กัวลาลัมเปอร์--31 ก.ค.--เบอร์นาม่า/เอเชียเน็ท/อินโฟเควสท์
ฐานลูกค้าโทรศัพท์เคลื่อนที่ระดับภูมิภาคช่วงสิ้นสุด ณ เดือนมิถุนายน พ.ศ. 2550 มีจำนวน 31.8 ล้านราย หรือเพิ่มขึ้น 33% จากช่วงเดียวกันของพ.ศ. 2549
บริษัท เทเลคอม มาเลเซีย เบอร์ฮัด (ทีเอ็ม) (Telekom Malaysia Berhad (TM)) เปิดเผยรายได้ในตลาดต่างประเทศช่วงครึ่งแรกของปีพ.ศ. 2550 ว่า ขยายตัวขึ้น 18.9% ซึ่งเป็นรายได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์และน่าประทับใจ โดยรายได้ในตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 2.27 พันล้านริงกิต (1 ดอลลาร์สหรัฐ = 3.46 ริงกิต) จากระดับ 1.91 พันล้านริงกิตในช่วงเดียวกันของปีก่อน รายได้ของบริษัทไม่ได้รับผลกระทบจากค่าเงินริงกิตที่แข็งค่าขึ้น ซึ่งส่งผลให้ตัวเลขหลังการแปลงค่าเงินแล้วลดลง 6.3% แต่รูปแบบการเติบโตยังคงแข็งแกร่ง
บริษัท เทเลคอม มาเลเซีย เป็นผู้นำคลื่นลูกใหม่ในตลาดการสื่อสารโทรคมนาคมเอเชียและมีการเติบโตที่แข็งแกร่ง เนื่องจากฐานผู้สมัครใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ระดับภูมิภาค 31.8 ล้านราย ณ สิ้นสุดเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2550 ขยายตัวขึ้น 33% จากช่วงเดียวกันของพ.ศ. 2549 ขณะที่บริษัทในเครือเป็นผู้นำยอดผู้จดทะเบียน ได้แก่ บริษัท พีที เอ็กซ์เซลโคมินโด พราตามา ทีบีเค ในอินโดนีเซีย มีผู้จดทะเบียนใช้บริการ 10.2 ล้านราย บริษัท ทีเอ็ม อินเตอร์เนชั่นแนล บังคลาเทศ ในบังคลาเทศ มียอดผู้จดทะเบียนใช้บริการ 6.7 ล้านราย และ บริษัท ไดอะล็อก เทเลคอม จำกัด (มหาชน) ในศรีลังกา มีตัวเลขผู้จดทะเบียนใช้บริการ 3.7 ล้านราย
บริษัท เทเลคอม มาเลเซีย ในฐานะบริษัทสื่อสารโทรคมนาคมรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก เปิดเผยว่า การลงทุนในต่างประเทศคิดเป็นสัดส่วน 26% ของรายได้ ทีเอ็ม กรุ๊ป ซึ่งมีรายได้สิ้นสุด ณ เดือนมิถุนายน พ.ศ. 2550 ทั้งหมด 8.5 พันล้านริงกิต ขณะที่ Group PATAMI มีรายได้คิดเป็น 26% โดยทั้งสองกลุ่มมีรายได้ ณ สิ้นสุดเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2550 คิดเป็น 24% และ 29% ตามลำดับ
"เนื่องด้วยการปฏิบัติงานในประเทศแถบเอเชีย 9 ประเทศ การปฏิบัติงานในต่างประเทศยังคงสร้างรายได้ให้บริษัทอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากความมุ่งมั่นพยายามของเราในการใช้ซินเนอร์จีและการขยายมูลค่าจากการลงทุนของบริษัท" นาย ยูซอฟ อันเนอร์ ยะโก๊บ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารระดับสูง (ซีอีโอ) ของ ทีเอ็ม อินเตอร์เนชั่นแนล เอสดีเอ็น บีเอชดี ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของทีเอ็มที่รับผิดชอบด้านการลงทุนในต่างประเทศ กล่าว "การใช้จ่ายด้านทุนในต่างประเทศช่วงครึ่งแรกของปีนี้คิดเป็นมูลค่ารวม 1.84 พันล้านริงกิต นับว่าเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 2 เท่า โดยได้แรงผลักดันจากเครือข่าย Page ที่แข็งแกร่งถึง 2 ใน 3 ของการขยายตัวในประเทศอินโดนีเซียและบังคลาเทศ" นาย ยูซอฟ กล่าว และแผนการณ์การใช้จ่ายด้านทุนสำหรับการลงทุนในต่างประเทศตลอดทั้งปีพ.ศ. 2550 จะอยู่ที่ระดับ 4.9 พันล้านริงกิต
บริษัท เทเลคอม มาเลเซีย มีสำนักงานใหญ่อยู่ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย โดยบริษัทดำเนินธุรกิจด้านโทรศัพท์มือถือในเอเชียซึ่งครอบคลุมถึงการถือหุ้นในบริษัทพีที เอ็กซ์เซลโคมินโด พราตามา ทีบีเค ในอินโดนีเซีย (67.02%) บริษัท ทีเอ็ม อินเตอร์เนชั่นแนล (บังคลาเทศ) จำกัด ในบังคลาเทศ (70%) บริษัทไดอะล็อก เทเลคอม จำกัด ในศรีลังกา(85.72%) บริษัท สไปซ์ คอมมูนิเคชั่นส์ จำกัด ในอินเดีย (39.2%) บริษัทโมบายวัน จำกัด ในสิงคโปร์ (29.71% ผ่านทางบริษัทซันแชร์ อินเวสเมนเมนท์) บริษัทเทเลคอม มาเลเซีย อินเตอร์เนชั่นแนล แคมโบเดีย คอมพานี จำกัด ในกัมพูชา(100%)และบริษัท โมบาย เทเลคอมมูนิเคชั่นส์ คอมพานี ออฟ เอสฟาฮานในอิหร่าน(49%) นอกจากนี้ เทเลคอม มาเลเซียยังมีหุ้นอยู่ในบริษัทมัลติเน็ท ปากีสถาน(ไพรเวท) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทนอกกลุ่มโทรศัพท์มือถือในปากีสถาน(89%)บริษัทสามารถ ไอโมบายล์ คอมพานี จำกัด (24.42%) และบริษัทสามารถ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ในประเทศไทย(18.98%)
นายยูซอฟ กล่าวว่า จากการที่บริษัทมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาด้านการลงทุนในต่างประเทศเป็นหลักช่วงครึ่งปีแรกของปี 2550 ด้วยการดำเนินงานของบริษัทสไปซ์ คอมมูนิเคชั่น ที่ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามในตลาดหุ้นอินเดียในเดือนมิ.ย.นี้ได้ทำให้เห็นว่า บริษัทเทเลคอม มาเลเซียมีมูลค่าการลงทุนเบื้องต้นในบริษัทเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า จากจำนวนการเข้าร่วมลงทุนอย่างท่วมท้นถึง 38 ครั้งทำให้ขณะนี้ บริษัทมีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
นอกจากนี้ บริษัทยังมุ่งเน้นในเรื่องอื่นๆ ซึ่งรวมถึงการเปิดตัวบริษัทในฐานะที่เป็นบริษัทลงทุนด้านโทรคมนาคมรายใหญ่ที่สุดในศรีลังกา ซึ่งบริษัทได้ลงนามในแผนการลงทุนในศรีลังกาไป 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วง 2 ปีข้างหน้า ผ่านการเจรจาของบริษัทในเครือ โดยการเจรจาครั้งนี้ถือเป็นก้าวแรกสำหรับการดำเนินธุรกิจในเอเชียใต้ ด้วยการใช้บริการเครือข่ายเซลลูลาร์ บรอด์แบรนด์ โทรทัศน์ผ่านดาวเทียม และเครือข่ายไร้สายพื้นฐาน
ในปี 2550 เทเลคอม มาเลเซีย จะปรับใช้ยุทธศาสตร์ 2 ประการ ประการแรกคือการเสริมสร้างความแข็งแกร่งในฐานะผู้นำตลาดในระดับภูมิภาค ประการที่สองคือ การศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับโอกาสทางการค้าใหม่ๆทั้งหมดในเอเชีย ซึ่งมุ่งเน้นที่ตลาดอินโดจีน เพื่อขยายรากฐานทางธุรกิจของบริษัทในภูมิภาค โดยนายยูซอฟ กล่าวว่า "เราจะให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจที่ทรงพลังของภูมิภาคอินโดจีน เนื่องจากภาคธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคมของตลาดกลุ่มนี้มีศักยภาพการเติบโตสูงมาก"
เกี่ยวกับบริษัท เทเลคอม มาเลเซีย เบอร์ฮัด (ทีเอ็ม)
เทเลคอม มาเลเซีย เป็นผู้ให้บริการด้านการสื่อสารในเอเชีย ด้วยการนำเสนอบริการสื่อสารที่ครอบคลุมและโซลูชั่นบริการโทรศัพท์พื้นฐาน โทรศัพท์มือถือ ข้อมูล และบริการสื่อสารบรอดแบนด์ โดยทีเอ็มเป็นบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในมาเลเซีย โดยมีมูลค่าการลงทุนในตลาดที่ 3.709 หมื่นล้านริงกิต (1.06 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งบริษัทนำเสนอมูลค่าแก่ผู้ถือหุ้นด้วยบรรยากาศการแข่งขันในระดับสูง
บริษัทยืนยันการเพิ่มคุณภาพการบริการลูกค้าและนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันบริษัทมีการลงทุนและดำเนินงานใน 13 ประเทศทั่วเอเชียและทั่วโลก เทเลคอม มาเลเซีย มุ่งเน้นการเติบโตอย่างยั่งยืนทั้งตลาดภายในประเทศและต่างประเทศ
เทเลคอม มาเลเซีย มีรายได้จากตลาดหลักๆ 9 ประเทศในเอเชีย ได้แก่ อินโดนีเซีย สิงคโปร์ กัมพูชา ไทย บังคลาเทศ ปากีสถาน อินเดีย ศรีลังกา และอิหร่าน ซึ่งบริหารงานโดยเทเลคอม มาเลเซีย อินเตอร์เนชั่นแนล บริษัทโฮลดิ้งในเครือที่ทำธุรกิจด้านการลงทุนในระดับนานาชาติ บริษัทมีสถิติในการเพิ่มมูลค่าแก่การลงทุนของบริษัท รวมทั้งทำงานอย่างใกล้ชิดกับบริษัทในเครือเพื่อที่จะบรรลุจุดยืนที่แข็งแกร่งและผลกำไร
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริษัทเทเลคอม มาเลเซีย กรุณาเยี่ยมชมที่เว็บไซต์ www.tm.com.my
แหล่งข่าว: เทเลคอม มาเลเซีย เบอร์ฮัด
ข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
ชื่อ: นูราซมา
โทร: +603-22402768
อีเมล์: [email protected]
--เผยแพร่โดย เอเชียเน็ท ( www.asianetnews.net )--
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit