ก.พลังงานมอบรางวัลหน่วยงานราชการประหยัดพลังงานปี 49 จังหวัดสระแก้ว ครองแชมป์ 2 ปีซ้อน

29 Mar 2007

กรุงเทพฯ--29 มี.ค.--ก.พลังงาน

กระทรวงพลังงานมอบรางวัลแก่หน่วยงานราชการลดใช้ไฟฟ้า – น้ำมันดีเด่น ปี 2549 15 หน่วยงาน จังหวัดสระแก้วครองแชมป์ลดใช้ไฟฟ้าดีเด่น 2 ปีซ้อน ขณะที่กรมส่งเสริมสหกรณ์คว้าแชมป์ลดใช้ไฟฟ้ามากสุดถึง 43.71% ส่วนสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขได้แชมป์ลดใช้น้ำมันมากสุด 57.25%

ดร.ปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า รัฐบาลได้ประกาศให้การประหยัดพลังงานเป็นวาระแห่งชาติ โดยให้หน่วยงานราชการเป็นผู้นำในการลดใช้พลังงานและกำหนดเป้าหมายที่ระดับร้อยละ 10 พร้อมทั้งให้สำนักงาน ก.พ.ร.กำหนดเป็นตัวชี้วัดผลการปฏิบัติงานของทุกหน่วยงานราชการตั้งแต่ปีงบประมาณ 2549 ซึ่งกระทรวงพลังงาน ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลด้านพลังงาน ได้รณรงค์ประชาสัมพันธ์เพื่อกระตุ้นและ จูงใจให้หน่วยงานราชการลดใช้พลังงานเพื่อให้บรรลุเป้าหมายตามที่กำหนดไว้

ทั้งนี้ ในแต่ละปีกระทรวงพลังงานได้มีการมอบรางวัลเชิดชูเกียรติแก่หน่วยงานราชการ ที่สามารถลดใช้พลังงานดีเด่นเพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจที่สามารถลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานให้กับประเทศ ซึ่งในปีนี้กระทรวงพลังงานยังคงจัดงานมอบรางวัลอย่างต่อเนื่อง โดยผลการดำเนินโครงการประหยัดพลังงานในหน่วยงานราชการประจำปี 2549 พบว่าสามารถลดการใช้ไฟฟ้าได้ 166 ล้านหน่วย และลดการใช้น้ำมัน 37 ล้านลิตร คิดเป็นเงินงบประมาณที่ประหยัดได้รวม 1,335 ล้านบาท

ซึ่งหน่วยงานที่ได้รับรางวัลประหยัดพลังงานมี 15 หน่วยงาน ประกอบด้วย รางวัลกระทรวงลดการใช้พลังงานดีเด่น 3 กระทรวง ได้แก่ กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงพลังงาน และกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเป็นรางวัลสำหรับกระทรวงที่มีหน่วยงานภายใต้สังกัดร่วมมือ ร่วมใจลดการใช้ไฟฟ้าและน้ำมันเชื้อเพลิง ได้คะแนนประเมินผลตามตัวชี้วัดระดับความสำเร็จของการดำเนินการตามมาตรการประหยัดพลังงานสูงสุด 3 อันดับแรก รางวัลส่วนราชการลดใช้พลังงานไฟฟ้าดีเด่น 3 หน่วยงาน ได้แก่ กรมส่งเสริมสหกรณ์ สามารถประหยัดการใช้ไฟฟ้าได้ 756,000 หน่วย คิดเป็น 43.71% กรมการประกันภัย สามารถประหยัดการใช้ไฟฟ้าได้ 681,187.61 หน่วย คิดเป็น 35.69% และกระทรวงอุตสาหกรรม สามารถประหยัดการใช้ไฟฟ้าได้ 326,767 หน่วย คิดเป็น 30.67% รางวัลส่วนราชการลดใช้พลังงานน้ำมันดีเด่น 3 หน่วยงาน ได้แก่ กระทรวงสาธารณสุข ลดการใช้น้ำมันได้ 154,444.57 ลิตร คิดเป็น 57.25% กรมการพัฒนาชุมชน ลดการใช้น้ำมันได้ 11,844 ลิตร คิดเป็น 45.42% และกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม ลดการใช้น้ำมันได้ 6,320 ลิตร คิดเป็น 37.87%

ส่วนรางวัลจังหวัดลดใช้ไฟฟ้าดีเด่น 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสระแก้ว ประหยัดการใช้ไฟฟ้าได้ 1,434,225.18 หน่วย คิดเป็น 38.69% จังหวัดสมุทรสงคราม ประหยัดการใช้ไฟฟ้าได้ 817,271.42 หน่วย คิดเป็น 37.15% และจังหวัดหนองคาย ประหยัดการใช้ไฟฟ้าได้ 693,028.35 หน่วย คิดเป็น 26.30% และรางวัลจังหวัดลดใช้น้ำมันดีเด่น 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเพชรบูรณ์ ลดการใช้น้ำมันได้ 294,027.52 ลิตร คิดเป็น 47.64% จังหวัดสุโขทัย ลดการใช้น้ำมันได้ 155,574.16 ลิตร คิดเป็น 36.65% และจังหวัดอ่างทอง ลดการใช้น้ำมันได้ 156,436.85 ลิตร คิดเป็น 35.32%

“ในการประหยัดพลังงาน หน่วยงานราชการต้องเป็นแบบอย่างที่ดี ต้องทำเป็นตัวอย่างให้กับประชาชน และต้องทำให้เห็นว่าการประหยัดพลังงานเป็นเรื่องง่ายๆ ที่เราทุกคนสามารถทำได้ ดูอย่างจังหวัดสระแก้วได้แชมป์ลดใช้ไฟฟ้าดีเด่น 2 ปีซ้อน จังหวัดอ่างทองได้รางวัลประหยัดน้ำมันดีเด่นต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 และกรมประกันภัยได้รับรางวัลประหยัดไฟฟ้าดีเด่น 2 ปีซ้อนเช่นกัน ทั้งหมดนี้ ไม่ได้เกิดจากการลงทุนซื้ออุปกรณ์เข้ามาช่วยลดการใช้พลังงาน แต่เกิดจากความร่วมมือร่วมใจของบุคลากรในหน่วยงานของภาครัฐ”ดร.ปิยสวัสดิ์ กล่าว

ด้านนางสาวสุพัตรา ธนเสนีวัฒน์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวว่า “สำหรับรางวัลส่วนราชการ ลดใช้พลังงานไฟฟ้าดีเด่น อันดับ 1 ที่ได้รับนี้รู้สึกภาคภูมิใจเป็นอย่างมาก ซึ่งที่ผ่านมาเราพยายามประหยัดพลังงานเพื่อให้เป็นแบบอย่างแก่สหกรณ์ต่างๆ นำไปใช้ ทั้งนี้การประหยัดพลังงานเป็นสิ่งจำเป็น และประโยชน์ที่ได้รับไม่ใช่เพียงแค่สำนักงานเท่านั้น แต่หมายถึงส่วนรวมและประเทศชาติ เพราะพลังงานในปัจจุบันมีอยู่อย่างจำกัด หากใช้อย่างไม่รู้คุณค่าพลังงานก็จะหมดไปในอนาคต” นายแพทย์ปราชญ์ บุณญวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า “ที่ผ่านมา ข้าราชการและพนักงานทุกคนมีจิตสำนึกร่วมกันในการรับผิดชอบประหยัดพลังงาน และการดำเนินงานทุกอย่างต้องมีการวางแผน มีขั้นตอน อาทิ วางแผนก่อนการเดินทาง และหันมาใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์แทนน้ำมันเบนซิน ไม่เพียงแค่นั้นแต่เราจะทำทุกอย่างที่เห็นว่าเป็นการประหยัดพลังงาน สำหรับรางวัลส่วนราชการลดใช้พลังงานน้ำมันดีเด่น อันดับ 1 ที่ได้รับนั้น

ถือเป็นความสำเร็จและเป็นกำลังใจให้พนักงานลดใช้พลังงานต่อไปในอนาคต”