เรื่องย่อ หอแต๋วแตก

29 Jan 2007

กรุงเทพฯ--29 ม.ค.--ไฟว์สตาร์ โปรดักชั่น

ความสนุกกำลังจะเกิดขึ้นเมื่อ หมอผีอินเตอร์ถูกอิมพอร์ต

มาปราบผีสาวคลิปวีดีโอฉาวและผีกระเทยไฮโซ

ที่หอพักชายของสามสาวกระเทยรุ่นใหญ่

อุ๊ย! ... ว้าย!...ต๊าย!...แต๋วกลัวฮ่าา !!!!!!

ไฟว์สตาร์โปรดักชั่น

ภูมิใจเสนอ

ภาพยนตร์ โดย พจน์ อานนท์

ครั้งแรก กับการรับบทผีสาว คลิปวีดีโอฉาวของ เป้ย ปานวาด เหมมณี

ครั้งแรกกับ บทสาวทอม ของ สุคนธวา เกิดนิมิตร

ครั้งแรก กับการรับบท กระเทยของ เอกชัย ศรีวิชัย อ.ยิ่งศักดิ์ จงเลิศเจษฎาวงศ์

ร่วมด้วยจตุรงค์ พลบูรณ์( ม๊กจ๊ก) โก๊ะตี๋ อารามบอย และเด็กหอรอแจ้งเกิด อาทิ

วีรดิษฐ์ ศรีมาลัย, รัชชานนท์ สุขประกอบ, ธนากร ใจปินตา, เกรียงศักดิ์ ณ เชียงใหม่, ชัยวัฒน์ ทองแสง และ ศิววัชร์ ทรัพย์ภิญโญ

ทีมนักแสดง

ปานวาด เหมมณี

รับบทเป็น น้ำนิ่ง

สุคนธวา เกิดนิมิตร

รับบทเป็น ข้าวตู

เอกชัย ศรีวิชัย

รับบทเป็น มดดำ

อ.ยิ่งศักดิ์ จงเลิศเจษฎาวงศ์ รับบทเป็น การ์ตูน

จตุรงค์ มกจ๊ก

รับบทเป็น เจ๊แต๋ว

โก๊ะตี๋

อารามบอย รับบทเป็น แพนเค้ก

วีรดิษฐ์ ศรีมาลัย

รับบทเป็น นะโม

รัชชานนท์ สุขประกอบ รับบทเป็น กาย

ธนากร ใจปินตา

รับบทเป็น เกี๊ยว

ศิววัชร์ ทรัพย์ภิญโญ รับบทเป็น ซิม

ทีมผู้สร้าง

ผู้กำกับ

พจน์ อานนท์

บทภาพยนตร์

พจน์ อานนท์

ผู้อำนวยการสร้าง เจริญ เอี่ยมพึ่งพร

อำนวยการผลิต

อภิรดี เอี่ยมพึ่งพร , เกียรติกมล เอี่ยมพึ่งพร

กำกับภาพ

ปัญญา นิ่มเจริญพงษ์

กำกับศิลป์

กิตติชาติ ใจสบาย , พงศกร ชัยลอม , จิราวรรณ เชื้อโพล้ง

ลำดับภาพ

สุนิตย์ อัศวนิกุล , เหมือนฝัน อุปถัมภ์

คัดเลือกนักแสดง

พจน์ อานนท์

ออกแบบเครื่องแต่งกาย พจน์ อานนท์ , ทิณกร แสงศรี

ดนตรีประกอบ

Giant Wave

เพลงประกอบ

Giant Wave

เรื่องย่อ

สามกระเทยรุ่นใหญ่ อดีตเจ้าของค่ายมวยแต่โดนโกง เลยมาร่วมลงทุนสร้างหอพักชายแต่แล้วเกิดมีคนมาตายในหอ กลายเป็นผีออกอาละวาด เขาทั้งสามจะจัดการอย่างไร ก่อนที่ผู้เช่าจะย้ายออกไปหมด

สถานที่ถ่ายทำ

ในส่วนของสถานที่ถ่ายทำของหนังเรื่องนี้ เนื่องจากเป็นหนังที่รวบรวมเรื่องราวแสนฮาของกระเทยที่มีผีมาเกี่ยวข้อง แล้วยังไปเกิดในหอพักชายอีกด้วย เพื่อให้เรื่องราวสมจริง ทางทีมงานจึงต้องสรรหาบรรยากาศของหอพักที่เราจะเลือกตั้งหลักถ่ายทำกันให้ฮาหอแตก ในที่สุดเราก็ได้ หอพักซอยอินทามระ 22 และ หอพักรังสิตคลอง 4 ที่มีบรรยากาศเข้าตากรรมการ เหมาะแก่การจะให้ผีออกมาหลอกหลอนเหล่ากระเทยและหนุ่มๆ จนหอแตก ฮาหลุดโลก

นอกจากฉากในหอพักที่เหล่าพลพรรคจะต้องวิ่งหนีผีกันแล้ว ยังมีฉากใหญ่ๆ ที่ต้องยกกองไปถ่ายทำกันที่ จังหวัดสุพรรณบุรีซึ่งเป็นฉากที่ถือว่าหิน เมื่อนักแสดงสาวต้องรับบทเป็นศพลงไปนอน ในหลุม จะเป็นสาวคนไหนอย่าพลาดชมในหนัง และในจังหวัดเดียวกัน แต่คนละสถานที่ซึ่งเป็นฉากที่ มดดำ (เอกชัย) ไปดูคอนเสิร์ตและเกือบถูกกลุ่มผู้ชายล่อลวงไปทำมิดีมิร้าย มาให้ผู้ชมได้ฮาปนทึ่งกันแบบลืมหยุดพัก ต้องคอยดูกันว่าฉากที่ทีมงานเสาะหามาใส่ในภาพยนตร์เรื่อง หอแต๋วแตกนี้ จะสร้างความสนุกให้กับผู้ชมขนาดไหน...

เบื้องหลังการถ่ายทำภาพยนตร์

ผู้เขียนบทและผู้กำกับภาพยนตร์ พจน์ อานนท์ เล่าย้อนไปถึงแรงบรรดาลใจในการสร้างภาพยนตร์เรื่องหอแต๋วแตก ว่า “เมื่อ 10 ปีที่แล้วผมก็ทำเรื่องสติแตกตอน พ.ศ 2539 พอมาปีนี้ปี 2549 ก็ 10 ปีพอดีผมก็ทำเรื่องหอแต๋วแตกอีกที สำหรับหนังเรื่องนี้ เป็นหนังตลก มีผี มีกระเทย มีวัยรุ่น ไม่ใช่หนังกระเทย เป็นหนังที่ดูได้ทั้งครอบครัว ทุกเพศทุกวัย ”

ภาพยนตร์เรื่องนี้กำเนิดมาจากแนวคิดที่จะมอบความสนุกสนานตลก ตามสไตล์ พจน์ อานนท์ ด้วยการนำกระเทย 3 คน มาพบกับเรื่องราวลึกลับชวนปวดหัวปนฮาแตก อะไรจะเกิดขึ้นถ้ากระเทยกับผีมาเจอกันยิ่งไปกว่านั้น ตัวนักแสดงเองต้องพลิกบทบาทมาสวมคาแรกเตอร์ ตามที่ผู้กำกับต้องการ เพื่อให้ผู้ชมได้รับอรรถรสในการชมจริงๆ “เนื้อเรื่องยังมีแง่มุมเจ็บๆ ขำๆ ให้คนดูได้รู้ความเป็นมาของเรื่องราว ให้ทุกตัวละครจะถ่ายทอดอารมณ์สนุก เศร้า เฮฮา ให้ออกมาอย่างกลมกล่อม”

ทางด้านการคัดเลือกตัวนักแสดง สาเหตุที่เลือก จตุรงค์ ม๊กจ๊ก,เอกชัย ศรีวิชัย และอ.ยิ่งศักดิ์ จงเลิศเจษฎาวงศ์ มารับบท 3 กระเทยเพื่อนซี้ ทางผู้กำกับ พจน์ อานนท์ เปิดเผยว่า “...เพราะมันเป็นจุดขายที่แข็งแรงมาก กับการที่จับพี่เอกมาเล่นเป็นกระเทย แล้วคงไม่มีใครคิดด้วยว่าเค้าจะยอมมาเล่นเป็นกระเทย ส่วนอ.ยิ่งศักดิ์ ภาพเขาชัดอยู่แล้ว กับการเป็นพ่อครัว แม่ครัว ในการทำอาหาร แต่ยังไม่มีใครจับเค้ามาทำให้จริงจัง ยิ่งจตุรงค์ขานั้นของตายต้องเอามาให้ได้...”

อีก 2 บทบาทที่สำคัญไม่แพ้กัน คือ บทผีสาวและผีกระเทยได้นักแสดงมากฝีมืออย่างเป้ย -ปานวาด เหมมณี ทิ้งมาดนางร้ายสุดเซ็กซี่มารับบทหญิงสาวแสนซื่อ ที่ความตายทำให้เธอกลายเป็นผีร้ายจอมอาฆาต ส่วนบทผีกระเทย คงไม่มีใครเหมาะสมเท่า โก๊ะตี๋ อารามบอย ที่จะมาเล่นบทผีกระเทยที่ดูยังไง้ ยังไงก็ไม่น่ากลัว

และที่จะเรียกเสียงกรี๊ดจากผู้ชมสาวแท้ สาวเทียม ได้อย่างลั่นโรงภาพยนตร์ คงต้องยกให้กับขบวนหนุ่มๆ นักแสดงหน้าใหม่เด็กปั้นที่พจน์ อานนท์หวังให้แจ้งเกิดจากหนังเรื่องนี้ ที่จะมาร่วมป่วนชวนกระตุกต่อมฮา ยังไม่รวมบรรดาหมอผีจอมขมังเวทย์ผู้ที่จะหาวิธีมาต่อกรรับผีร้ายในหอพัก ความพิเศษอีกส่วนหนึ่งของภาพยนตร์ เรื่องนี้ก็คือ ในฐานะนักร้องชื่อดัง เอกชัย ศรีวิชัย ขอเป็นครูสอนเหล่านักแสดงนำร้องเพลงประกอบภาพยนตร์ เรื่องนี้เองด้วย คงไม่ต้องพูดถึงความสนุกที่จะเกิดขึ้นในหอฮาแตกแห่งนี้อีกแล้ว ไม่อยากให้ผู้ชมพลาดหนังไทยที่ไม่ได้นำเสนอแค่ความฮา ใน “หอแต๋วแตก”

เทคนิคพิเศษต่างๆในภาพยนตร์

แม้ว่าจะเป็นภาพยนตร์ ตลก กระตุกต่อมฮา ไม่ได้มีการใช้ สเปเชียล เอ็ฟเฟ็คต์มากมายนัก ก็ยังมีส่วนสำคัญที่ต้องพูดถึงก่อนอื่นใดคือ เรื่องการ แต่งหน้า เพราะเป็นส่วนที่ ต้องใช้เทคนิค ความชำนาญเฉพาะทาง เพื่อจะมาแต้มสีสัน ให้ สามกระเทยรุ่นใหญ่ และ ผีสาว โดยได้ช่างแต่งหน้ามืออาชีพที่ผ่านผลงานหลากหลาย อาทิ สุริโยทัย,ทวิภพ,โรงแรมผี,ฟอร์มาลีน แมนและหนังต่างประเทศอื่นๆ มาเป็นที่ปรึกษาใหญ่ ช่วยเนรมิตให้นักแสดงในเรื่องได้สวมบทบาทอย่างสมจริง ที่สำคัญ 3 สาวกระเทยเพื่อนรักต้องประชันกันทั้ง เสื้อผ้า หน้าผมสุดฤทธิ์ ซึ่งพจน์ อานนท์เล่าถึงการแต่งหน้าของ 3 สาวกระเทยเพื่อนซี้ให้ฟังว่า “ คอนเซ็ปต์ในการแต่งหน้าแต่ละคน ต้องแต่งตามคาแรกเตอร์ของเขา ตามชุดที่เขาใส่ อย่างถ้าเป็นพี่เอกเนี่ย เขาเป็นสาวเปรี้ยว ก็ต้องเน้นสีฉูดฉาดหน่อย ส่วนอ.ยิ่งศักดิ์ เขาอยากได้สีม่วงมาก รีเควซมาเองเลย คิดว่าน่าจะเหมาะกับตัวอาจารย์ สำหรับ พี่รงค์ เป็นแนวเฉิ่มๆ เป็นคนจีน ก็จะเน้นที่อายไลเนอร์ แล้วก็แต่งปากให้จัดหน่อย การแต่งหน้าจะไม่เน้นโอเว่อร์ แต่จะเน้นที่มีสีสันฉูดฉาดนิดนึง” ช่างแต่งหน้าแอบเม้าท์มาว่าเรื่องแต่งหน้าน่ะไม่ยากหรอกเพราะโครงหน้ากลมเหมือนกัน แต่ขอบอกว่า 3 คนนี้ใช้แป้งรองพื้นเปลืองมากเพราะพื้นที่บนหน้าแต่ละคนมันเยอะค่าาา...

ทางด้านงานเมคอัพ ที่ท้าทายไม่แพ้งานอื่น คือ การแต่งหน้าผีให้ โก๊ะตี๋ และเป้ย ต้องใช้ แป้งงิ้วที่ใช้สำหรับการแต่งหน้านักแสดงงิ้ว ลงให้ทั่วทั้งตัว แป้งงิ้วไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ นักแสดงจึงไม่แพ้ มันเป็นครีม ต้องลงที่ตัวเหมือนทาแป้งเลย เวลาทาก็ผสมออยล์ลงไปเล็กน้อย เพราะว่าแป้งมันเหนียวมาก จะทำให้ทาง่ายขึ้น ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงก็จะได้ผีสำเร็จรูป พร้อมที่จะออกไปหลอกหลอนสมาชิกชาวหอ ระวังให้ดีผีมาแว้วววว......

“ชุดที่ภูมิใจนำเสนอมากเลย คือชุดปราบผี ของสามกระเทย เราอาจจะเคยเห็นชุดหมอผีมามากมายหลายแบบแล้ว แต่โจทย์ของเราคือหมอผีกระเทยเป็นหมอผีนานาชาติ แต่จะเป็นชาติไหนบ้างนั้น ต้องมาตามดูในหนัง”

เทคนิคทางด้านภาพ ได้ปัญญา นิ่มเจริญพงษ์ ผู้กำกับภาพชั้นนำที่เคยรับรางวัลจากภาพยนตร์หลายเรื่อง มาดูแลในส่วนนี้ เนื่องจากการกำกับในแบบพจน์ อานนท์ ใช้ความสดในการนำเสนอเรื่องของมุมกล้องต่างๆ คุณปัญญาจึงเฟ้นหามุมกล้องที่จะนำเสนอเรื่องราวได้ดีที่สุดออกมาอยู่เสมอ ซึ่งผู้กำกับภาพเล่าถึงการทำงานด้วยน้ำเสียงอย่างสนุกว่า “ทำงานยากเหมือนกัน ที่ยากเพราะมัวแต่หัวเราะเวลาทำงาน และเราก็ต้องทำงานกับนักแสดงที่อารมณ์ดีหลายคน และยังสามารถเพิ่มเติมบทพูดให้ตลกยิ่งขึ้นได้เสมอ ซึ่งเกิดขึ้นบ่อยมาก สนุกมากครับกับการกำกับภาพหนังเรื่องนี้”

ฝ่ายเสื้อผ้า คอสตูม ดีไซเนอร์ ของเรื่อง เปิดเผยว่า “การที่พวกพี่เขายอมลงทุนมารับบทบาท ที่ไม่เคยเล่นขนาดนี้ ฝ่ายเสื้อผ้า ก็ต้องทำงานหนักเป็นธรรมดา แน่นอนที่ต้องคัดสรรเสื้อผ้ามาอย่างดี ให้ดูโดดเด่น และมีสีสัน สะดุดตา ซึ่งเรื่องนี้ ผู้กำกับ ก็มีส่วนอย่างมาก ในการมาร่วมคัดสรร เป็นเป็นงานที่ถนัด” “ชุดที่เลือกมานี่ ไม่ใช่จะเน้นแต่เรื่องของสีสันนะ แต่เราต้องเลือกให้เหมาะกับคาแรคเตอร์ ของแต่ละคนด้วย ต้องดีไซน์ชุดให้เหมาะกับเขา ใช้เวลาคิดวันเดียวแต่เตรียมงานนานเหมือนกัน ”

“ส่วนเทคนิคคอมพิวเตอร์ กราฟฟิค ต่างๆ ก็ใช้บ้าง แต่ก็ไม่ได้ใช้มากมาย เหมือนหนังผีทั่วไป เพราะเราเน้นความฮา ความสดที่เกิดขึ้นในกองมากกว่า “

ติดตามภาพยนตร์ฮาแบบไม่ธรรมดาที่จะทำให้คุณได้ขำจนขากรรไกรค้าง ผ่านเบื้องหลังการทำงานของทีมงานคุณภาพระดับมืออาชีพร่วมด้วยนักแสดงมากฝีมือ ที่พร้อมใจกันพลิกบทบาทมาแสดงในหนังเรื่องนี้ นับเป็นหนังตลกคับความฮา สำหรับผู้ที่ชื่นชอบหนังในแบบของพจน์ อานนท์และคนไทยผู้รักเสียงหัวเราะ.....ไม่ควรพลาด!!!!!

เกี่ยวกับพจน์ อานนท์

พจน์ อานนท์ ก้าวเข้าสู่วงการบันเทิงโดยการเริ่มเป็นผู้จัดการฝ่ายขายโฆษณาให้กับนิตยสาร เธอกับฉัน และจากนั้นก็ขยับขึ้นมาเป็นบรรณาธิการในปี 2530 ด้วยความสามารถที่หาตัวจับยากของ พจน์ ทำให้เขาสามารถทำให้นิตยสารเธอกับฉันได้รับความนิยมและเป็นที่รู้จักมากที่สุด แล้วยังเป็นผู้ก่อตั้งนิตยสารสำหรับวัยรุ่นอีกหลายฉบับ

นอกจากนี้ยังเป็นที่รู้กันในหมู่หนุ่มสาวผู้ที่อยากจะเข้ามาสู่วงการบันเทิงว่า พจน์เป็นนักปั้นมือทองเป็นแมวมองระดับชาติ แจ้งเกิดให้กับดารานักร้องวัยรุ่นในวงการบันเทิงเมืองไทยมากมาย

ทางด้านวงการภาพยนตร์ เขาเริ่มเข้าสู่วงการภาพยนตร์ด้วยการเป็นผู้ช่วยผู้กำกับภาพยนตร์เรื่อง สะแด่วแห้ว(2535) ของค่ายไฟว์สตาร์ ซึ่งเป็นภาพยนตร์ที่ได้รับความนิยมมากในหมู่วัยรุ่น ต่อมาในปี 2538 ก็ก้าวขึ้นมา ในฐานะผู้กำกับเต็มตัว กำกับ เรื่องสติแตก สุดขั้วโลก เป็นเรื่องแรก ซึ่งได้สร้างชื่อเสียงและทำให้พจน์ อานนท์เป็นที่รู้จักในวงการภาพยนตร์ไทย และมีภาพยนตร์เรื่องอื่นตามมาอีก อาทิ โกซิกโกหก ปิ้นปล้อน กระล่อน ตอแหล ,18 ฝนคนอันตราย ,ว้ายบึ้มเชียร์กระหึ่มโลก ,ปล้นนะยะ, หอแต๋วแตก และที่กำลังจะตามมาคือเรื่องเพื่อน

เกี่ยวกับนักแสดง

เป้ย-ปานวาด เหมมณี “..จากการที่พี่พจน์ เขาอยากได้ความสด หนังเรื่องนี้ก็เลยมีการเพิ่มบท ปรับบทให้เข้ากับมุขที่เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา....”

นักแสดงสาว ที่คุ้นหน้าทางจอโทรทัศน์ ผลงานภาพยนตร์เรื่องนี้ เป็นเรื่องที่สอง หลังจากที่เธอได้มีโอกาสร่วมแสดงในภาพยนตร์ เรื่อง บางกอกแดนเจอรัสที่มี นิโคลาส เคจนำแสดง ในเรื่องนี้ เป้ยรับบทเป็น น้ำนิ่ง ผีสาวที่ถูกฆ่าตายในหอพัก ต้นเหตุแห่งความอลหม่าน

“.. ปกติเป้ยเป็นคนที่กลัวผีมาก แต่ที่รับเล่นเรื่องนี้เพราะเป็นหนังของพี่พจน์ อานนท์ ตัวเรื่องน่าสนใจ ดูบทแล้วสนุกต้องเล่นให้ได้ ในหนังเรื่องนี้ยังพลิกบทบาท ในละครจะเป็นคนร้ายวีนแว้ดๆ แต่เรื่องนี้เรียบร้อยมากพลิกบทบาทจากร้ายแบบเซ็กซี่ มาเล่นบทชีวิตแบบดราม่า ในเรื่องเป้ยรับบทเป็นน้ำนิ่ง เป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่เกิดอุบัติเหตุทำให้เสียชีวิต เป็นวิญญาณกลับมาแก้แค้นแล้วมาสิงอยู่ในร่างของโก๊ะตี๋ บทจะเป็นดราม่ามากๆ แต่เราต้องมาเล่นกับพี่ๆ ตลก ซึ่งแต่ละคนจะเล่นบทตลกในเรื่องนี้ แล้วเราดราม่าคนเดียว ตอนที่ถ่าย ก็มีหลุดบ้างตอนเข้าฉาก.. เพราะกั้นหัวเราะไม่อยู่”

“...จากการที่พี่พจน์ เขาอยากได้ความสด หนังเรื่องนี้ ก็เลยมีการเพิ่มบท ปรับบทให้เข้ากับมุขที่เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา จนดูเหมือนว่า เล่นหนังแบบไม่มีบท เป้ยก็ได้พี่พจน์คอยบอกว่าให้พูดประมาณนี้ แต่เป้ยชอบนะ แบบนี้มันจะได้ความสด ได้ความเป็นธรรมชาติ มันดีนะ แต่ก็ยากตรงที่ว่า เราต้องจำให้ได้นะว่าเราพูดไปเป็นยังไง เพราะถ้าเรามาถ่ายอีกครั้งนึง มันจะไม่ต่อเนื่อง สมาธิต้องมาเป็นอันดับหนึ่งเลย...

“...ความคิดของเป้ยต่อกระเทยรู้สึกว่า พวกนี้เขาจะมีไอเดียบรรเจิดมากๆ ทุกอย่างที่เขาคิด อารมณ์ของเขาในการสร้างเสียงหัวเราะ หรือคำพูดอะไรก็แล้วแต่ บางทีเรายังเอามาเลียนแบบเลย เป้ยชอบที่จะอยู่กับพวกพี่ๆ เค้านะ.”

ใหม่-สุคนธวา เกิดนิมิตร “.....นึกกันไม่ออกเลยว่าพอแต่งเป็นทอม แล้วจะออกมายังไง แต่พอแต่งตัวเสร็จแล้วลองเล่นให้เขาดู ทุกคนดีดนิ้ว ใช่เลย เป็นอย่างที่เขาต้องการ เราก็ภูมิใจ ...”

ดาราที่กำลังมาแรง ทาง ช่อง 7 สี ภาพยนตร์ เรื่องนี้ เป็นผลงานเรื่องที่สองของเธอ รับบทเป็น ข้าวตู ทอมสาวแอบเซ็กซี่

“....ในเรื่องหอแต๋วแตก รับบทเป็นข้าวตู สาวเสิร์ฟ หลานสาวของอ.ยิ่งศักดิ์ คาแรกเตอร์ก็จะเป็นแบบแก่น เซี้ยว เปรี้ยว ซ่าส์ เซอร์ๆ เหมือนกับว่าเวลาใครมาจีบเรา เราจะเต๊ะใส่ ทำแบบห้าวๆ แต่ความจริงแล้วเราแอบชอบพระเอกอยู่เหมือนกัน ซึ่งตลกดีไม่เคยเล่น พอพี่พจน์ยื่นบทมาให้เล่นก็เล่นเลย..”

“...ในเรื่องนี้จะเห็นใหม่เปลี่ยนไป คาแรกเตอร์ภายนอกก็ต่างแล้ว ปกติไม่ว่าทางการแสดง หรือถ่ายแบบ ก็จะออกมาในแนวเซ็กซี่ แต่เรื่องนี้ ผมก็เป็นผู้ชายแล้ว ใส่เสื้อเชิ้ตตัวใหญ่ๆ ใส่กางเกงยีนส์ รองเท้าผ้าใบ ไม่เคยมีเรื่องไหนแต่งตัวแบบนี้เลย หรือแม้แต่การพูดจามึงมาพาโวย ได้เป็นทอม ซึ่งหายาก แตกต่าง มันท้าทายดี คงแปลก ใหม่คิดว่าถ้าเรื่องนี้ออกฉายไป ต้องมีสาวมากรี๊ดใหม่แน่นอน เพราะรู้สึกตัวเองหล่อ...

ถามว่าถนัดไหมกับบทแบบนี้ ไม่ถนัดหรอกค่ะ เพราะจริงๆ แล้วก็เป็นผู้หญิงนี่แหละค่ะ แล้วมันค่อนข้างที่จะต้องทำการบ้านมากนะ เวลาเป็นข้าวตูที่เป็นทอมเนี่ย ต้องกดเสียงให้มันต่ำๆ แล้วต้องพยายามเดินไม่ให้เซ็กซี่ ไม่เดินทิ้งสะโพก ต้องหัดเดินให้มันห้าวๆ ก่อนเข้าฉากใหม่จะพยายามเป็นตัวข้าวตูก่อนเลยสักประมาณ 5 นาที เราจะได้รู้สึกสมบทบาท...”

“...สำหรับความรู้สึกที่ได้ร่วมงานกับพี่พจน์ รู้สึกดีใจมากๆ ที่ฝันเป็นจริง อยากร่วมงานกับพี่พจน์ อานนท์ ตอนเป็นเด็ก ก็มีคนบอกว่าให้ไปเดินแถวสยาม จะได้เจอพี่พจน์ ก็ไปเดิน และได้เจอพี่พจน์ แต่พี่พจน์ไม่มองเราเลย เราอุตส่าห์เดินเอาไหล่ไปเฉียดๆ พี่พจน์ยังไม่มองเราเลย เราก็เลยไปประกวดดัชชี่ดีกว่า พอวันนี้พี่พจน์ยื่นบทมาให้ใหม่ ใหม่ไม่ต้องคิดเลย ใหม่รับเลย พี่พจน์น่ารักและใจดี กว่าที่ทุกคนคิดมาก อยากร่วมงานกับพี่พจน์อีก ไม่ใช่เรื่องนี้เรื่องสุดท้าย...”

“...ชอบนะกับบทแบบนี้ จริงๆ ก็ชอบทุกบท เพราะเราเป็นนักแสดง แต่ถามว่ามันแปลกมั้ย มันแปลก และไม่มีใครคิดว่าใหม่จะเล่นได้ พอมาถึงกอง ทุกคนคิดว่าใหม่จะเล่นได้เหรอ นึกกันไม่ออกเลยว่าพอแต่งเป็นทอม แล้วจะออกมายังไง แต่พอแต่งตัวเสร็จแล้วลองเล่นให้เขาดู ทุกคนดีดนิ้ว ใช่เลย เป็นอย่างที่เขาต้องการ เราก็ภูมิใจ ...”

เอก-เอกชัย ศรีวิชัย “.....ถ้าผู้ชายวิ่งหนีผี มันคงไม่ค่อยขำมั้ง แต่กระเทยวิ่งหนีผีมันขำกว่า...”

นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง ที่ยอมมารับบท เป็นกระเทย ครั้งแรกในชีวิตการแสดง รับบทเป็น มดดำ สวยเฉี่ยว เปรี้ยว ซ่าส์ คือฉันเอง

“....ที่รับงานนี้เพราะ ผมปลื้มพจน์ อานนท์ อยากทำงานด้วย อยู่แล้ว รู้สึกว่า พจน์เนี่ยไม่น่าธรรมดา น่าจะมีอะไรที่พิเศษที่เขาเป็นแบบนี้ ก็ประทับใจในตัวเขา อย่างที่สอง เห็นว่าเป็นหนังตลก ตัวผมเองเนี่ยก็เป็นคนตลกๆอยู่แล้ว ก็อยากเล่นอย่างที่สาม ช่วงนี้ก็ว่างอยู่พอดีที่จะมารับงานนี้ได้....คาแรคเตอร์ในหนัง เป็นคนตอแหล ดัดจริต รักสวยรักงาม เปรี้ยวสุดๆ แล้วคุณพจน์ก็ทรมานผมอีกนะ ผมต้องเปลี่ยนวิก เปลี่ยนเสื้อผ้าทุกฉาก ต้องสวยทุกฉาก..

“...กับการที่ต้องมาเล่นเป็นกระเทย จริงๆ เราไม่ต้องเปลี่ยนอะไรเลยนะ แค่ว่าเราต้องแสดงเป็นตัวๆ นี้ เพียงแต่ว่าหน้ากล้องก็ต้องเป็นกระเทยเท่านั้น คิดว่าผู้ชายทุกคนแหละ ถ้าให้ทำเป็นกระเทยก็ทำได้หมดแหละ ยิ่งเราเป็นนักแสดง ในชีวิตตื่นมาก็เจอกระเทยแล้ว ช่างแต่งหน้า ทำผมก็เป็นกระเทย ก็เห็นอยู่ทุกวันว่าเขาเป็นยังไง แต่ความหมายของการเป็นกระเทยในเรื่องนี้ ไม่ใช่เรื่องของกระเทยที่ไปจีบผู้ชายแล้วอกหัก ต้องเศร้า ต้องโศก จูบปาก ดูดปากกัน ไม่ใช่อย่างนั้น มันเอาภาพของความเป็นกระเทย มาวิ่งหนีผีเท่านั้น ถ้าผู้ชายวิ่งหนีผี มันคงไม่ค่อยขำมั้ง แต่กระเทยวิ่งหนีผีมันขำกว่า ขำโดยสรีระ ขำโดยเสียง โดยท่าทาง เป็นแอ็คโอเว่อร์ มันก็ทำให้ขำได้..”

“....ถ้ามีคนติดต่อให้มาเล่นบทอย่างนี้อีก ก็ขอเรื่องนี้เรื่องเดียวพอ จริงๆ แล้วเราเป็นนักร้องลูกทุ่ง เรื่องแฟนเพลงเราจะงง หรือรับไม่ได้กับภาพแบบนี้ของเราในเรื่อง ผมว่าคนที่เป็นแฟนผมจริงๆ เขาต้องดูออกนะ ไม่ใช่คนที่มาเล่นหนังกระเทย แล้วจะต้องเป็นกระเทย ไม่อย่างนั้นคนที่มาเล่นหนังเป็นผู้ พิพากษา ก็ต้องเป็นผู้พิพากษาสิ ตรงนี้จึงไม่ใช่เครื่องมือวัด ผมกำลังมองว่าตัวเราทำอะไร ให้ความสุขอะไรกับประชาชนมากกว่า...”

“...สิ่งที่ยากที่สุดในการทำงานหนังเรื่องนี้ก็คือ การแต่งผู้หญิงนี่แหละ เหนื่อยมาก แต่งกันทั้งวันทั้งคืน รู้ได้เลยว่าเป็นผู้หญิงเนี่ยลำบากมากโดยเฉพาะเสื้อชั้นใน หายใจก็ไม่ออก หน้าก็ต้องแต่งแบบฉาบปูนอยู่ตลอดเวลา เพราะต้องแต่งมากกว่าปกติอีกแล้วที่สำคัญเหนืออื่นใดเลยก็คือ ชีวิตปกติเราเป็นแบบนี้เข้าฉากแล้วเราต้องเป็นผู้หญิง มันเหนื่อยที่เราต้องเก๊ก ต้องดัด แล้วในเรื่องพี่ต้องเล่นแบบว่าดัดจริตมาก ตอแหล เสียงเล็ก เสียงน้อยตลอด ก็เลยเหนื่อยมาก.....”

อ.ยิ่งศักดิ์ จงเลิศเจษฎาวงศ์ “...ลูกสาวก็สนับสนุน เชียร์ให้เราเล่นแรงๆ เลยนะ ไม่แรงอย่าเล่น....”

เจ้าของสถาบันสอนการทำอาหาร พิธีกรรายการอาหารชื่อดัง รับบทเป็นการ์ตูน ที่ยังคงไม่ทิ้งตะหลิว ต้องเข้าครัวทำอาหารในเรื่อง

“...นี่เป็นหนังเรื่องแรกในชีวิต ไม่เคยเล่นมาก่อน แต่ก็ดีใจนะ ที่พจน์เขาบอกว่าเราก็เล่นหนังใช้ได้ แต่ถ้าให้เล่นอีกก็คงไม่ไหวแล้วนะ บอกตามตรงเลยที่รับเล่นหนังเรื่องนี้เพราะศรัทธาชื่อ พจน์ อานนท์ เราเห็นผลงานของเขา บวกกับความรู้สึกส่วนตัวที่เคยเจอกันหลายครั้ง คุณพจน์เป็นคนน่ารักมาก เราก็อยากร่วมงานด้วยและในชีวิตก็เคยตั้งความหวังไว้เหมือนกันว่า ถ้ามีโอกาสก็อยากเล่นหนังสักเรื่อง ที่บ้านเอง ลูกสาวก็สนับสนุน เชียร์ให้เราเล่นแรงๆ เลยนะ ไม่แรงอย่าเล่น ก็เอา ลองดูสักที ให้รู้ว่าการแสดงภาพยนตร์จริงๆ แล้วเป็นยังไง ตอนนี้อยากบอกทุกคนที่จะไปดูหนังว่า ไปซื้อตั๋วหนัง อย่าเสียดายเงินเลยนะ เพราะกว่าจะผ่านแต่ละฉากหนึ่ง ทั้งตัวแสดง ทั้งผู้กำกับทุ่มกันเต็มที่แทบจะลากเลือดเลย รักเมืองไทย รักคนไทย ต้องดูหนังไทยนะ...

“....ส่วนในฉากที่ต้องใส่ชุดไทย โอ้โห เนี่ยเป็นการแต่งหญิงครั้งแรกในชีวิตเลยด้วยซ้ำ ครั้งแรกก็เจองานหินแล้ว ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยใส่ชุดแบบนี้เลย อยากจะรู้จังเลย ว่าพวกที่เขาใส่ชุดไทยสวยๆ เดินไป เดินมาเขาอยู่ได้อย่างไร มันทรมานมาก ทั้งคัน ทั้งจั๊กกะจี้ไปหมดเลย ทั้งหนัก แล้วก็ร้อนมากด้วย ใช้เวลาแต่งตัวตั้งครึ่งวัน เฉพาะแต่งหน้าก็เกือบหมดครึ่งวันแล้ว สงสารช่างแต่งหน้านะ เปลืองเครื่องสำอางมากเลย พี่เอกชัยชอบแซวว่าหน้าอาจารย์เนี่ยไม่ได้เรียกรองพื้น เขาเรียกว่าฉาบปูน....

จตุรงค์ ม๊กจ๊ก “....พูดถึงหนังเรื่องนี้พี่ว่าน่าจะประสบความสำเร็จนะ เพราะว่ามันสนุกมาก...”

ดาวตลกชื่อดังของวงการ รับบทเป็น เจ๊แต๋ว จากพ่อผู้กลายมาเป็นแม่ เอ๊ะยังไง

ผลงานที่ภาพยนตร์ที่ผ่านมา อาทิ ปล้นนะยะ , โกยเถอะโยม, ผีหัวขาด, หลบผี ผีไม่หลบ, โรงเตี๊ยม, คนปีมะ, พยัคฆ์ร้ายส่ายหน้า,แสบสนิทศิษย์ส่ายหน้า มาถึงบทบาทกระเทยเรื่องที่ 2 หอแต๋วแตก รับบท เจ๊แต๋ว คาแรกเตอร์เรื่องนี้จะเป็น อาซิ้ม เป็นคนจีน พูดไทยไม่ชัด เชยๆ

“... เมื่อต้องมาประกบคู่เอกชัย กับอ.ยิ่งศักดิ์ สำหรับพี่เอกเนี่ย ดูท่าทางเขาก็คงอยากเล่นบทกระเทย อย่างนี้มานานแล้ว เพราะว่าพี่เอกเนี่ยเขาเป็นนักร้องที่เหมือนเป็นตลกด้วย เขาเป็นนักแสดง พูดง่ายๆ ว่าเขามีนิสัยตลกๆ ถ้าให้เล่นตลกเขาก็เล่นได้ และพอมาร่วมงานกัน เขาก็ได้เลย ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับพี่เอก...”

“.....ส่วน อ.ยิ่งศักดิ์เนี่ย เขาถนัดแต่ทำกับข้าว หรือพิธีกรก็จะแบบเม้าท์ๆ แต่การแสดง มันคือการเป็นคนๆ นั้นเลย ก็ต้องคิดปรับๆ กันไป บางทีเขาก็ไม่ถนัดจังหวะนี้ จังหวะการแสดง จังหวะการเล่น ที่ผ่านมาก็ต้องทำให้เขาถนัด แต่สุดท้ายเขาก็เล่นได้ เพราะอาจารย์เขาฉลาด...”

“...ในเรื่องต้องแต่งเป็นผู้หญิง ต้องเปลี่ยนชุดบ่อยมาก มันไม่สบายตัวไง เพราะเราเป็นผู้ชาย ใส่เสื้อตัวกางเกงตัวก็พอแล้ว แต่พอเป็นผู้หญิงเนี่ย มันไม่ใช่แต่งตัวอย่างเดียวไง มันมีหน้า มีลูกตา ขอบตา ขอบปากอีก ขนตาปลอม ทรงผมก็ต้องมีกิ๊บ มันไม่สบายตัว ตั้งแต่หัวจรดเท้าเลย ....”

“....พูดถึงหนังเรื่องนี้พี่ว่าน่าจะประสบความสำเร็จนะ เพราะว่ามันสนุกมาก คนดูดูแล้วต้องชอบ ถ้ารักหนังแนวแบบนี้ หนังผีตลกแนวบ้านๆ รับรองไม่ผิดหวัง...”

โก๊ะตี๋ อารามบอย “.....หนังของเรามีทั้ง 3 แบบ อยู่ในเรื่องเดียวกันเหมือนต้มยำ รวมกันก็ยิ่งรสจัด...”

ผ่านการแสดงภาพยนตร์ มานับไม่ถ้วน เป็นอีกครั้งสำคัญในการมาเรียก เสียงหัวเราะจากคนดู

“ ... ในเรื่องหอแต๋วแตก รับบทเป็นกระเทยเรียนนอกไฮโซ เป็นลูกคนรวย สุดท้ายมาหลงชอบผู้ชายในหอนี้ (หมายถึงตัวพระเอก) ทั้งรัก ทั้งหลงในตัวผู้ชายคนนี้ขนเงินขนทองมาปรนเปรอเขา สุดท้ายก็โดนผู้ชายหลอก แล้วเราก็ตาย

“...พูดถึงพจน์ อานนท์ ผู้กำกับแต่ละคนมีความแตกต่างกันนะครับ ถ้าผู้กำกับแต่ละคนเหมือนกันมันก็มีหนังออกมาแค่สไตล์เดียว แต่สำหรับพี่พจน์นะครับ พี่พจน์เป็นคนที่ละเอียด คือเขาเป็นคนที่ค่อนข้างใส่ใจ หนังจะค่อนข้างแตกต่างจากละครเยอะ เนื่องจากองค์ประกอบต่างๆ จึงต้องพิถีพิถันเป็นพิเศษ...”

“......ฉากที่ต้องแต่งเอฟเฟ็กต์คือฉากที่ต้องลงตัวขาว อารมณ์ประมาณผีจูออนอะไรประมาณนั้น แต่การลงตัวของที่นี่เขาไม่ได้ใช้แอร์บรัช เขาใช้แป้งงิ้วลงตัว กลับบ้านไปจะนอนทั้งแบบนี้ก็ไม่ได้..แต่ตอนนี้ชินแล้ว..”

“.......หนังเรื่องต่างจากหนังตลกเรื่องอื่นตรงที่ว่าหนังบางเรื่องเป็นหนังผี บางเรื่อง เป็นหนังตลก บางเรื่องเป็นหนังกระเทย แต่ของเรามีทั้ง 3 แบบ อยู่ในเรื่องเดียวกันเหมือนต้มยำ รวมกันก็ยิ่งรสจัด ที่สำคัญคนที่เข้ามาดูหนังเรื่องนี้เรื่องเดียวคุ้มแน่นอน คนที่ชอบหนังผีก็มาดูได้ คนที่ชอบหนังตลกก็มาดูได้ คนที่ชอบหนังกระเทยหรือเป็นกระเทยเองก็อย่าพลาด”

เด็กหอ (แต๋ว) รอแจ้งเกิด

วีรดิษฐ์ ศรีมาลัย(กัส) รับบทเป็น โคย (นะโม) ลูกชายของจาตุรงค์

เกิดวันที่ 3 สิงหาคม 2529 อายุ 20 ปี

การศึกษา มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิตย์ ปี 2 คณะ ศิลปศาสตร์การโรงแรม ก้าวเข้ามาสู่วงการด้วยภาพยนตร์เรื่อง ไฉไล รับบท แฟนของ ตั๊ก บงกช ตามมาด้วยภาพยนตร์เรื่อง เพื่อน รับบทเป็นน้องชายของพระเอก

“...คาแร็คเตอร์ที่ได้รับเป็นคนแบบบ้านๆ รับบทเป็นคนอีสานในเรื่องต้องพูดอีสานเป็นเรื่องใกล้ตัว....บรรยากาศในกองถ่าย เป็นอะไรที่คุ้นเคยจากหนังเรื่องแรก แต่ที่แตกต่างคงเป็นเสียงหัวเราะครับ สนุกมากครับในกองถ่ายนี้...”

รัชชานนท์ สุขประกอบ (กาย) รับบทเป็น กาย เด็กผู้ชายที่อยู่ในหอพักที่ตามรุ่นพี่ไปถ่ายคลิปวีดีโอ

เกิดวันที่ 16 กันยายน 2532 อายุ 18 ปี การศึกษาโรงเรียน RSB เกรด 12 ผลงานที่ผ่านมามีงานภาพยนตร์เรื่องเพื่อน รับบทเป็นพระเอกตอนเด็ก และ งานละคร ละครเรื่องบัวปริ่มน้ำ ช่อง 3 ผลงานที่ผ่านตาผู้ชมมากที่สุด เป็นผลงานโฆษณา จาก ซูกัส, โซนี่, เครื่องดื่มสปอนเซอร์, เอฟเวอร์เซ็นส์ โรลออน

“...เรื่องนี้ในบท เราตามรุ่นพี่ที่ไปรุมข่มขืนน้ำนิ่ง เวลาทำงาน ก็ยากเหมือนกัน เพราะ เป็นฉากที่ต้องจริงจังในทางร้าย แต่ก็สนุกมากครับ ตั้งใจทำงาน ให้ออกมาดีที่สุด...”

ธนากร ใจปินตา (กอล์ฟ) รับบทเป็นเกี๊ยว เพื่อนเฮไหน เราขอไปด้วย

เกิดวันที่ 1 มกราคม 2531 อายุ 19 ปี การศึกษา มหาวิทยาลัย ธุรกิจบัณฑิต ชั้นปีที่1 คณะนิเทศศาสตร์ เริ่มก้าวแรกสู่วงการด้วยการชนะเลิศการประกวด

Dutchie Boy & girl ปี2005

“...คาแร็คเตอร์ที่ได้รับ จะออกแนวแสบ ซน ซ่าส์ อะไรประมาณนั้น....สนุกดีครับกับการมาแสดงหนัง เป็นประสบการณ์ที่ดีมากของผม ถึงแม้จะยาก แต่พอได้ เล่นแล้ว ก็รู้สึก ติดใจ...”

ศิววัชร์ ทรัพย์ภิญโญ(เบียร์) รับบทเป็นซิม คนร้ายที่ข่มขืนเป้ย ปานวาด แล้วฆ่า

เกิดวันที่ 10 ตุลาคม 2527 อายุ 22 ปี การศึกษา มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ปี 4 คณะนิติศาสตร์ ก้าวเข้ามาสู่วงการด้วยผลงานโฆษณามากมาย ได้แก่ โค้ก, BUG, ชาเขียว,พิชซ่าฮัท,นมสดโฟร์โมสต์, ลอตเต้, เลย์, สี ที โอ เอ, ธนาคารนครหลวง, เบียร์อาซาฮี และผลงานมิวสิควีดีโอ เช่น เอ็ม เดอะสตาร์ เพลงคำว่ารักต้องพูดเบาๆ, ฟาเรนไฮซ์ เพลงน้ำตาคือคำตอบ , บอยตรัย, แบดซ์ เพลงไม่ขอเป็นคนสุดท้าย ผลงานภาพยนตร์เรื่องแรก ภาพยนตร์เรื่อง ไฉไล

“...ไม่กังวลว่าเล่นหนังหอแต๋วแตกไม่มีบท ก่อนหน้านี้ผมร่วมงานกับพี่พจน์มาแล้ว ตอนเล่นไฉไล ก็จะรู้จากเรื่องที่แล้วว่าอะไรเป็นอะไร เลยไร้กังวลเรื่องแบบนี้ก็ว่าได้ จึงไม่ค่อยจะเป็นปัญหากับตัวเองเวลาทำงานเรื่องต่อๆ ไป แต่จะหนักใจมากกว่า เรื่องนี้อาจจะมีบทที่แตกต่างและเต็มตัวกว่าเรื่องที่แล้ว ซึ่งหน้าที่ของเบียร์ คือทำหน้าที่ในอนาคตให้ดีกว่าที่จะทำได้ หรือพยายามพัฒนาบทของตัวเองเดิมที่ผ่านมาให้ดี ศึกษาให้เยอะๆ แค่นี้ พอเวลาที่จะมีอะไรมากระทบ หรือบทยากๆ ก็ผ่านไปได้ง่ายอยู่แล้ว...”

สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net