กรุงเทพฯ--6 มิ.ย.--เจดับบลิวที พับบลิค รีเลชั่นส์
บริษัท สามมิตรมอเตอร์สแมนูแฟคเจอริงจำกัด (มหาชน) ผู้นำอุตสาหกรรมยานยนต์และขนส่งครบวงจร จับมือพันธมิตรยักษ์ใหญ่อันดับหนึ่งของจีน ‘ซีไอเอ็มซี’ และ ‘ซูมิโตโม คอร์ปอร์เรชั่น’ จากญี่ปุ่น เปิดบริษัท ซีไอเอ็มซี-เอสเอ็มเอ็ม เวฮิเคอร์ ประเทศไทย จำกัด เพื่อดำเนินธุรกิจรถกึ่งพ่วงเพื่อการพาณิชย์สำหรับระบบโลจิสติกส์ ชูจุดเด่นผู้นำอุตสาหกรรมยานยนต์และการขนส่งครบวงจร รองรับไทยเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์เอเชีย เดินหน้าลุยเจาะตลาดอินเตอร์ทั่วภูมิภาคอาเซียน มั่นใจยอดขายเติบโตตามเป้า
นายเชาว์ โพธิ์ศิริสุข ประธานกรรมการ บริษัท สามมิตรมอเตอร์สแมนูแฟคเจอริงจำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทได้แปรสภาพจากบริษัทจำกัดเป็นบริษัทมหาชนเมื่อประมาณเดือนเมษายนที่ผ่านมา เพื่อเตรียมตัวเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ปลายปีนี้ ซึ่งล่าสุดได้เตรียมแผนการตลาดครึ่งปีหลังขยายธุรกิจในส่วนการลงทุนร่วมพันธมิตรกับจีนและญี่ปุ่น โดยบริษัทได้เซ็นสัญญาร่วมทุนกับบริษัท ซีไอเอ็มซี เวฮิเคอร์ กรุ๊ป จำกัด สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านธุรกิจผลิตและจำหน่ายรถกึ่งพ่วง ประเภทต่างๆ รถคอนเทนเนอร์และตู้คอนเทนเนอร์สำหรับการขนย้ายและจัดเก็บ รวมทั้งอุปกรณ์บันไดงวงช้างที่ใช้ในสนามบิน และบริษัท ซูมิโมโต คอร์เปอเรชั่นส์ ผู้ประกอบการธุรกิจเทรดดิ้งทั่วโลกรายใหญ่ของประเทศญี่ปุ่น (world wide trading company) เพื่อร่วมกันเปิดบริษัทภายใต้ชื่อ บริษัท ซีไอเอ็มซี-เอสเอ็มเอ็ม เวฮิเคอร์ ประเทศไทย จำกัด ตั้งโรงงานผลิตที่จังหวัดเพชรบุรีบนเนื้อที่ 120,000 ตารางเมตร ด้วยทุนจดทะเบียนบริษัท 260 ล้านบาท โดยมีสัดส่วนผู้ถือหุ้น ได้แก่ ‘ซีไอเอ็มซี’ 55% ‘สามมิตร’ 35% และ ‘ซูมิโตโม’ 10% จำนวน 2,600,000 หุ้น
มร. หลี่ กุ้ย ผิง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซีไอเอ็มซี เวฮิเคอร์ กรุ๊ป จำกัด สาธารณรัฐประชาชนจีน กล่าวว่า ในเบื้องต้นบริษัทฯร่วมทุนนี้ จะดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับรถกึ่งพ่วงเพื่อการพาณิชย์สำหรับระบบโลจิสติกส์ โดยแบ่งประเภทรถที่จะผลิตเป็น 3 ธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจผลิตรถกึ่งพ่วงทุกชนิด เน้นการผลิตรถกึ่งพ่วงพื้นก้างปลาและรถกึ่งพ่วงพื้นเรียบเป็นหลัก ธุรกิจผลิตรถตู้แห้ง ตู้เก็บความเย็น และตู้เย็น และสุดท้ายในธุรกิจรถบรรทุกขนส่งวัสดุอันตราย น้ำมัน สารเคมี ก๊าซธรรมชาติและก๊าซเหลว เป็นต้น เน้นเจาะตลาดรถกึ่งพ่วงเพื่อการพาณิชย์สำหรับระบบโลจิสติกส์ภายในตลาดภูมิภาคอาเซียนทั้งหมด แบ่งเป็นการทำตลาดภายในประเทศประมาณ 60% และตลาดต่างประเทศ 40% มีกำลังการผลิตทั้งสิ้น 10,000 คันต่อปี มูลค่ารวม 100 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 3,500 ล้านบาท
สำหรับบริษัท ‘ซีไอเอ็มซี’ เป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการผลิตและจำหน่ายรถกึ่งพ่วง ประเภทต่างๆ รถคอนเทนเนอร์และตู้คอนเทนเนอร์สำหรับการขนย้ายและจัดเก็บ รวมทั้งอุปกรณ์บันไดงวงช้าง ที่มีส่วนแบ่งการตลาดในประเทศมากกว่า 30% จากการทำตลาดภายในประเทศทั้งหมด 50% และผลิตเพื่อการส่งออกอีก 50% โดยมีบริษัทแม่ที่เมืองเสิ่นเจิ้น สาธารณรัฐประชาชนจีน และสาขาย่อยในประเทศจีนทั้งหมด 10 แห่ง ในต่างประเทศ 4 แห่ง คือประเทศสหรัฐอเมริกา ประเทศเนเธอแลนด์ ประเทศออสเตรเลีย และล่าสุดที่จังหวัดเพชรบุรี ประเทศไทย
“สาเหตุที่เกิดความร่วมมือในการขยายฐานการผลิตรถพ่วง กึ่งพ่วงและอุปกรณ์คอนเทอเนอร์ในครั้งนี้ เนื่องจากว่าเราได้เล็งเห็นถึงศักยภาพของประเทศไทยที่เป็นศูนย์กลางในด้านคมนาคมขนส่งและระบบโลจิสติกส์ที่มีมาตรฐานในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมกับศักยภาพของ ‘สามมิตร’ ที่มีรูปแบบการดำเนินธุรกิจที่ใกล้เคียงกับบริษัทฯ และมีศักยภาพและความเชี่ยวชาญในการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์และรถบรรทุกประเภทต่างๆ ที่ได้มาตรฐานระดับสากลและผ่านการทดสอบสมรรถภาพด้านต่างๆ รวมทั้งความเป็นผู้นำทางด้านการตลาดของธุรกิจอุตสาหกรรมยานยนต์ของภูมิภาคนี้”
ทางด้าน มร. คาซูฮิซะ โทกาชิ ตำแหน่ง เจ้าหน้าที่อาวุโส บริษัท ซูมิโตโม คอร์ปอร์เรชั่นส์ ประเทศญี่ปุ่น กล่าวว่า บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจหลายด้านอาทิ เทรดดิ้ง การลงทุน การเงิน และอื่นๆ ซึ่งธุรกิจจัดหาวัตถุดิบประเภทเหล็กและโลหะ เป็นหนึ่งในธุรกิจหลักของซูมิโตโม คอร์ปอร์เรชั่น (The company engages in variety of products in aspects of trades, investments, financing and so on. The metal related business in one of the core business of Sumitomo Corporation.) โดยในการร่วมทุนครั้งนี้ได้ดำเนินการจัดหาวัตถุดิบเหล็กและโลหะที่มีคุณภาพดี เพื่อนำมาผลิตรถกึ่งพ่วงเพื่อการพาณิชย์สำหรับระบบโลจิสติกส์ให้กับบริษัทฯ และยังเป็นอีกช่องทางหนึ่งในในการผลักดันผลิตภัณฑ์ของบริษัทร่วมทุนไปสู่ตลาดในระดับสากลต่อไป
“ด้วยศักยภาพความแข็งแกร่งของพันธมิตรหลักทั้ง 3 บริษัท ประกอบกับกลยุทธ์ทิศทางการทำธุรกิจเชิงรุกจะส่งผลให้บริษัท ซีไอเอ็มซี-เอสเอ็มเอ็ม เวฮิเคอร์ ประเทศไทย จำกัด ก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง แข็งแกร่ง และสามารถทำยอดการเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้อย่างแน่นอน” นายเชาว์กล่าวสรุป
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม :
เจดับบลิวที พับบลิค รีเลชั่นส์, เจดับบลิวที ประเทศไทย
คุณประสิทธิ์ กฤษฎาอริยชน (บ๊อบ) โทร. 02-204-8216 มือถือ 081-586-2813 หรือ
คุณวงจันทร์ ตั้งทรงศักดิ์ (จันทร์)
โทร. 02-204-8221 มือถือ 089-127-2089