ผลการศึกษาครั้งใหม่บ่งชี้ ยา Clexane / Lovenox มีประสิทธิภาพมากกว่ายา UFH ในการป้องกันการอุดตันของหลอดเลือดดำในผู้ป่วยที่เป็นโรคหัวใจล้มเหลวแบบขาดเลือดหล่อเลี้ยงฉับพลัน

13 Dec 2006

ออร์แลนโด, ฟลอริด้า--13 ธ.ค.--พีอาร์นิวส์ไวร์-เอเชียเน็ท/อินโฟเควสท์


- ผลการศึกษา PREVAIL บ่งชี้ว่า ผู้ป่วยที่เป็นโรคหัวใจขาดเลือดหล่อเลี้ยงแบบฉับพลันที่ได้รับการรักษาด้วยยา Clexane (R)/ Lovenox (R) จะทำให้ความเสี่ยงที่จะเกิดอาการ VTE ลดลงอย่างมีนัยสำคัญถึง 43% โดยไม่มีการตกเลือดเพิ่มขึ้นในจุดที่สำคัญตามการวินิจฉัยของแพทย์ เมื่อเทียบกับยา UFH

บริษัท ซาโนฟี-เอเวนติส ประกาศในวันนี้ว่า ผลการศึกษา PREVAIL (Prevention of VTE after Acute Ischemic Stroke with LMWH Enoxaparin) ที่นำเสนอในที่ประชุมประจำปีครั้งที่ 48 ของสมาคมโลหิตวิทยา (ASH) ที่เมืองออร์แลนโด สะท้อนให้เห็นว่าการรักษาผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยทางการแพทย์ที่เป็นโรคหัวใจอันเนื่องมาจากภาวะขาดเลือดหล่อเลี้ยงหัวใจฉับพลันด้วยยา enoxaparin สามารถลดภาวะหลอดเลือดดำอุดตัน (VTE) ได้อย่างมีนัยสำคัญถึง 43% เมื่อเทียบกับยา unfrationated heparin (UFH)

ในบรรดาผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยทางการแพทย์ ผู้ป่วยที่เป็นโรคหัวใจเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นต่อการลุกลามของอาการ VTE ทั้งนี้ หากไม่มีการป้องกันการเกิดภาวะ VTE ผู้ป่วยประมาณ 75% ที่เป็นอัมพาตหลังจากมีอาการหัวใจวายจะกลายเป็นโรคเส้นเลือดดำอุดตันถาวร (DVT) และ 20% จะกลายเป็นโรคเส้นเลือดอุดตันที่ปอด (PE)

บทสรุปเกี่ยวกับประสิทธิภาพในเบื้องต้นของผลการศึกษาครั้งนี้ตรงข้ามกับอาการของโรค หรือ การแสดงอาการของโร DVT และ/หรือ อาการของโรค หรือ โรค PE ที่ทำให้เสียชีวิตได้ ในช่วงการบำบัดรักษา

การลดลงอย่างมีนัยสำคัญถึง 43% เกี่ยวข้องกับการลดความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะ VTE ซึ่งได้มีการสังเกตการณ์ร่วมกับการใช้ยา enoxaparin เมื่อเทียบกับยา UFH สำหรับจุดเอ็นพอยท์ที่มีประสิทธิภาพในเบื้องต้น (10.2% เมื่อเทียบกับ 18.1% p=0.0001) โดยมีความเกี่ยวข้องกับการลดภาวะการติดเกาะของหลอดเลือดในโรค DVT ได้ประมาณ 53% (4.5% เมื่อเทียบกับระดับ 9.6% p=0.0003)

ไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญในกรณีเกิดอาการตกเลือดในจุดที่สำคัญ (1.3% เมื่อเทียบกับ 0.7% p=0.20) ซึ่งเกี่ยวข้องกับการรวมภาวะตกเลือดภายในกะโหลกศีรษะที่แสดงอาการทั้งสองด้าน ซึ่งถือเป็นภาวะที่เปราะบางที่สุด และการตกเลือดภายนอกกะโหลกศีรษะ

นอกจากนี้ ยังมีการสังเกตการณ์เรื่องการลดความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะ VTE ในผู้ป่วย ซึ่งมีการนำเสนอในระดับความรุนแรงของโรคหัวใจที่แตกต่างกัน ซึ่งไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญในอาการตกเลือดในจุดที่สำคัญตามการวินิจฉัยทางการแพทย์

"การสร้างสมดุลเรื่องประโยชน์ของการลดความเสี่ยงที่จะเกิดอาการ VTE ขณะที่มีการลดขนาดความเสี่ยงของภาวะตกเลือด ถือเป็นองค์ประกอบที่สำคัญมากในการเลือกระบบการป้องกันโรคสำหรับกลุ่มผู้ป่วยที่มีความเปราะบางเป็นพิเศษ เนื่องจากมีการรวมปัจจัยตามปกติของ VTE นอกเหนือจากรายละเอียดเกี่ยวกับโรคหัวใจ" ดร.เดวิด เชอร์แมน ผู้เชี่ยวชาญแผนกประสาทวิทยาประจำกรมการแพทย์แห่งมหาวิทยาลัยศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อสุขภาพรัฐเท็กซัส (UTHSC) ในเมืองซาน แอนโตนิโอ และเป็นผู้สำรวจเชิงหลักการของการศึกษาในครั้งนี้กล่าว " PREVAIL แสดงให้เห็นว่า ยา enaoxaparin มีประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมโดยไม่เพิ่มอาการตกเลือดในจุดที่สำคัญตามการวินิจฉัยของแพทย์เมื่อเทียบกับยา UFH ข้อมูลเหล่านี้ให้หลักฐานใหม่ๆที่บ่งชี้ว่ายา enoxaparin" สามารถใช้ป้องกันการเกิดอาการ VTE ได้ในประชากรที่มีความเสี่ยงสูง"


เกี่ยวกับภาวะหลอดเลือดดำอุตัน (VTE)

ภาวะหลอดเลือดดำอุดตันเป็นคำที่ใช้กันโดยทั่วไปเพื่ออธิบายถึงการก่อตัวของการแข็งตัวในเส้นเลือด (thrombus) ที่ปิดกั้นหลอดเลือด อาการนี้อาจเกิดขึ้นในหลายๆส่วนของระบบเส้นเลือด แต่อาการที่ปรากฎให้เห็นโดยทั่วไปส่วนใหญ่คือภาวะหลอดเลือดดำอุดตันถาวร (DVT) ซึ่งส่วนใหญ่เกิดขึ้นที่ขา และเส้นเลือดอุดตันที่ปอด (PE)

นอกจากนี้ VTE ยังมีความซับซ้อนในหมู่ผู้ที่เคยเป็นโรคหัวใจขาดเลือดหล่อเลี้ยงฉับพลัน (AIS)


เกี่ยวกับการทดลอง PREVAIL

การทดลอง PREVAIL เป็นการศึกษาแบบสุ่มสำรวจแบบที่จัดทำในวงกว้าง ข้ามชาติ และมีแนวโน้มที่จะเป็นไปได้ครั้งแรก ซึ่งมีการสุ่มศึกษาผู้ป่วยโรคหัวใจที่ขาดเลือดหล่อเลี้ยง (ซึ่งแบ่งเป็นลำดับอาการโดย NIH Stroke Scale Score) ในกว่า 15 ประเทศ

ผู้ป่วยที่ได้รับการยืนยันว่าเป็นโรคหัวใจที่ขาดเลือดหล่อเลี้ยงฉับพลัน ได้รับการสุ่มสำรวจอาการโรคหัวใจภายในเวลา 48 ชั่วโมง โดยได้รับยา eno xaparin วันละ 40 มิลลิกรัมตามมาตรฐานหน่วย SC หรือ ยา UFH ขนาด 5000 IU ตามมาตรฐานหน่วย SC Q โดยมีการรักษา 12 ครั้งเป็นเวลา 10วัน +/- ไม่เกิน 4 วัน โดยมีการติดตามอาการเป็นเวลา 90 วัน และ มีการแบ่งลำดับอาการโดย NIH Stroke Scale Score (ความรุนแรงมากกว่า หรือ เท่ากับ 14 และ น้อยกว่า 14 )

จุดเอ็นพอยท์ที่มีประสิทธิภาพในเบื้องต้นตรงข้ามกับอาการของโรค หรือ การแสดงอาการของโร DVT และ/หรือ อาการของโรค หรือ โรค PE ที่ทำให้เสียชีวิตได้ ในช่วงการบำบัดรักษา จุดเอ็นพอยท์ที่ปลอดภัยอย่างมีประสิทธิภาพรวมถึงภาวะตกเลือดภายในกะโหลกศีรษะแบบแสดงอาการ การตกเลือดภายในกะโหลกศีรษะ และทำให้เสียชีวิตได้ในทุกกรณี


เกี่ยวกับยา Enoxaparin

ยา Enoxaparin เป็นยาต้านการจับตัวเป็นก้อนของลิ่มเลือดที่มีน้ำหนักโมเลกุลต่ำ (LMWH) การใช้ยาดังกล่าวตามคำสั่งแพทย์เกี่ยวข้องกับคุณสมบัติต่อต้านการอุดตันของหลอดเลือดดำ ยาถูกนำไปใช้ในการยับยั้งการก่อตัวของลิ่มเลือดในหลอดเลือดดำ หรือ หลอดเลือดแดงใหญ่ เพื่อหลีกเลี่ยงความเป็นไปได้ที่จะเกิดอาการซับซ้อนของการอุดตันในหลอดเลือดดำหรือหลอดเลือดแดงใหญ่แบบเรื้อรังหรือแบบฉับพลัน อาทิ โรคเส้นเลือดอุดตันที่ปอด การแตกของเนื้องอก หรือ อวัยวะในส่วนของหลอดเลือดไม่ทำงาน ทั้งนี้ ในฐานะที่เป็นยาต้านการจับตัวของลิ่มเลือดในทุกรูปแบบ รายงานอาการข้างเคียงของการใช้ยา enoxaparin ที่มีความถี่มากที่สุดคือ ภาวะตกเลือด ข้อบ่งชี้ทางการแพทย์สำหรับยา enoxaparin ในแต่ละประเทศอาจมีความคลาดเคลื่อนกันไป


เกี่ยวกับซาโนฟี-เอเวนติส

ซาโนฟี-เอเวนติส เป็นบริษัทเวชภัณฑ์รายใหญ่อันดับ 3 ของโลก โดยติดอันดับ 1 ในทวีปยุโรป ทั้งนี้ ด้วยการสนับสนุนจากองค์การ R&D ระดับโลก ซาโนฟี-เอเวนติสกำลังพัฒนาสถานะการเป็นผู้นำในด้านการบำบัดรักษาโรคที่สำคัญ 7 โรค คือ โรคเกี่ยวกับหลอดเลือด หลอดเลือดดำ เนื้องอกวิทยา โรคเกี่ยวกับระบบเผาผลาญ ระบบประสาทส่วนกลาง ยาที่ใช้ภายใน และวัคซีน ซาโนฟี-เอเวนติสจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหุ้นปารีส (EURONEXT: SAN) และในนิวยอร์ก (NYSE: SNY)


หมายเหตุถึงบรรณาธิการ

1 แมคคาร์ธี เอสที, เทอร์เนอร์ เจ. ยาป้องกันการก่อตัวของลิ่มเลือดใต้ผิวหนังโดสต่ำเป็นยาที่ใช้ป้องกันหลอดเลือดดำอุดตันถาร และเส้นเลือดอุดตันที่ปอด หลังจากเกิดอาการโรคหัวใจวายฉับพลัน Age Ageing 1986; 15 : 84-8

2 แมคคาร์ธี เอสที เทอร์เนอร์ เจเจ โรเบิร์ตสัน ดี, ฮาวคีย์ ซีเจ, แมคซี ดีเจ ยาป้องกันการต่อตัวของลิ่มเลือดโดสต่ำเป็นยาป้องการการอุดตันของหลอดเลือดดำ หลังจากเกิดอาการโรคหัวใจฉับพลัน Lancet 1977 ; 2 : 800-1


ที่มา ซาโนฟี-เอเวนติส


ติดต่อ ซาลาห์ มาห์โยอี

+33-6-73-68-78-88


--เผยแพร่โดย เอเชียเน็ท ( www.asianetnews.net )--