กรุงเทพฯ--18 ก.ย.--สมาคมผู้เลี้ยงไก่เนื้อ
นายวีระพงษ์ ปัญจวัฒนกุล นายกสมาคมผู้เลี้ยงไก่เนื้อ เปิดเผยว่า ปัจจุบันอุตสาหกรรมการเลี้ยงไก่ของไทยยกระดับขึ้นสู่ความเป็นมาตรฐานสากลอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการปรับเปลี่ยนโรงเรือนเลี้ยงไก่ให้เป็นโรงเรือนระบบปิด การนำระบบบริหารจัดการฟาร์มเข้ามาใช้ การป้องกันและควบคุมโรค โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การปฏิบัติตามมาตรการที่กรมปศุสัตว์กำหนดไว้ทุกขั้นตอนอย่างเคร่งครัด ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการรายเล็ก กลาง หรือรายใหญ่ ล้วนอยู่ภายใต้มาตรฐานการผลิตเดียวกัน
“ผู้ประกอบการเลี้ยงไก่เนื้อทุกราย ล้วนต้องอยู่ภายใต้มาตรฐานเดียวกันของกรมปศุสัตว์ทั้งสิ้น เริ่มต้นตั้งแต่ลงลูกไก่ซึ่งต้องมีการขออนุญาตเคลื่อนย้ายลูกไก่ พอจะส่งไปชำแหละ ก็ต้องมีใบขออนุญาตเคลื่อนย้ายไก่ใหญ่อีก หากไม่มีใบอนุญาตถือว่ามีความผิดในคดีอาญา รุนแรงถึงขั้นจำคุก ทั้งยังมีการติดตามตรวจสอบเชื้อต่างๆในตัวไก่ในทุกขั้นตอน ทั้งหมดนี้เรียกได้ว่ารัดกุมเพียงพอ ที่จะทำให้ไก่เนื้อทุกตัวปลอดภัย ไม่ป่วย ผมกล้าพูดเลยว่า ไม่ว่าผู้บริโภคจะซื้อไก่เนื้อที่ไหนก็ปลอดภัยทั้งนั้น” นายกสมาคมฯ กล่าว
เนื้อไก่ จัดเป็นเนื้อสัตว์ที่ให้โปรตีนสูง โคเลสเตอรอลต่ำ และราคาไม่แพง เมื่อเทียบกับเนื้อสัตว์ชนิดอื่น สามารถนำมาปรุงเป็นเมนูอาหารต่างๆได้อย่างหลากหลาย เหมาะสมกับภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน สำหรับตัวเลขอัตราการบริโภคเนื้อไก่เฉลี่ยของคนไทย ณ ปี 2549 ยังคงระดับอยู่ที่ 13.82 กิโลกรัมต่อคนต่อปี ในขณะที่ชาวต่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา จะบริโภคเนื้อไก่กันถึง 46.13 กิโลกรัมต่อคนต่อปี แคนาดา 30.06 กิโลกรัมต่อคนต่อปี เป็นต้น อาจกล่าวได้ว่า คนไทยบริโภคเนื้อไก่น้อยกว่าที่ควรจะเป็น ทั้งๆที่ประเทศไทยเป็นผู้ผลิตเนื้อไก่เป็นอันดับ 4 ของโลก นายกสมาคมผู้เลี้ยงไก่เนื้อจึงขอเชิญชวนให้คนไทยหันมาบริโภคเนื้อไก่ให้มากขึ้น โดยทางสมาคมฯจะทำการรณรงค์บริโภคเนื้อไก่ผ่านสื่อต่างๆ ในเร็วๆนี้อีกด้วย
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
นายวีระพงษ์ ปัญจวัฒนกุล
นายกสมาคมผู้เลี้ยงไก่เนื้อ
โทร. 01-813-0694
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit