กรุงเทพฯ--3 ต.ค.--ตลาดหลักทรัพย์ฯ
ดร. สันติ กีระนันทน์ ผู้จัดการตลาดตราสารหนี้ (Bond Electronic Exchange หรือ BEX) ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้รับตั๋วเงินคลัง ซึ่งออกโดยกระทรวงการคลัง จำนวน 3 รุ่น และพันธบัตรของธนาคารแห่งประเทศไทย จำนวน 1 รุ่น รวมมูลค่า 31,000 ล้านบาท เข้าจดทะเบียนซื้อขายใน BEX ตั้งแต่วันที่ 2 และ 4 ตุลาคม 2549 ดังนี้
1. ตั๋วเงินคลังงวดที่ 01/28/50 ชื่อย่อ “TB06N01C” มูลค่า 6,000 ล้านบาท เริ่มซื้อขายวันที่ 2 ตุลาคม 2549
2. ตั๋วเงินคลังงวดที่ L1/91/50 ชื่อย่อ “TB07103B” มูลค่า 6,000 ล้านบาท เริ่มซื้อขายวันที่ 2 ตุลาคม 2549
3. ตั๋วเงินคลังงวดที่ L1/182/50 ชื่อย่อ “TB07404A” มูลค่า 7,000 ล้านบาท เริ่มซื้อขายวันที่ 2 ตุลาคม 2549
4. พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย งวดที่ S2/13/49 ชื่อย่อ “CB06O19B” มูลค่า 12,000 ล้านบาท อายุ 13 วัน ครบกำหนดไถ่ถอนวันที่ 19 ตุลาคม 2549 เริ่มซื้อขายวันที่ 4 ตุลาคม 2549
การเข้าจดทะเบียนของตั๋วเงินคลัง 3 รุ่น และพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย 1 รุ่น จะส่งผลให้มูลค่าคงค้างรวมของตราสารหนี้จดทะเบียนใน BEX เพิ่มขึ้นเป็น 3.207 ล้านล้านบาท ในจำนวนนี้ มีตราสารหนี้ที่ออกโดยภาครัฐคิดเป็นมูลค่า 2.956 ล้านล้านบาท
ผู้สนใจลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐและเอกชนที่จดทะเบียนใน BEX สามารถติดต่อบริษัทหลักทรัพย์ได้ ทุกแห่ง รวมทั้งสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับตราสารหนี้ไทยและต่างประเทศ ได้ทางเว็บไซต์ของตลาดตราสารหนี้ (BEX) ที่ www.bex.or.th หากต้องการข้อมูลเกี่ยวกับกองทุนรวมที่มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ ศึกษาเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ โครงการให้เงินทำงานผ่านกองทุนรวมที่ www.thaimutualfund.com หรือติดต่อบริษัทจัดการกองทุนทุกแห่ง
ติดต่อส่วนสื่อมวลชนสัมพันธ์ ฝ่ายสื่อสารองค์กร ลดาวัลย์ กันทวงศ์ โทร. 0-2229 – 2036 / กุลวิดา จินตกะวงส์ โทร. 0-2229 – 2037/
ณัฐพร บุญประภา โทร. 0-2229 – 2049 / วรรษมน เสาวคนธ์เสถียร โทร. 0-2229-2797