กรุงเทพฯ--28 พ.ค.--ตลท.
ตลาดหลักทรัพย์ฯ เผยตลาดหุ้นในอาเซียนที่ร่วมงาน CLSA Corporate Access Forum ที่ประเทศสิงคโปร์ พร้อมผนึกความร่วมมือ เพื่อเพิ่มความความแข็งแกร่งของตลาดหุ้นในภูมิภาคอาเซียนพร้อมรับการแข่งขัน เผยผู้ลงทุนสถาบันต่างประเทศ ยังให้ความสนใจลงทุนในไทย เพียงรอความแน่นอนทางการเมืองและนโยบายที่เกี่ยวข้อง อีกทั้งเห็นว่า ตลาดทุนไทยเปิดกว้างสำหรับการลงทุนจากต่างชาติ และให้ความสนใจเกี่ยวกับการส่งคำสั่งซื้อขายโดยตรง การกำกับดูแลกิจการที่ดี และการเพิ่มสภาพคล่องของหลักทรัพย์
นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงการร่วมงาน CLSA Corporate Access Forum ที่ประเทศสิงคโปร์เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งผู้บริหารระดับสูงของตลาดหลักทรัพย์จาการ์ต้า มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ฮานอย และไทยได้ร่วมอภิปรายในหัวข้อ ASEAN & Vietnam Exchange Panel โดยมีการนำเสนอข้อมูลพัฒนาการสำคัญของตลาดหลักทรัพย์ในภูมิภาคอาเซียนหลังวิกฤติเศรษฐกิจว่า ได้มีการปรับตัวอย่างมาก โดยพัฒนาการที่สำคัญ ได้แก่ การให้ความสำคัญกับการบริหารความเสี่ยง การปรับปรุงด้านบรรษัทภิบาล และการเปิดเผยข้อมูลของบริษัทจดทะเบียน รวมถึง การออกสินค้าใหม่ ๆ ควบคู่ไปกับการให้ความรู้แก่ผู้ลงทุน พร้อมทั้งได้มีการปรับโครงสร้างพื้นฐานของตลาดหลักทรัพย์ให้แข็งแกร่ง ซึ่งถือเป็นจุดแข็งของตลาดหุ้นในภูมิภาคนี้
ทั้งนี้ ผู้บริหารของตลาดหลักทรัพย์ต่าง ๆ ได้ให้ความมั่นใจแก่ผู้ลงทุนสถาบันต่างประเทศว่า ตลาดในภูมิภาคอาเซียนจะพัฒนาความร่วมมือระหว่างกันมากขึ้น ทั้งในด้านออกสินค้าร่วมกันเป็นลักษณะ Joint product และการทำการตลาดร่วมกัน (Joint promotion) เพื่อยกระดับความน่าสนใจของตลาดหลักทรัพย์ในภูมิภาคนี้ให้โดดเด่น และอยู่ในสายตาของผู้ลงทุนต่างประเทศมากขึ้น อันจะเป็นการเพิ่มความสามารถของตลาดหลักทรัพย์ในภูมิภาคนี้ให้พร้อมรับการแข่งขันและการเปลี่ยนแปลงของตลาดทุนโลก
สำหรับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเอง ได้นำเสนอข้อมูลร่วมกับตลาดหลักทรัพย์ในอาเซียนในช่วง ASEAN Exchange panel ต่อผู้ลงทุนสถาบันที่สนใจเข้าฟังกว่า 200 ราย และยังได้พบกับผู้จัดการกองทุนแบบ one-on-one ที่สำคัญ ได้แก่ Aberdeen Asset Management กับ JF Asset Management
นางภัทรียากล่าวว่า “ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้นำเสนอข้อมูลที่แสดงให้ผู้ลงทุนต่างประเทศเห็นถึงพัฒนาการที่สำคัญของไทยหลังช่วงวิกฤติ โดยเฉพาะด้านการยกระดับบรรษัทภิบาลของบริษัทจดทะเบียนอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการออกแนวปฏิบัติด้านบรรษัทภิบาล 15 ข้อ ในปี 2545 การตั้ง CG Center (Corporate Governance Center) และเข้าให้คำปรึกษากับบริษัทจดทะเบียน โดยในปัจจุบันได้ปรับแนวทางให้สอดคล้องกับแนวทางของ OECD (Organization for Economic Cooperation Development) ซึ่งเป็นหลักปฏิบัติสากล ซึ่งผลจากการส่งเสริมบรรษัทภิบาลดังกล่าว ทำให้ผลการประเมินบริษัทจดทะเบียนได้รับคะแนนที่สูงขึ้น โดยประเทศไทยซึ่งได้เข้าร่วมประเมินในโครงการ CG ROSC (Corporate Governance - Report on the Observance of Standards and Codes) ของ World Bank ก็ได้รับการประเมินในระดับที่สามารถเทียบเคียงกับประเทศอื่น ๆ ได้ นอกจากนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังได้ให้ความมั่นใจเกี่ยวกับสินค้าใหม่ที่จะเกิดขึ้นในปีนี้ คือ SET50 Index Options และ ETF ด้วย”
ส่วนการพบผู้จัดการกองทุนแบบ one-on-one ได้ทำให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ รับทราบถึงประเด็นที่สถาบันต่างประเทศสนใจเกี่ยวกับตลาดหุ้นไทย ได้แก่ การปรับปรุงด้านสภาพคล่องของหลักทรัพย์ ระบบส่งคำสั่งซื้อขายตรง หรือ DMA ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้ลงทุนสถาบัน และทำให้ตลาดหุ้นไทยมีความน่าสนใจมากขึ้น
“ผู้ลงทุนสถาบันเห็นว่าพื้นฐานของตลาดไทยยังมีความน่าสนใจ เพียงแต่ต้องรอให้สถานการณ์ทางการเมืองและการเลือกตั้งมีความแน่นอนเสียก่อน จึงเชื่อว่า หากสถานการณ์เหล่านี้มีความชัดเจน การลงทุนจากผู้ลงทุนสถาบันต่างประเทศจะเพิ่มขึ้น” นางภัทรียากล่าว
ส่วนบริษัทจดทะเบียนทั้ง 5 แห่ง ได้แก่ บมจ. เซ็นทรัลพัฒนา บมจ. บีอีซี เวิลด์ บมจ. ธนาคารเกียรตินาคิน บมจ. เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป และบมจ. โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ที่เข้าร่วมงานในครั้งนี้ และได้พบกับผู้จัดการกองทุน แบบ one-on-one ปรากฏว่าได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่อง โดยมีผู้สนใจเข้าฟังการนำเสนอข้อมูลและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมประมาณ 30 -40 บริษัทต่อราย
ทั้งนี้ หลังจากเข้าร่วมงาน CLSA Corporate Access Forum ที่ประเทศสิงคโปร์แล้ว ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะนำบริษัทจดทะเบียนชั้นนำ 12 แห่งไปร่วมให้ข้อมูลที่สิงคโปร์ ลอนดอน และนิวยอร์ค ในงาน “Thailand Corporate Roadshow 2007” ระหว่างวันที่ 27 พ.ค. – 3 มิ.ย. 2550 โดยความร่วมมือของบริษัทหลักทรัพย์ เครดิต สวิส (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อเร่งสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้บริหารระดับสูงของกองทุน ผู้จัดการกองทุน และนักลงทุนสถาบันต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit