กรุงเทพฯ--9 ต.ค.--กทม.
นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานครลงเรือตรวจ แนวป้องกันน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยา คลองบางกอกน้อย และคลองมหาสวัสดิ์ ซึ่งปัจจุบันก่อสร้างแล้วเสร็จ 62.5 กิโลเมตร จากที่ต้องดำเนินการทั้งสิ้น 77 กิโลเมตร คาดว่าจะแล้วเสร็จทั้งโครงการในปี 2553 เพื่อลดผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา และคลองสายต่างๆ ส่วนแนวป้องกันน้ำท่วมที่ยังไม่แล้วเสร็จจะใช้มาตรการชั่วคราวในการเรียงกระสอบทรายเพื่อป้องกันน้ำท่วมที่ความสูง 2.40 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง
ผู้ว่าฯกทม. กล่าวว่า ขณะนี้มีปริมาณน้ำที่ปล่อยลงจากท้ายเขื่อนทางตอนเหนือ 1,529 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยระดับน้ำมีความสูง 1.57-1.70 เมตร ซึ่งยังต่ำกว่าระดับแนวป้องกันน้ำท่วมถาวรริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่ป้องกันได้ระดับความสูง 2.40 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง โดยกรุงเทพมหานคร กรมชลประทาน สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่อง มาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) และจังหวัดใกล้เคียง ได้ประสานการทำงานอย่างบูรณาการในการบริหารจัดการน้ำท้ายเขื่อนให้ปล่อยมาในปริมาณ 1,500-1,700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จากที่กทม. สามารถรับได้ 2,000-2,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีขึ้นอยู่กับแต่ละพื้นที่ เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อประชาชนที่อาศัยริมสองฝั่งแม่น้ำและคลองสายต่างๆ รวมทั้งเขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ และ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ยังสามารถรองรับน้ำได้ จึงไม่น่าห่วงเท่าใดนัก อย่างไรก็ตามกทม. ได้ประสานให้สำนักงานเขต 17 เขตริมแม่น้ำเจ้าพระยาเตรียมพร้อมในการป้องกันและแก้ไขสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น รวมถึงรวบรวมข้อมูลความสูงของระดับน้ำเพื่อประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อแจ้งเตือนประชาชนให้ทราบล่วงหน้าหากเกิดเหตุวิกฤต
นอกจากนี้นายอภิรักษ์ ยังได้สั่งการให้มีการจัดชุดปฏิบัติการเร่งด่วนทางเรือ หรือหน่วยเบสท์ทางเรือ เพื่อให้ความช่วยเหลือชุมชนริมคลองและในพื้นที่เขตที่ที่ประสบปัญหาน้ำท่วม โดยคาดว่าระดับน้ำทะเลจะหนุนสูงในวันที่ 27 ตุลาคม 2550
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit