กรุงเทพฯ--24 มี.ค.--ชูไก บิ๊ก CRANE มองภาพธุรกิจปีนี้ยังไปได้สวย คาดจะรักษาระดับการเติบโตได้ไม่ต่ำกว่า 10-15% ระบุหลังจากระดมทุนในช่วงต้นปี ได้นำไปชำระหนี้สถาบันการเงิน ทำให้มีสภาพคล่องเพิ่มมากกว่าปีที่ผ่านมา อีกทั้งภาพรวมอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องมีการขยายตัวดีต่อเนื่อง ผนวกกับจุดเด่นเรื่องการบริการรถเครนที่มีความสามารถในการยกสูงขึ้นและมีความปลอดภัย เป็นปัจจัยหนุนทำให้ CRANE เป็นที่ต้องการของลูกค้า พร้อมวางแผนขยายตลาดไปยังประเทศใกล้เคียง อาทิ สิงคโปร์ มาเลเซีย บรูไน อินโดนีเซีย อินเดีย พม่า ลาว เวียดนาม และบริษัทในกลุ่ม < /SPAN>MIDDLE EAST นายธงไชย แพรรังสี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ชูไก จำกัด (มหาชน)(CRANE) เปิดเผยถึงการดำเนินธุรกิจในปี 2551 ว่าจะขยายตัวในทิศทางที่ดีจากปีที่ผ่านมา เนื่องจากช่วงต้นปี 2551 บริษัทฯ ได้รับเงินจากการขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไป และได้นำไปชำระหนี้เงินกู้สถาบันการเงิน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนภายในกิจการ ทำให้ภาระหนี้สินลดลงมาก และมีสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจเพิ่มขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา ขณะเดียวกันในภาคอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจของ CRANE อาทิ กลุ่มลูกค้าธุรกิจปิโตรเคมี โรงกลั่น โรงไฟฟ้า ธุรกิจท่าเรือ การนำเข้าส่งออ ก ธุรกิจลอจิสติกส์ รวมถึงกลุ่มธุรกิจโรงเหล็ก และโรงงานน้ำตาล ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลในทางบวกต่อธุรกิจของบริษัท เพราะทำให้มีธุรกรรมด้านการก่อสร้าง การขนส่ง และการซ่อมบำรุงโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ประจำปีเพิ่มขึ้น "ปีนี้บริษัทฯ จะพยายามรักษาระดับการเจริญเติบโตให้อยู่ที่ 10-15% ต่อปี ซึ่งเป็นผลจากการระดมทุน ในช่วงต้นปี ทำให้ CRANE มีศักยภาพในการหาแหล่งเงินทุน เพื่อลงทุนในการซื้อรถเครน และเครื่องจักรอื่นๆ เพื่อนำมาจำหน่ายและให้เช่าได้มากยิ่งขึ้น และในส่วนของการดำเนินธุรกิจก็ยังได้แรงหนุนจากภาคอุตสาหกรรมที่ขยายตัวทำให้มีธุรกรรมมากขึ้น ดังนั้นก็จะทำให้ CRANE มีงานเพิ่มขึ้นตามไปด้วย" ในด้านของการแข่งขันสำหรับธุรกิจให้เช่ารถเครน และเครื่องจักรกลหนัก จัดว่าอยู่ในระดับที่ไม่สูงมากนัก โดย CRANE มีคู่แข่งที่เป็นบริษัทของต่างชาติ 2-3 บริษัท ซึ่งโดดเด่นกว่าในด้านเทคโนโลยีและประสบการณ์ที่มากกว่า แต่ก็มีจุดอ่อนคือบริษัทต่างชาติ ไม่มีรถเครนขนาดใหญ่ที่มีความสามารถในการยกสูงอยู่ประจำในประเทศไทย แต่ต้องนำเข้ามาจากต่างประเทศ ซึ่งทำให้มีค่าใช้จ่ายสูงกว่าบริษัทฯ และไม่สามารถแข่งขันด้านราคาได้กรณีเป็นงานระยะสั้น พร้อมกันนี้ CRANE มีจุดเด่นที่แตกต่างจากคู่แข่งคือเป็นบริษัทฯ ที่มีฐานการประกอบการอยู่ในประเทศ มีเครื่องจักรเพื่อให้บริการอยู่ในประเทศเป็นจำนวนมาก ทำให้ได้เปรียบด้านต้นทุนการให้บริการ รวมถึงการที่บริษัทมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องด้านคุณภาพของบุคคลากร และให้ความสำคัญสูงสุดด้านความปลอดภัยในการให้บริการ รวมถึงการพัฒนาเรื่องการให้บริการด้วยรถเครนที่มีความสามารถในการยกสูงขึ้น และเป็นรถใหม่มากขึ้น อีกทั้งเป็นผู้ให้บริการคนไทยรายแรกและรายเดียวในประเทศ ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานระบบการจัดการคุณภาพ และระบบการจัดการด้านชีวอนามัยและความปลอดภัยของการให้บริการเช่ารถเครน รถฟอร์คลิฟท์รถบรรทุก และรถเทรลเลอร์ ตามมาตรฐาน ISO 9001:2000 และ OHSAS 18001 : 1999 ส่วนปัญหาเรื่องค่าน้ำมันที่สูงขึ้นไม่ถือว่ามีผลกระทบต่อธุรกิจมากนัก เนื่องจากภาระค่าน้ำมันเชื้อเพลิง เป็นภาระค่าใช้จ่ายของลูกค้ากรณีเป็นการเช่าระยะยาว ส่วน CRANE รับผิดชอบค่าใช้จ่ายน้ำมัน กรณีเป็นการเช่ารายวัน และในประเด็นเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ถือว่าเป็นผลดีกับบริษัทฯ ในฐานะผู้นำเข้า เพราะทำให้ซื้อเครื่องจักรได้ในราคาที่ต่ำลง แต่ในกรณีส่งออกบริษัทฯ จะขายเครื่องจักร เมื่อได้คำนวณราคาเครื่องจักรเป็นเงินบาท และเห็นว่าเป็นราคาที่เหมาะสมแล้วเท่านั้นจึงจะตกลงขาย นายธงไชยกล่าวต่อในช่วงท้าย ถึงแผนการขยายตลาดในปีนี้ว่า CRANE จะขยายตลาดการให้เช่าเครื่องจักร และการจำหน่ายไปยังประเทศใกล้เคียง คือ สิงคโปร์ มาเลเซีย บรูไน อินโดนีเซีย อินเดีย พม่า ลาว เวียดนาม และบริษัทในกลุ่ม MIDDLE EAST ซึ่งได้เริ่มดำเนินการไปแล้วในหลายประเทศ และอยู่ในขั้นตอนการเจรจาอีกหลายบริษัทในประเทศต่างๆ ข้างต้น ขณะเดียวกันมีนโยบายซื้อรถเครน และเครื่องจักรอื่น ๆ เพิ่มขึ้น โดยประเมินจากแนวโน้มความต้องการในตลาด และการรักษาความเป็นผู้นำในด้านการให้บริการด้วยเครื่องจักรที่มีเทคโนโลยี คุณภาพ และความสามารถในการยกสูงกว่าคู่แข่งควบคู่กันไป สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : คุณสิริน วิวัฒน์เจริญพงศ์ โทร. 02-5549353 / 089-7286389
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit