ฟิทช์จัดอันดับเครดิตภายในประเทศหุ้นกู้ค้ำประกันชุดใหม่ของบริษัท เดมเลอร์ไครสเลอร์ (ประเทศไทย)

04 Apr 2007

กรุงเทพฯ--4 เม.ย.--ฟิทช์ เรทติ้งส์

บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด จัดอันดับเครดิตภายในประเทศ (National Rating) ระยะยาวที่ระดับ ‘AA(tha)’ แนวโน้มเครดิตมีเสถียรภาพ แก่หุ้นกู้ค้ำประกันชุดใหม่ของบริษัท เดมเลอร์ไครสเลอร์ (ประเทศไทย) จำกัด มูลค่า 2.5 พันล้านบาทครบกำหนดไถ่ถอนในปี 2552 ซึ่งได้รับการค้ำประกันในลักษณะเต็มจำนวน ไม่มีเงื่อนไข และไม่สามารถยกเลิกได้จากบริษัท เดมเลอร์ไครสเลอร์ เอจี ซึ่งเป็นบริษัทแม่ โดยปัจจุบันบริษัทเดมเลอร์ไครสเลอร์ เอจี ได้รับการจัดอันดับโดยฟิทช์ให้มีอันดับเครดิตสากลระยะยาวสกุลเงินต่างประเทศ (International Foreign Currency Issuer Default Rating) ที่ระดับ ‘BBB+’ แนวโน้มเครดิตมีเสถียรภาพ

อันดับเครดิตสากลระยะยาวสกุลเงินต่างประเทศของบริษัทเดมเลอร์ไครสเลอร์ เอจี มีอันดับต่ำกว่าอันดับเครดิตสากลระยะยาวสกุลเงินในประเทศ (International Local Currency Issuer Default Rating) ของประเทศไทยซึ่งอยู่ที่ระดับ ‘A’ แนวโน้มเครดิตมีเสถียรภาพ อยู่สองระดับ ดังนั้นอันดับเครดิตภายในประเทศของหุ้นกู้ค้ำประกันของบริษัท เดมเลอร์ไครสเลอร์ (ประเทศไทย) จึงมีอันดับเครดิตต่ำกว่าอันดับเครดิตภายในประเทศของประเทศไทยที่ระดับ ‘AAA(tha)’ อยู่สองระดับเช่นกัน

ความแตกต่างที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตระหว่างอันดับเครดิตของบริษัทเดมเลอร์ไครสเลอร์ เอจี และประเทศไทยจะส่งผลกระทบต่ออันดับเครดิตภายในประเทศของหุ้นกู้ค้ำประกันดังกล่าว โดยที่การปรับเปลี่ยนอันดับเครดิตสากลหนึ่งอันดับ อาจนำไปสู่การปรับเปลี่ยนอันดับเครดิตภายในประเทศมากกว่าหนึ่งอันดับได้

อันดับเครดิตของบริษัท เดมเลอร์ไครสเลอร์ เอจี สะท้อนถึงความเป็นผู้นำระดับโลกในอุตสาหกรรมยานยนต์ ทั้งในตลาดรถยนต์ประเภทที่มีคุณภาพยอดเยี่ยมและรถบรรทุก การดำเนินธุรกิจที่แข็งแกร่งและกระจายตัวไปยังภูมิภาคต่างๆทั่วโลก รวมถึงสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งขึ้น ฟิทช์กล่าวว่าสถานะความน่าเชื่อถือของกลุ่มบริษัท เดมเลอร์ไครสเลอร์ เอจี แข็งแกร่งขึ้นในปี 2548 และปี 2549 แต่ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับอนาคตของกลุ่มบริษัท ไครสเลอร์ ได้เพิ่มขึ้นในช่วงเวลาไม่นานมานี้ บริษัท เดมเลอร์ไครสเลอร์ เอจี ได้แก้ไขปัญหาในเรื่องคุณภาพรถยนต์ที่กลุ่มธุรกิจ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประสบในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาได้เป็นอย่างมาก และยังสามารถเพิ่มส่วนต่างกำไรของกลุ่มธุรกิจรถบรรทุกได้เนื่องจากสภาพตลาดรถบรรทุกที่ดีและการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตยังสะท้อนถึงความกังวลในด้านต่างๆที่บริษัทจะต้องเผชิญและจัดการเพื่อรักษาการดำเนินธุรกิจให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง การดำเนินธุรกิจยานยนต์ยังคงมีความท้าทายอย่างมากโดยเฉพาะตลาดในประเทศสหรัฐ อเมริกาและประเทศในแถบยุโรปตะวันตกซึ่งมีการแข่งขันสูงในขณะที่ความต้องการมีแนวโน้มการเติบโตที่ต่ำ ฟิทช์มีความกังวลในเรื่องการเสนอส่วนลดรวมถึงสิ่งของที่สูงเพื่อกระตุ้นการขายรถในประเทศสหรัฐฯ การแย่งส่วนแบ่งการตลาดของรถญี่ปุ่นและเกาหลีอย่างต่อเนื่อง และความเป็นไปได้ในการเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้บริโภคจากรถบรรทุกขนาดเล็ก (light trucks) ซึ่งเป็นรถที่กลุ่มบริษัท ไครสเลอร์ สร้างกำไรให้บริษัทไปเป็นรถประเภทอื่น ซึ่งปัจจัยเหล่านี้จะส่งผลกระทบต่อส่วนต่างกำไรของกลุ่มบริษัท ไครสเลอร์ นอกจากนี้ความต้องการรถบรรทุกขนาดใหญ่ (heavy trucks) คาดว่าจะลดลงอย่างมากในปี 2550 เนื่องจากการเริ่มใช้กฎหมายควบคุมมลพิษที่เข้มงวดมากขึ้นซึ่งน่าจะส่งผลกระทบต่อรายได้ของกลุ่มธุรกิจรถบรรทุก แต่คาดว่าส่วนต่างกำไรของกลุ่มธุรกิจรถบรรทุกน่าจะปรับตัวดีขึ้นในปี 2551 เนื่องจากการบริหารจัดการโครงสร้างต้นทุนที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นและการเอื้อประโยชน์ระหว่างธุรกิจ (synergies) ที่สูงขึ้น

ฟิทช์ยังกล่าวอีกว่าแผนของบริษัทที่จะทำให้กลุ่มบริษัท ไครสเลอร์ สามารถกลับมามีกำไรอีกครั้งและแผนการเสริม สร้างความแข็งแกร่งในการดำเนินธุรกิจเป็นสิ่งที่ต้องเร่งดำเนินการ

แต่ในการดำเนินการดังกล่าวกลุ่มบริษัท ไครสเลอร์ ยังต้องเผชิญกับความท้าทายมากมายที่จะทำให้สำเร็จได้ตามแผน ฟิทช์จะติดตามการดำเนินแผนดังกล่าวรวมถึงผลกระทบต่อภาพเครดิตโดยรวมของบริษัทอย่างใกล้ชิดโดยเฉพาะในช่วง 6 ถึง 12 เดือนข้างหน้านี้

ถ้ากลุ่มบริษัท ไครสเลอร์ ไม่สามารถแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการทำกำไรและการสร้างกระแสเงินสดที่ดีขึ้นในปี 2550 อาจ จะส่งผลกระทบต่ออันดับเครดิตของบริษัท เดมเลอร์ไครสเลอร์ เอจี ได้ อย่างไรก็ตาม ฟิทช์คาดว่าผลการดำเนินการที่คาดว่าจะดีขึ้นของกลุ่มธุรกิจอื่นๆ โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจ เมอร์เซเดส-เบนซ์ จะช่วยลดทอนสถานะทางการเงินที่อ่อนแอของกลุ่มบริษัท ไครสเลอร์ ในปี 2550 ได้

บริษัท เดมเลอร์ไครสเลอร์ (ประเทศไทย) ซึ่งถือหุ้น 99.99% โดยบริษัท เดมเลอร์ไครสเลอร์ เอจี ดำเนินธุรกิจนำเข้าและจัดจำหน่ายรถเมอร์เซเดส-เบนซ์และรถในกลุ่มไครสเลอร์ ให้กับผู้จำหน่ายในประเทศไทย เมอร์เซเดส- เบนซ์ จัดเป็นรถที่นิยมแพร่หลายในตลาดรถยนต์ประเภทที่มีคุณภาพยอดเยี่ยมในประเทศไทย เนื่องด้วยค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาที่ต่ำกว่าและราคาขายในตลาดรถมือสองที่สูงกว่าคู่แข่งในตลาดรถประเภทเดียวกัน ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ สามารถครองความเป็นผู้นำในตลาดนี้มาเป็นเวลานาน นอกจากนี้บริษัทเดมเลอร์ไครสเลอร์ (ประเทศไทย) ยังให้บริการทางด้านสินเชื่อรถยนต์ โดยผ่านทางบริษัท เดมเลอร์ไครสเลอร์ ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) ซึ่งถือหุ้น 99.99% โดยบริษัท เดมเลอร์ไครสเลอร์ (ประเทศไทย)

ติดต่อ

เลิศชัย กอเจริญรัตนกุล, โสมสิริ ชฎาวัฒน์, Vincent Milton, +662 655 4755

Emmanuel Bulle, Paris, Tel: +33 1 44 29 91 84

หมายเหตุ: การจัดอันดับเครดิตภายในประเทศ (National Ratings) เป็นการวัดระดับความน่าเชื่อถือในเชิงเปรียบเทียบกันระหว่างองค์กรในประเทศนั้นๆ โดยจะใช้ในประเทศที่อันดับเครดิตแบบสากลของรัฐบาลในประเทศนั้นอยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำ อันดับเครดิตขององค์กรที่ดีที่สุดของประเทศได้จัดไว้ที่ระดับ “AAA” และการจัดอันดับเครดิตอื่นในประเทศ จะเป็นการเปรียบเทียบความเสี่ยงกับองค์กรที่ดีที่สุดนี้เท่านั้น อันดับเครดิตภายในประเทศได้ถูกจัดทำขึ้นเพื่อใช้ในตลาดในประเทศเป็นหลักและจะมีสัญลักษณ์ที่กำหนดไว้ต่อท้ายจากอันดับเครดิตสำหรับประเทศนั้นๆ เช่น “AAA(tha)” ในกรณีของประเทศไทย ดังนั้นอันดับเครดิตภายในประเทศจึงไม่สามารถใช้เปรียบเทียบระหว่างประเทศได้

คำจำกัดความของอันดับเครดิตและการใช้อันดับเครดิตดังกล่าวของ ฟิทช์ เรทติ้งส์ สามารถหาได้จาก www.fitchratings.com อันดับเครดิตที่ประกาศ หลักเกณฑ์และวิธีการจัดอันดับเครดิต ได้แสดงไว้ในเว็บไซต์ดังกล่าวตลอดเวลา หลักจรรยาบรรณ การรักษาข้อมูลภายใน ความขัดแย้งทางผลประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้น แนวทางการเปิดเผยข้อมูลระหว่างบริษัทในเครือ กฏข้อบังคับรวมทั้งนโยบายและกระบวนการที่เกี่ยวข้องอื่นๆของฟิทช์ ได้แสดงไว้ในส่วน ‘หลักจรรยาบรรณ’ ในเว็บไซต์ดังกล่าวเช่นกัน