ก.ล.ต. สั่งภาคทัณฑ์อดีตผู้จัดการกองทุนและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ บลจ. ยูโอบี และเปรียบเทียบปรับ บลจ. ยูโอบี

กรุงเทพฯ--13 มี.ค.--ก.ล.ต.

ก.ล.ต. ลงโทษภาคทัณฑ์นางสาวณัฐชยา เจริญธนกฤต อดีตผู้จัดการกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ และนายวนา พูลผล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ยูโอบี (ไทย) จำกัด (“บลจ. ยูโอบี”) เป็นระยะเวลา 2 ปี ตั้งแต่วันที่ 9 มีนาคม 2550 และเปรียบเทียบปรับ บลจ. ยูโอบี เป็นเงิน 1,159,375 บาท หลังตรวจพบว่า มีการช่วยเหลือให้เจ้าของเดิมของอสังหาริมทรัพย์ในกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และสิทธิเรียกร้อง เฟิสท์ สตาร์ (“กองทุนรวม เฟิสท์ สตาร์”) ใช้นอมินีถือ

หน่วยลงทุนแทนตนในการหลีกเลี่ยงเกณฑ์การถือหน่วยไม่เกินหนึ่งในสามของจำนวนหน่วยลงทุนที่ออกและเสนอขายแล้วทั้งหมด เพื่อที่จะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี สืบเนื่องจากการตรวจสอบกองทุนรวม เฟิสท์ สตาร์ (ปัจจุบันเลิกกองไปแล้ว) ซึ่งเป็นกองทุนภายใต้การจัดการของ บลจ.ยูโอบี ก.ล.ต. พบพฤติกรรมการใช้บุคคลอื่นถือหน่วยลงทุนแทนเจ้าของอสังหาริมทรัพย์เดิม เพื่อหลีกเลี่ยงถือหน่วยลงทุนเกินกว่าหนึ่งในสาม ซึ่งเป็นการปฏิบัติฝ่าฝืนประกาศที่เกี่ยวข้อง โดย ก.ล.ต. ตรวจพบพฤติกรรมดังนี้

1. ผู้ถือหน่วยลงทุนทุกรายของกองทุนดังกล่าวนำหน่วยลงทุนของตนไปจดจำนำกับธนาคารพาณิชย์เพื่อเป็นประกันหนี้วงเงินสินเชื่อทุกลักษณะหนี้ให้กับเจ้าของอสังหาริมทรัพย์เดิม และแม้ว่ามีการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหน่วยลงทุน ผู้ถือหน่วยลงทุนรายใหม่ทุกรายก็ยังคงจำนำหน่วยลงทุนของตนเพื่อเป็นประกันหนี้สินให้กับเจ้าของอสังหาริมทรัพย์เดิมต่อไปอีก และ

2. ผู้ถือหน่วยลงทุนทุกรายมีหนังสือมอบอำนาจและหนังสือยินยอมให้โอนเงินปันผลทั้งหมดให้แก่เจ้าของอสังหาริมทรัพย์เดิม และเงินดังกล่าวส่วนใหญ่ถูกนำไปชำระคืนภาระหนี้ของเจ้าของอสังหาริมทรัพย์เดิม ก.ล.ต. จึงได้ลงโทษโดยภาคทัณฑ์นางสาวณัฐชยา ผู้จัดการกองทุนในขณะนั้น และนายวนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ. ยูโอบี เป็นระยะเวลา 2 ปี ตั้งแต่วันที่ 9 มีนาคม 2550

นอกจากนี้ ในวันนี้ (13 มีนาคม 2550) คณะกรรมการเปรียบเทียบยังได้ปรับ บลจ. ยูโอบี เนื่องจากระบบการตรวจสอบเพื่อป้องกันปัญหานี้ยังไม่เพียงพอ เป็นจำนวนเงิน 1,159,375 บาท และ ก.ล.ต. ได้สั่งการให้บริษัทแก้ไขระบบงานดังกล่าว ซึ่งจากการตรวจสอบในเวลาต่อมาพบว่าบริษัทได้แก้ไขให้เป็นไป โดยเหมาะสมแล้ว

คำอธิบาย

กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และสิทธิเรียกร้อง หรือ กอง 4 คือ กองทุนรวมที่จำหน่ายให้แก่บุคคลในวงจำกัด จัดตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์หลักในการนำเงินที่ได้รับจากการจำหน่ายหน่วยลงทุนไปซื้อหรือเช่าอสังหาริมทรัพย์ เพื่อแก้ไขปัญหาในระบบสถาบันการเงิน และมีหลักเกณฑ์กำหนดว่า เจ้าของอสังหาริมทรัพย์ที่มีภาระผูกพันไว้กับสถาบันการเงิน รวมทั้งบุคคลที่เกี่ยวข้อง จะถือหน่วยลงทุนของกองทุนประเภทนี้ได้ไม่เกินหนึ่งในสามของจำนวนหน่วยลงทุนที่ออกและเสนอขายแล้วทั้งหมด เพื่อป้องกันมิให้ใช้กองทุนรวมประเภทนี้เพื่อหลีกเลี่ยงภาษี

ประกาศที่เกี่ยวข้อง

กรณีนางสาวณัฐชยา ข้อ 7 (1) ของประกาศสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ที่ สน. 4/2547 เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการในการให้ความเห็นชอบผู้จัดการกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ลงวันที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2547 กรณีนายวนา ข้อ 2 (3) ของประกาศสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ที่ อธ./น. 3/2542 เรื่อง จรรยาบรรณสำหรับผู้บริหารบริษัทหลักทรัพย์ (Code of Ethics) ลงวันที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2542

และเข้าข่ายเป็นลักษณะต้องห้ามของบุคลากรในธุรกิจหลักทรัพย์ตามข้อ 3 (11) ของประกาศคณะกรรมการ ก.ล.ต. ที่ กธ./น./ข. 3/2548 เรื่อง ลักษณะต้องห้ามของบุคลากรในธุรกิจหลักทรัพย์ ลงวันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2548

กรณี บลจ. ยูโอบี ข้อ 7 ของประกาศคณะกรรมการ ก.ล.ต. ที่ กน. 54/2543 เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการจัดตั้งและจัดการกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และสิทธิเรียกร้อง ลงวันที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2543 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และข้อ 2 (1) ของประกาศคณะกรรมการ ก.ล.ต. ที่ กน. 30/2547

เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการจัดตั้งและจัดการกองทุน ลงวันที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2547

• ข่าวกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์
• ข่าวยูโอบี
• ข่าวกองทุนรวม
• ข่าวบริษัทหลักทรัพย์
• ข่าวบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน
• ข่าวหลักทรัพย์จัดการกองทุน
• ข่าวกองทุนยูโอบี