์
แมนพาวเวอร์ บริษัทที่ปรึกษาด้านทรัพยากรบุคคลระดับโลก ให้การสนับสนุนศูนย์ข้อมูลคนหาย มูลนิธิกระจกเงา เพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์ เผยสถิติคนหายช่วงก่อนเปิดเทอมมีจำนวนเพิ่มขึ้นเกือบทุกปี โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง คือ เด็กหญิงที่อยู่ในวัย 11-15 ปี ที่ตกเป็นเหยื่อของการถูกล่อลวงเพื่อทางเพศ พร้อมขอความร่วมมือในการประชาสัมพันธ์หรือแจ้งเบาะแส เพื่อติดตามคนหายกลับบ้านได้รวดเร็วขึ้น
นางสาวธิติมา หมีปาน หัวหน้าศูนย์ข้อมูลคนหาย มูลนิธิกระจกเงา ในฐานะองค์กรพัฒนาเอกชนที่มีภารกิจในการรับแจ้งและประสานงานติดตามคนหายทั่วทั้งราชอาณาจักรไทยนับตั้งแต่ปี 2546 จนถึงปัจจุบัน ( ณ วันที่ 21 เมษายน 2551 ) ว่า ทางมูลนิธิ ได้รับแจ้งเหตุการณ์หายตัวไปของคนในสังคม เป็นจำนวน 1,006 ราย แยกเป็นเพศชาย จำนวน 340 กรณี หญิง จำนวน 666 กรณี และจากจำนวนที่ได้รับแจ้งทั้งหมดนั้น เมื่อพิจารณาให้ดีจะพบว่า ผู้สูญหายจำนวน 589 กรณีนั้นเป็น เด็กและเยาวชน ซึ่งจากตัวเลขดังกล่าวชี้ให้เห็นว่า เด็กและเยาวชน คือ กลุ่มเสี่ยงที่จะการหายตัวออกจากบ้านมากที่สุด โดยสาเหตุของการหายตัวไปของเด็กกลุ่มนี้ คือ การถูกล่อลวงเพื่อทางเพศ
แต่เมื่อวิเคราะห์จากสาเหตุที่เด็กกลุ่มนี้หายตัวออกจากบ้าน ทำให้ทราบว่า สาเหตุที่ทำให้เด็กหายเพราะการถูกล่อลวงเพื่อทางเพศนั้น ส่วนหนึ่งเกิดจากกิจกรรมที่เด็กเหล่านี้ ทำในช่วงปิดเทอม ไม่ว่าจะเป็นการเรียนพิเศษ การไปเที่ยวกับเพื่อน การเล่นเกมส์ออนไลน์ หรือการทำงานพิเศษช่วงปิดเทอม แม้กิจกรรมเหล่านี้ จะก่อให้เกิดคุณประโยชน์ต่อตัวเด็ก แต่ก็ยังแฝงไปด้วยภัยเงียบ เพราะกิจกรรมที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่ ทำให้เด็กได้มีโอกาสได้สานสัมพันธ์กับบุคคลภายนอก ทั้งยัง ทำให้เด็กรู้สึกผูกติดกับกิจกรรมที่ทำ โดยเฉพาะเรื่องเกมส์ออนไลน์ ที่อาจทำให้เด็กนั่งติดอยู่กับหน้าจอจนไม่อยากจะทำสิ่งใด เนื่องจากเด็กรู้สึกว่า เกมส์กลายเป็นส่วนหนึ่งของตนเอง หากไม่ได้เล่นเกมส์จะรู้สึกว่าไม่อยากจะมีชีวิตอยู่ และเมื่อต้องถูกบังคับให้ลุกจากหน้าจอ เด็กส่วนหนึ่งจึงเลือกวิธีการหายตัวออกจากบ้าน เพื่อที่ตนจะได้มีอิสระในการเล่นเกมส์และไม่ต้องฟังเสียงบ่น หรือโดนบังคับอีก
ซึ่งเมื่อเด็กกลุ่มนี้ออกมาใช้ชีวิตอยู่ข้างนอกเพียงลำพัง ทำให้มีพัฒนาการกลายเป็นเด็กเร่ร่อน และเมื่อจำเป็นต้องทำงานอย่างใดอย่างหนึ่ง เพื่อหาเงินมายังชีพ แต่ด้วยวัยของเด็กแล้วอาจไม่สามารถทำงานที่สุจริตได้ จึงทำให้เด็กเลือกที่จะก่ออาชญากรรมแทน ซึ่งการกระทำดังกล่าวทำให้เด็กเปลี่ยนจากเด็กเร่ร่อนกลายมาเป็นอาชญากรเด็กหรืออาชญากรรุ่นเยาว์แทน
ฉะนั้น เพื่อป้องกันมิให้เกิดกรณีเด็กหายออกจากบ้าน หรือ อาชญากรเด็ก ขึ้นมา ทางครอบครัวควรมีการเตรียมการรับมือในช่วงก่อนเปิดเทอม อาทิเช่น การหากิจกรรมเพื่อมาดึงเด็กออกจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ หรือ จากกิจกรรมที่เด็กกำลังหมกหมุ่นอยู่ ทั้งยังเป็นการสานความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว รวมถึงเป็นการเตรียมความพร้อมให้กับเด็กช่วงเปิดเทอม
นางสาวธิติมา กล่าวว่า จากเรื่องดังกล่าว ทางศูนย์ข้อมูลคนหายเพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์ มูลนิธิกระจกเงา จึงขอความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือ
1. ขอให้มีพื้นที่สำหรับใช้ในการประชาสัมพันธ์รูป รณรงค์ หรือติดตามเด็กหาย ตามสื่อมวลชนทุกแขนง
2. ขอให้มีการประกาศเตือนภัยเด็กหาย ตามสถานที่ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงภัย
3. ขอให้มีการสืบเสาะหาหลักฐานของคนร้าย หรือการติดตามหาเด็กอย่างเร่งด่วน
4. ขอให้ประชาชนที่พบเห็นเบาะแส หรือ พบเห็นเหตุการณ์ที่น่าสงสัย แจ้งเรื่องกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อดำเนินการตรวจสอบอย่างเร่งด่วน
ทั้งนี้ หากผู้ใด พบเห็นหรือรู้เบาะแสเด็กถูกลักพาตัว สามารถโทรแจ้งได้ที่ ศูนย์ข้อมูลคนหายเพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์ มูลนิธิกระจกเงา โทรศัพท์ 02-6427991 ต่อ 11 E-mail : [email protected] สามารถดูรายละเอียดได้ที่เวบไซด์www.backtohome.org
มร. ไซมอน แมทธิว ผู้จัดการทั่วไป บริษัท แมนพาวเวอร์ (ประเทศไทย) ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านทรัพยากรบุคคลระดับโลก ผู้ให้การสนับสนุนศูนย์ข้อมูลคนหาย มูลนิธิกระจกเงา กล่าวถึงแนวคิดและวัตถุประสงค์ในการให้การสนับสนุนมูลนิธิฯ ว่า “การต่อต้านการใช้แรงงานอย่างทารุณหรือการค้ามนุษย์ในรูปแบบต่างๆ เป็นหนึ่งในแนวนโยบายเพื่อสังคมที่สำคัญของแมนพาวเวอร์ทั่วโลก โดยแมนพาวเวอร์ เป็นบริษัทแรกที่ได้ร่วมลงนามในหลักการ Athens Ethical Principles ซึ่งมีนโยบายสำคัญคือ “Zero Tolerance” มุ่งเน้นการสร้างสรรค์กิจกรรมใดๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อการต่อต้านการค้ามนุษย์ ดังนั้น แมนพาวเวอร์ ประเทศไทย จึงมีแนวคิดในการสนับสนุนและอำนวยความสะดวกต่อการดำเนินงานของหน่วยงานหรือองค์กรในประเทศไทย ที่มีแนวนโยบายในการต่อต้านการค้ามนุษย์ เพื่อช่วยเหลือบุคคลที่ต้องตกเป็นเหยื่อให้หลุดพ้นจากความยากลำบาก และเป็นการตอกย้ำภารกิจหลักของ “แมนพาวเวอร์” ในการสนับสนุนและส่งเสริมกิจกรรมต่อต้านการค้ามนุษย์ด้วย
ทั้งนี้ แมนพาวเวอร์ ได้ให้การสนับสนุนบุคลากรเพื่อปฏิบัติงานยังศูนย์ข้อมูลคนหายฯ 2 อัตราและสนับสนุนงบประมาณในการติดตามคนหายอีกเดือนละ 10,000 บาท เป็นระยะเวลา 10 เดือน (มีนาคม-ธันวาคม2551) ในปี พ.ศ.2551 รวมทั้งการสนับสนุนการจัดพิมพ์แผ่นพับประชาสัมพันธ์ศูนย์ฯ (Brochure) แผ่นพับมีเนื้อหาครอบคลุมประวัติ กระบวนการทำงาน และผลงานของศูนย์ฯ ตลอดจนข้อมูลเกี่ยวกับ แมนพาวเวอร์ รวมทั้งเสื้อแจ๊คเก็ตสำหรับการลงพื้นที่ และ ป้ายประชาสัมพันธ์เคลื่อนที่ขนาดเล็ก (Roll up) ในฐานะองค์กรหลักที่ให้การสนับสนุน โดยจะถูกนำไปเผยแพร่สู่สาธารณชนและสื่อมวลชนผ่านกิจกรรมของศูนย์ฯ ตลอดจนกิจกรรมต่างๆ ของแมนพาวเวอร์
“แมนพาวเวอร์ยึดมั่นใน 4 หลักการช่วยเหลือสังคมของแมนพาวเวอร์ ได้แก่ การพัฒนาด้านการทำงาน, การบรรเทาสาธารณภัย, การช่วยเหลือผู้อพยพ, และการต่อต้านการทารุณกรรมมนุษย์ ซึ่งเป็นหลักการเหมือนกันกับแมนพาวเวอร์ทั่วโลก ที่มีสำนักงานอยู่ถึง 4,500 แห่ง ใน 80 ประเทศทั่วโลกที่บริษัทฯ ยึดมั่นปฏิบัติ ควบคู่กับการดำเนินธุรกิจบนรากฐานของจริยธรรมและความมุ่งมั่นที่จะนำสิ่งดีๆคืนกลับไปสู่สังคม” นายไซม่อนกล่าว
แมนพาวเวอร์ เป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านทรัพยากรมนุษย์ที่ให้บริการด้านการจัดการและบริหารงานบุคคลระดับโลก มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ มลรัฐวิสคอนซิน สหรัฐอเมริกา โดยมีเครือข่ายสำนักงานที่ให้บริการ 4,500 สาขา ใน 80 ประเทศทั่วโลก พร้อมให้บริการกับลูกค้าที่อยู่ในกลุ่มธุรกิจต่างๆ ถึง 400,000 รายต่อปี โดยกลุ่มแมนพาวเวอร์แบ่งการดำเนินธุรกิจใน 5 บริษัท ได้แก่ แมนพาวเวอร์ (Manpower), แมนพาวเวอร์ โปรเฟสชั่นแนล (Manpower Professional), อีแลน (Elan), เจฟเฟอร์สัน เวลส์ (Jefferson Wells) และ ไรท์ เมเนจเม้นท์ (Right Management)
ปัจจุบัน แมนพาวเวอร์ ประเทศไทย จัดเป็นบริษัทจัดหางานชั้นนำและมีชื่อเสียงของประเทศ โดยได้เริ่มต้นการให้บริการด้านการจัดการและบริหารงานบุคคล มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2541 โดยปัจจุบันมีสำนักงานเปิดให้บริการทั้งหมด 12 แห่ง ในกรุงเทพฯ 5 แห่ง, จังหวัดชลบุรี 2 แห่ง, จังหวัดอยุธยา 1 แห่ง, จังหวัดสมุย 1 แห่ง และในเดือนพฤษภาคมนี้จะเปิดอีก 3 แห่ง ที่จังหวัดลำพูน สงขลา และนครราชสีมา โดยเน้นกลยุทธ์การให้บริการที่พร้อมตอบรับกับความต้องการระหว่างกลุ่มบริษัทต่างๆ ที่ต้องการบุคลากร และกลุ่มผู้หางาน
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
มูลนิธิกระจกเงา
คุณทานตะวัน สังข์แป้น โทร. 02 – 642 -7991 # 13
เจ ดับบลิวที ประเทศไทย : เจ ดับบลิวที พับบลิค รีเลชั่นส์
คุณวงจันทร์ ตั้งทรงศักดิ์ โทร. 02-204-8221 / 08-9127-2089
คุณญาดา ศรีสัมมาชีพ โทร. 02-204-8214 / 08-4640-0058+
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit