มหพันธ์ ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดกระเบื้องคอนกรีต พัฒนากระเบื้องลอนคู่ปราศจากใยหินสำเร็จ

02 Aug 2007

กรุงเทพฯ--2 ส.ค.--มหพันธ์ไฟเบอร์ซีเมนต์

บริษัทฯ วัสดุก่อสร้าง มหพันธ์เปิดตลาดกระเบื้องลอนคู่ ปราศจากใยหิน หวังเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดในประเทศ มั่นใจเร่งส่งออกต่างประเทศ หลังมีประกาศห้ามนำเข้าวัสดุที่มีส่วนผลมใยหิน เชื่อลูกค้าให้การตอบรับ

นาย ปราโมทย์ มงคลธนานนท์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการทั่วไปสายการผลิต LWR บริษัท มหพันธ์ไฟเบอร์ซีเมนต์ จำกัด บริษัทในเครือกลุ่มมหพันธ์ ผู้ผลิตและจำหน่ายกระเบื้องมุงหลังคา ตราห้าห่วง และวัสดุทดแทนไม้ ตราเฌอร่า กล่าวว่า บริษัทฯ ได้ทำการผลิตกระเบื้องลอนคู่ รุ่นปราศจากใยหิน รุ่นใหม่ล่าสุด เพื่อวางจำหน่ายในประเทศ โดยกระเบื้องตราห้าห่วงนี้ ได้รับมาตรฐานการรับรองจากสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุสาหกรรม (มอก.) กระทรวงอุตสาหกรรม เป็นรายแรกของประเทศไทย นอกจากนี้ยังได้รับการรับรองมาตรฐานการทดสอบ BSEN 494 ซึ่งเป็นมาตรฐานการทดสอบเดียวกันกับประเทศอังกฤษ การทดสอบนี้ได้การรับรองจาก กระทรวงวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับจากทุกประเทศทั่วโลก

การพัฒนากระเบื้องลอนคู่ ปราศจากใยหินนี้ ซึ่งเป็นการต่อยอดเทคโนโลยีเดียวจาก การผลิตไม้ฝาสังเคราะห์ ตราเฌอร่า ซึ่ง กลุ่มมหพันธ์ เป็นรายแรกของประเทศไทย ที่ได้นำเทคโนโลยีการผลิตวัสดุก่อสร้างที่ปราศจากใยหินมาใช้ และได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างสูง ทั้งในส่วนผู้ใช้เองและงานโครงการ โดยการพัฒนากระเบื้องลอนคู่ รุ่นปราศจากใยหินนี้ ส่งผลให้คุณภาพของกระเบื้องดีขึ้น ดังนี้ 1. เนื้อกระเบื้อง “ เหนียว “ ไม่แตกง่าย ทำให้ติดตั้งได้ง่ายขึ้น 2. เป็นเทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และ3. สามารถขยายฐานตลาดการส่งออกในต่างประเทศได้กว้างขวางขึ้น ซึ่งบางประเทศห้ามมีการนำเข้าวัสดุที่มีส่วนผสมของใยหิน ทั้งนี้ในปัจจุบัน ทางบริษัท ฯ ได้มีการส่งออกสินค้าไปใน 19 ประเทศทั่วโลกแล้ว ทั้งในทวีปเอเชีย ,ยุโรป ,ออสเตรเลีย และแอฟริกา

นาย ปราโมทย์ กล่าวต่อว่า สำหรับแผนการจำหน่ายกระเบื้องลอนคู่ สี ตราห้าห่วง รุ่นใหม่ ปราศจากใยหินนี้ บริษัทฯ ได้วางแผนการจำหน่ายในต้นปี 2551 โดยผ่านร้านค้าตัวแทนจำหน่าย ตราห้าห่วง 2,000 รายทั่วประเทศ และผ่านงานโครงการทั้งภาครัฐและเอกชน

สำหรับภาวะตลาดกระเบื้องหลังคาไฟเบอร์ซีเมนต์ ในครึ่งปีแรก ของปี 2550 มีการเติบโตติดลบอยู่ประมาณ 28% เมื่อเทียบกับระยะเวลาเดียวกันกับปีที่แล้ว และคาดการณ์ว่า การเติบโตของตลาด ในปีนี้ จะลดลงจากปีที่ผ่านมาอยู่ประมาณ 20% ซึ่งมูลค่าตลาดในปี 2549 รวมอยู่ประมาณ 8,000 ล้านบาท

สำหรับกลุ่มมหพันธ์ แนวทางในการทำตลาดจะทำการรักษาส่วนแบ่งตลาดในกระเบื้องลอนคู่ และลอนเล็ก ไว้ที่ 32% แต่จะมาเร่งการเติบโต ในกระเบื้องไตรลอน อย่างเต็มที่ โดยในครึ่งปีแรกที่ผ่านมา กระเบื้องไตรลอนมีอัตราการเติบโตสูงถึง 150% ซึ่งในปีนี้กระเบื้องไตรลอน ได้ออกรุ่นใหม่ กระเบื้องไตรลอน คูล ตราห้าห่วง โดยมีคุณสมบัติที่สามารถสะท้อนความร้อนได้ 70% และมีการทุ่มงบประมาณการส่งเสริมการขายถึง 45 ล้านบาท เพื่อเป็นการตอกย้ำภาพลักษณ์ ของตราห้าห่วง ในความเป็นผู้นำในด้านหลังคา ภายใต้สโลแกน Style on top และเป็นการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เป็นทางเลือกใหม่ๆ ให้กับผู้บริโภค ในด้านการส่งออก มีการเร่งการขยายตลาด ในประเทศใกล้เคียง ได้แก่ ลาว กัมพูชา พม่า และเวียดนาม

สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net