นายกฯ สุรยุทธ์ เปิดใหญ่งาน “มหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 12” “คิดทำตามคำพ่อสอน” เฉลิมพระเกียรติฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

18 Oct 2007

กรุงเทพฯ--18 ต.ค.--โปรคอมมิวนิเคชั่นส์ แอนด์ คอนซัลแตนท์

17-28 ตุลาคมนี้ กระหึ่ม! ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ และพร้อมกันทั่วประเทศ

สมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (ส.พ.จ.ท.) จัดงานใหญ่ส่งท้ายปี กระตุ้นคนไทยรักการอ่าน มหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 12 “คิดทำตามคำพ่อสอน” ร่วมเทิดพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 นายกฯ สุรยุทธ์ แนะหน่วยงานรัฐ-เอกชน รวมพลังสนับสนุนให้ประชาชนรักการอ่านเพิ่มมากขึ้น จัดบริการให้มีหนังสืออ่านใกล้ตัว มีความสะดวกในการเข้าถึงหนังสือ ผลิตหนังสือที่มีคุณภาพ ราคาเหมาะสม และกำหนด ทิศทางการพัฒนาการอ่านของเด็กและ เยาวชนให้ชัดเจน รัฐบาลหนุนเต็มกำลังเพื่อสร้างสังคมไทยให้เป็นสังคมแห่งการเรียนรู้โดยเร็ว

พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดงาน มหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 12 (BookExpo Thailand 2007) จัดขึ้นระหว่าง วันที่ 17-28 ตุลาคม 2550 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ภายใต้แนวคิด “คิดทำตามคำพ่อสอน” เพื่อเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระชนมพรรษา 80 พรรษาในวันที่ 5 ธันวาคมนี้ จัดโดย สมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (ส.พ.จ.ท.)

พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี กล่าวในพิธีเปิดงานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 12 ว่า จากข้อมูลของสมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ ทำให้ทราบว่าอัตราการอ่านหนังสือ ตลอดจนการผลิตหนังสือของไทยยังอยู่ในขั้นต่ำเมื่อเทียบกับประเทศที่พัฒนาแล้ว ดังนั้น การที่สมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ ในนามหน่วยงานภาคเอกชนได้ให้ความสนใจในการรณรงค์ส่งเสริมและกระตุ้นการอ่านของคนไทยให้เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นเรื่องที่ดีที่ควรได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน

“การอ่านหนังสือเป็นเครื่องมือสำคัญที่ทำให้เกิดองค์ความรู้ รับรู้ข่าวสารต่างๆ และทันต่อเหตุการณ์จากทั่วโลก ซึ่งสามารถนำมาปรับใช้กับการดำรงชีวิต และการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น รัฐบาลยินดีที่จะให้การสนับสนุนการดำเนินงานของสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสืออย่างจริงจัง เพื่อให้มีการผลิตหนังสือที่หลากหลายและมีคุณภาพ ตลอดจนราคาที่เหมาะสม อีกทั้งหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนควรจะช่วยกันสนับสนุนให้ประชาชนรักการอ่านเพิ่มมากขึ้น โดยจัดบริการให้มีหนังสืออ่านใกล้ตัว มีความสะดวกในการเข้าถึงหนังสือ รวมทั้งร่วมกันกำหนดทิศทางการพัฒนาการอ่านของเด็กและเยาวชนอย่างชัดเจน เพื่อให้สังคมไทยเป็นสังคมแห่งภูมิปัญญาและสังคมของการเรียนรู้ที่ยาวนาน ผมเชื่อว่าการอ่านทำให้มีจินตนาการ การรู้หนังสือเป็นการช่วยสร้างคนช่วยสร้างชาติ เราต้องมีความรู้ทั้ง 2 ด้าน คือความรู้ทั่วไปที่เกี่ยวข้องกับการดำรงชีวิต กับการประกอบอาชีพ และการเรียนรู้ด้านจิตใจที่เป็นสิ่งที่ดีงามที่ในบางครั้งถูกมองข้าม เพราะโลกปัจจุบันเป็นโลกาภิวัตน์ที่เป็นโลกของการแข่งขัน” นายกรัฐมนตรีกล่าว

นางริสรวล อร่ามเจริญ นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ในปีนี้คณะกรรมการจัดงานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 12 ได้จัดงานขึ้นภายใต้แนวคิด “คิดทำตามคำพ่อสอน” ในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระชนมพรรษา 80 พรรษา ในปีนี้ โดยได้นำเอาหลักการทรงงานในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 23 ประการ มาจัดเป็นนิทรรศการเพื่อเฉลิมพระเกียรติในโอกาส มหามงคลนี้ ตลอดจนเพื่อเผยแพร่แนวคิดหลักการทรงงานที่พระองค์ท่านทรงปฏิบัติให้ประชาชนได้รู้จักและรับไปปฏิบัติได้อย่างกว้างขวาง พร้อมทั้งได้จัดพิมพ์โปสเตอร์ จำนวน 100,000 แผ่น เพื่อเผยแพร่ให้กับประชาชนภายในงานนี้ 50,000 แผ่น และเผยแพร่ให้กับประชาชน โดยผ่านร้านหนังสือที่เข้าร่วมโครงการมหกรรมหนังสือ ทั่วประเทศอีก 50,000 แผ่น นอกจากนี้ภายในงานยังจัดให้มีกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ต่างๆ อีกมากมาย อาทิ กิจกรรมทำดีเพื่อพ่อจาก สสส. , โครงการ Book Barter แลกรู้แลกอ่าน, กิจกรรมเด็ก “เมืองนิทานอ่านสนุก”, เสวนาบุคคลตัวอย่างที่ดำเนินชีวิตตามหลักการทรงงานในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เช่น คุณชาญชัย

พินทุเสน, คุณโชค บูลกุล, คุณสุทธิพงษ์ ธรรมวุฒิ, คุณนนทรีย์ นิมิบุตร, คุณวงศ์ทนง ชัยณรงค์สิงห์ และ

คุณจอมขวัญ หลาวเพ็ชร เป็นต้น รวมทั้งการนำหนังสือทุกหมวดหมู่มากที่สุดในประเทศมาให้ประชาชนได้ชมและเลือกซื้อในราคาพิเศษ จาก 408 สำนักพิมพ์ จำนวน 819 บูธ และกล่าวด้วยว่า “ธุรกิจหนังสือ เป็นธุรกิจที่สร้างภูมิปัญญาให้กับสังคมและประเทศชาติที่มีการขยายตัวเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีอัตราการเจริญเติบโตไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2546 เรื่อยมา ในปี 2549 ที่ผ่านมา มีหนังสือใหม่เข้าสู่ร้านหนังสือประมาณ 934 ชื่อเรื่องต่อเดือน ซึ่งยังเป็นอัตราที่ต่ำกว่าประเทศที่พัฒนาแล้วถึง 5-10 เท่า และคาดว่าคนไทยใช้เวลาว่างอ่านหนังสือปีละประมาณ 2 เล่ม และใช้เงินซื้อหนังสือต่อคนต่อปีประมาณ 260 บาท อย่างไรก็ตาม แม้ว่าธุรกิจหนังสือจะเป็นธุรกิจที่สร้างภูมิปัญญาให้กับสังคมและประเทศชาติ แต่เนื่องจากคนไทย โดยส่วนใหญ่มีนิสัยชอบฟัง ชอบดู มากกว่าการอ่าน ประกอบกับการขยายตัวของธุรกิจบันเทิงทั้งทีวี ภาพยนตร์ อินเทอร์เน็ต เกมส์คอมพิวเตอร์ และสถานบันเทิงต่างๆ มีแนวโน้มที่จะช่วงชิงเวลาการอ่านของคนไทยไป ดังนั้นภาครัฐจึงควรมีนโยบายสนับสนุนสำนักพิมพ์ในประเทศอย่างจริงจังและต่อเนื่อง เพื่อให้มีการผลิตหนังสือที่หลากหลายและจำเป็นในสังคม”

ทั้งนี้ สมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ ในฐานะแกนกลางเครือข่ายหนังสือเพื่อเด็กได้ร่วมกับเครือข่ายฯ 32 องค์กรในการผลักดันให้รัฐบาลประกาศการอ่านหนังสือเป็นวาระแห่งชาติ โดยมี ฯพณฯ รองนายกรัฐมนตรี นายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม เป็นผู้แทนมารับเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2550 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

ร่วมกันสร้างสรรค์สังคมไทยให้เป็น “สังคมแห่งการเรียนรู้” สนับสนุนให้เกิดวัฒนธรรมรักการอ่านในสังคมไทย ในงานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 12 (BookExpo Thailand 2007) ระหว่างวันที่ 17-28 ตุลาคม 2550 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ตั้งแต่เวลา 10.00 - 21.00 น.

รายละเอียดเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ : บริษัท โปรคอมมิวนิเคชั่นส์ แอนด์ คอนซัลแตนท์ จำกัด

โทรศัพท์ 0 2691 6302-4, 0 2274 4961-2 นิลธรา มะเดชา, สุขกมล งามสม

สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net