กรุงเทพฯ--25 มี.ค.--ตลท.
ตลาดหลักทรัพย์ฯ เร่งศึกษา 3 แผนหลักเสริมศักยภาพตลาดทุนไทย รองรับการแข่งขันในเวทีโลก เชิญผู้เชี่ยวชาญให้ความรู้ และแนวโน้มสำคัญของตลาดทุนโลก เผยจำเป็นต้องเร่งเปลี่ยนแปลงโครงสร้างองค์กร ก่อนถูกลดบทบาทในเวทีตลาดทุนโลก
นายปกรณ์ มาลากุล ณ อยุธยา ประธานตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวในงานสัมมนา “จุดเปลี่ยนตลาดทุนไทย” ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ฯ จัดร่วมกับสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ และสถาบันวิจัยเพื่อตลาดทุนในวันนี้ (25 มีนาคม 2551) ว่า การแข่งขันในอุตสาหกรรมตลาดหลักทรัพย์ในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา (2546-2550) อาจกล่าวได้ว่ามีความเข้มข้นอย่างมาก โดยในเวทีโลก ตลาดทุนไทยกำลังถูกลดความสำคัญลงไปอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากตลาดทุนไทยมีอัตราการเติบโตที่ค่อนข้างช้ามากโดยอยู่ที่ร้อยละ 8.5 ในขณะที่ตลาดทุนเกิดใหม่ (emerging market) ทั่วโลกมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยที่ประมาณร้อยละ 35 ในช่วงเดียวกัน โดยเฉพาะตลาดทุนของจีนและอินเดีย หลังจากที่ประเทศทั้งสองเริ่มมีระบบเศรษฐกิจแบบเปิดทำให้เกิดความเสี่ยงต่อตลาดทุนที่มีขนาดเล็กอย่างตลาดทุนไทยที่อาจเลือนหายจากความสนใจของนักลงทุนทั่วโลก
“ด้วยภาวะการแข่งขันในตลาดทุนโลกที่เข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ต้องกลับมานั่งทบทวนอย่างจริงจังถึงยุทธศาสตร์ และโครงสร้างการดำเนินงานของตลาดหลักทรัพย์ฯ และบริษัทในเครือ เพื่อให้เกิดความชัดเจน และเอื้อต่อการพัฒนาความสามารถในการแข่งขันมากขึ้น ซึ่งในขณะนี้ มี 3 ทางเลือกที่ควรพิจารณา ได้แก่
1. การเร่งปรับปรุงโครงสร้างและการดำเนินการโดยไม่แปลงสภาพ (Demutualize) ตลาดหลักทรัพย์ฯ 2. การแปลงสภาพตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นบริษัทจำกัด และ 3. การแปลงสภาพตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นบริษัทมหาชน”นายปกรณ์กล่าว
นอกจากนี้ นายปกรณ์ยังกล่าวเสริมว่า การสัมมนาในวันนี้ นับว่าเป็นประโยชน์กับตลาดหลักทรัพย์ฯ และผู้ที่อยู่ในแวดวงตลาดทุน เนื่องจากทางเลือกต่าง ๆ นับเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญยิ่งต่อการก้าวต่อไปของตลาดทุน การตัดสินใจเลือกดำเนินการใด ๆ จำเป็นต้องมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันอย่างจริงจังและเข้มข้นในกลุ่มผู้ที่เกี่ยวข้องกับตลาดทุน ซึ่งการสัมมนาในวันนี้ ได้เปิดโอกาสให้มีการพิจารณาข้อมูลและประสบการณ์ของต่างประเทศ ขณะที่ได้เปิดให้มีการแลกเปลี่ยนความเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยพิจารณาถึงบริบทของประเทศไทยด้วย
นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ฯ เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ มีแผนผลักดันการพัฒนาตาม 3 แผนสำคัญ ได้แก่ แผนพัฒนาตลาดทุน แผนการปรับโครงสร้างหลักตลาดหลักทรัพย์ และแผนการสร้างความเชื่อมโยงตลาดหลักทรัพย์ในภูมิภาค ซึ่งได้ดำเนินการควบคู่กันไป
“นับจากวันนี้เป็นต้นไป ตลาดทุนในทุกภาคส่วนจะเข้าสู่ช่วงของการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ โดยแนวทางที่ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้เห็นชอบในสาระสำคัญ ที่พร้อมบรรจุตลาดทุนเป็นวาระแห่งชาตินั้น แสดงให้เห็นชัดเจนว่าถึงเวลาแล้วที่ประเทศไทยจะมีแผนพัฒนาตลาดทุนที่เป็นระบบ ครอบคลุมทุกมิติของตลาดทุน” นางภัทรียากล่าวว่า
การจัดงานสัมมนาในวันนี้ จึงนับว่าเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อแวดวงตลาดทุนไทย เพราะได้มีโอกาสรับทราบข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญระดับโลกที่ได้เผชิญหน้าและก้าวผ่าน “จุดเปลี่ยน” ของตลาดทุนมาแล้ว และนำประสบการณ์อันมีค่ามาถ่ายทอด อาทิ คุณแอนโตนิโอ ริเอรา จากบริษัทบอสตัน คอนซัลติ้ง กรุ๊ป ผู้เชี่ยวชาญในการให้คำปรึกษาตลาดหลักทรัพย์มาแล้วหลายแห่งทั่วโลก คุณแอนดรูว์ เช็ง อดีตเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการก.ล.ต. ฮ่องกง และ คุณเชีย ฟูหัว ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ จะเป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในตลาดทุน รวมถึงการดำเนินธุรกิจหลักทรัพย์ของไทยในอนาคต
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit