กรุงเทพฯ--8 พ.ค.--ปภ.
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เตือนประชาชนใน13 จังหวัด ให้ระมัดระวังอันตรายจากพายุดีเปรสชั่น อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม ส่วนการขับขี่รถในช่วงฝนตกหนัก ถนนเปียกลื่น ควรลดความเร็วลงกว่าการขับขี่ในช่วงปกติ เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดอุบัติเหตุ และเพิ่มความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวว่า จากการที่ กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศเตือน ให้ประชาชนทราบถึงสถานการณ์จากพายุดีเปรสชั่นในทะเลอันดามัน ซึ่งมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนตัวเข้าใกล้ภาคเหนือของประเทศไทย ในช่วง 2-3 วันนี้ ทำให้บริเวณด้านตะวันตกตั้งแต่ภาคเหนือลงมาถึงภาคกลางมีฝนตกเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากในบางพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ตาก กำแพงเพชร อุทัยธานี กาญจนบุรี และภาคใต้ฝั่งตะวันตก บริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี ระนอง พังงา และภูเก็ต ดังนั้น กรมป้องกันและบรรเทา สาธารณภัย จึงขอเตือนประชาชนให้ระมัดระวังอันตรายจากน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากที่อาจเกิดขึ้น ในช่วงเวลานี้ โดยเฉพาะประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยดินโคลนถล่ม ควรหมั่นสังเกตสัญญาณ ความเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติ หากพบว่ามีฝนตกหนักติดต่อกัน ระดับน้ำในแหล่งน้ำธรรมชาติเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว น้ำเปลี่ยนสี หรือมีสีขุ่น ให้รีบอพยพขึ้นที่สูงที่ปลอดภัย หากพลัดตกน้ำ หรืออยู่ในน้ำ ให้หาต้นไม้ขนาดใหญ่เกาะไว้ และพยายามปีนขึ้นให้พ้นน้ำ ห้ามว่ายน้ำหนีเพราะอาจกระแทกกับซากต้นไม้ หรือหินที่ไหลมาตามน้ำ อีกทั้งการใช้รถใช้ถนนในช่วงที่ฝนตก จะเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดอุบัติเหตุทางถนนมากขึ้น เนื่องจากสภาพถนนเปียกลื่น ผู้ขับขี่ควร
ลดความเร็วลงให้น้อยกว่าการขับขี่ ในช่วงเวลาปกติ และควรขับรถด้วยเกียร์ต่ำกว่าปกติ 1 เกียร์ จะช่วยให้รถเกาะยึดพื้นถนนดีขึ้น ควรเว้นระยะห่างระหว่างคันหน้า ประมาณ 40-50 เมตร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเบรกขณะถนนลื่น หากมีความจำเป็นต้องขับรถผ่านบริเวณที่ราบเชิงเขาขณะฝนตก ควรเพิ่มความระมัดระวังให้มากขึ้น เพราะอาจมี ก้อนหินและดินถล่มลงมาได้ สุดท้ายนี้ หากประชาชนในพื้นที่ใดประสบความเดือดร้อนจากสาธารณภัย สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วน ปภ. 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยเร่งด่วนต่อไป