จับตา “อาจารย์ใหญ่ กลั่นแรงบันดาลใจของผู้เสียสละร่าง สู่ความหวาดระทึกที่ชวนแตกต่าง

01 Aug 2006

กรุงเทพฯ--1 ส.ค.--สหมงคลฟิล์ม

ฮือฮาและเป็นที่กล่าวถึงอย่างยิ่งเลยทีเดียวสำหรับ “อาจารย์ใหญ่” ภาพยนตร์ในแนวระทึกขวัญที่กลั่นมาจากสมองของ “ดุลยสิทธิ์ นิยมกุล” ผู้กำกับหนุ่มที่คร่ำหวอดอยู่ในวงการภาพยนตร์นับ 10 ปีโดยเฉพาะอย่างยิ่งแนวคิดและไอเดียการนำเสนอเรื่องราวของนักศึกษาแพทย์กับการศึกษาวิชากายวิภาคศาสตร์ซึ่งถูกนำมาผสมผสานและถ่ายทอดออกมาในรูปแบบภาพยนตร์ตื่นเต้นระทึกขวัญ โดยงานนี้ได้ 2 นักแสดงต่างรุ่นแต่มากฝีมืออย่าง นิรุตติ์ ศิริจรรยารุ่นใหญ่ที่การันตีในเรื่องการแสดงคุณภาพระดับคับแก้วในบทของ “อาจารย์แพทย์ประกิต” และ น้องรันณัทธมนกาญจน์ ศรีนิการโชติ รับบทเป็น“ไหม” นักศึกษาแพทย์ปีที่ 2 ที่ต้องพบกับเหตุการณ์ที่ชวนหวาดสะพรึง แต่กว่าจะมาลงตัวที่แนวคิดและไอเดียดังกล่าวได้ ผู้กำกับหนุ่มยอมรับว่า ทั้งตนเองและทีมงานได้ผ่านกระบวนการต่าง ๆ มากมาย ทั้งการค้นหาข้อมูลเพื่อนำมาเขียนบท เสาะหาสถานที่ถ่ายทำที่สมจริง

“เริ่มต้นจริง ๆ เลยมันมาจากว่า ผมอยากทำหนังซักเรื่องหนึ่งที่มันน่ากลัว ๆ แต่ก็อยากได้อะไรที่ใหม่ ๆ หน่อย อยากพูดถึงเรื่องที่คนยังไม่เคยพูดถึงในภาษาหนัง ผมก็เลยคิดไปว่ามีอะไรที่ทำให้เรารู้สึกกลัวได้บ้าง ผมก็คิดไปถึงศพ ผมว่าศพเนี่ยมันกระตุ้นความกลัวได้ดีนะ ผมเคยไปเจอศพที่ตายตามท้องถนนที่เขาคุมผ้าไว้ ผมก็รู้สึกกลัว ผมก็เลยคิดไปถึงสถานที่ซักที่ที่มันจะมีศพมารวมกันเยอะ ๆ ผมก็เลยนึกไปถึง ตึกกรอส(GROSS ANATOMY) เริ่มแรกผมคิดแค่นั้นเอง ผมยังไม่ได้คิดไปถึงอาจารย์ใหญ่

พอเราเริ่มรีเสิร์ทเรื่องตึกกรอสเราถึงไปพบเรื่องของอาจารย์ใหญ่

ซึ่งผมก็รู้สึกประทับใจที่ว่า เขาบริจาคร่างกายเขาเองให้กับคนอื่น โดยไม่ได้หวังอะไรตอบแทน

ผมรู้สึกว่ามันเป็นการเสียสละจริง ๆ เขาตายไป สิ่งที่เขาให้ได้ก็คือร่างกายเขา ซึ่งมันเป็นประโยชน์ต่อคนรุ่นต่อไปมาก

ผมก็เลยสนใจอยากจะหยิบประเด็นนี้ขึ้นมาพูด มาเล่า ให้คนได้ รับรู้ว่า มันมีการเสียสละที่ยิ่งใหญ่แบบนี้อยู่บนโลกนี้นะ ทีมงานใช้เวลา 2-3 เดือนที่ไป Research ข้อมูลต่าง ๆ มา จากการหาหนังสือมาอ่าน จากเว็บไซต์ แต่ส่วนใหญ่มาจากการพูดคุยกับอาจารย์และนักศึกษามากกว่า เรื่องของกระบวนการต่าง ๆ เราก็เขียนบทให้เป็นไปตามข้อมูลที่เราได้รู้

แต่เรื่องราวของตัวละครมันก็เป็นเรื่องของวิธีการเล่าของเราที่จะทำให้หนังสนุก และน่าติดตาม”

และด้วยแนวคิดและไอเดียที่แตกต่างนี่เองทำให้ “อาจารย์ใหญ่” กลายเป็นภาพยนตร์ระทึกขวัญที่น่าจับตามอง เพราะไม่เพียงแตกต่างและโดดเด่นจากหนังผีทั่วๆไปที่เราได้ดูกันแล้ว สามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่านี่คือภาพยนตร์ที่ผู้กำกับตัดสินใจเขียนบทและกำกับขึ้นมาได้สร้างสรรค์โดยได้รับแรงบันดาลใจจาก “อาจารย์ใหญ่” ผู้ซึ่งเสียสละและอุทิศได้แม้กระทั่งร่างกายของตนเองเพื่อธารความรู้แก่ผู้อื่นต่อๆ ไป ร่วมพิสูจน์กันได้ 24 สิงหาคมนี้ทุกโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศ

สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net